อาฤธโม 16 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971การกบฏของโคราห์ดาธานและอาบีรัม 1 โคราห์บุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรโคฮาท ผู้เป็นบุตรเลวีกับดาธาน และอาบีรัมบุตรเอลีอับกับโอนบุตรเปเลท บุตรรูเบนพาคนไป 2 และไปยืนต่อหน้าโมเสส พร้อมกับคนอิสราเอลจำนวนหนึ่ง เป็นผู้นำของชุมนุมชนมีสองร้อย ห้าสิบคนที่เลือกมาจากที่ประชุม เป็นคนมีชื่อ 3 และเขาทั้งหลายมาประชุมกันต่อโมเสสต่ออาโรน กล่าวแก่ท่านทั้งสองว่า <<ท่านทำเกินเหตุไป เพราะว่าชุมนุมชนทั้งหมดก็บริสุทธิ์ทุกๆคน และพระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางเขา เหตุใดท่านจึงผยองขึ้นเหนือที่ประชุมแห่งพระเจ้า>> 4 ครั้นโมเสสได้ยินก็ซบหน้าลงถึงดิน 5 ท่านจึงพูดกับโคราห์และพรรคพวกของเขาว่า <<พรุ่งนี้เช้าพระเจ้าจะทรงสำแดงให้เห็นว่า ผู้ใดเป็นของพระองค์และใครเป็นคนบริสุทธิ์ และจะทรงให้ผู้นั้นเข้าใกล้พระองค์ ผู้ใดที่พระองค์ทรงเลือก พระองค์จะทรงให้เข้าไปใกล้พระองค์ 6 จงกระทำอย่างนี้ ให้โคราห์และพรรคพวกของเขานำกระถางไฟมา 7 จงเอาไฟใส่และใส่เครื่องหอมต่อพระพักตร์ พระเจ้าในวันพรุ่งนี้ ผู้ใดที่พระเจ้าทรงเลือกก็จะเป็นคนบริสุทธิ์ บุตรของเลวีเอ๋ย ท่านทั้งหลายได้กระทำเกินเหตุไป>> 8 และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า <<พวกท่านผู้เป็นบุตรของเลวีจงฟัง 9 เป็นการเล็กน้อยสำหรับท่านอยู่หรือ ซึ่งพระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ แยกท่านออกจากชุมนุมชนอิสราเอล เพื่อนำท่านให้มาใกล้พระองค์ ให้ปฏิบัติงานในพลับพลาของ พระเจ้าและยืนอยู่ต่อหน้าชุมนุมชนเพื่อปรนนิบัติเขา 10 และพระองค์ทรงนำท่านมาใกล้พระองค์ รวมทั้งพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือบุตรหลานของเลวี ท่านทั้งหลายแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยหรือ 11 เพราะฉะนั้นที่ท่านและพรรคพวกของท่านได้ ประชุมกันก็เป็นการต่อสู้พระเจ้า ส่วนอาโรนเป็นอะไรเล่าที่ท่านได้บ่นว่าเขา>> 12 โมเสสใช้ให้ไปเรียกดาธานและอาบีรัมบุตรเอลีอับ เขาทั้งสองว่า <<เราไม่ขึ้นไป 13 เป็นการเล็กน้อยอยู่หรือที่ท่านนำ พวกเราจากแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ เพื่อจะฆ่าพวกเราเสียในถิ่นทุรกันดาร และท่านจะได้ตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้านายเหนือพวกเราด้วย 14 ยิ่งกว่านั้นอีก ท่านมิได้นำพวกเราเข้าไปยังแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ มิได้ให้พวกเรารับที่นาหรือสวนองุ่นเป็นมรดก ท่านจะควักตาคนเหล่านี้ออกเสียหรือ เราไม่ขึ้นไป>> 15 โมเสสโกรธมากและกราบทูลพระเจ้าว่า <<ขออย่าทรงโปรดปรานเครื่องบูชาของเขาเลย ข้าพระองค์มิได้เอาลาของเขามาสักตัวหนึ่ง และข้าพระองค์มิได้ทำอันตรายเขาสักคนเดียว>> 16 และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า <<ตัวท่านและพรรคพวกของท่านจงเข้าเฝ้าพระเจ้าในวันพรุ่งนี้ ทั้งตัวท่านพรรคพวกของท่านและอาโรน 17 ให้ทุกคนนำกระถางไฟของตนไป ใส่เครื่องหอมในนั้น ให้ทุกคนนำกระถางไฟเข้าเฝ้าต่อพระเจ้า มีกระถางไฟสองร้อยห้าสิบด้วยกัน ตัวท่านด้วยและอาโรน ต่างจงเอากระถางไฟของตนไป>> 18 ดังนั้นทุกคนจึงนำกระถางไฟของเขา ต่างเอาไฟใส่และเอาเครื่องหอมใส่ และเขาไปยืนอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ พร้อมกับโมเสสและอาโรน 19 โคราห์ก็ร่วมชุมนุมชนที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ ประจัญหน้าเขาทั้งสอง และพระสิริของพระเจ้าก็ปรากฏต่อชุมนุมชน 20 พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า 21 <<จงแยกตัวออกเสียจากชุมนุมชนนี้ เพื่อเราจะผลาญเขาเสียในพริบตาเดียว>> 22 เขาทั้งสองซบหน้าลงถึงดินกราบทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งจิต วิญญาณของมนุษย์ทั้งสิ้น เมื่อคนเดียวกระทำผิด พระองค์จะพิโรธแก่ชุมนุมชนทั้งหมดหรือ>> 23 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 24 <<จงกล่าวแก่ชุมนุมชนว่า จงออกไปให้ห่างที่อยู่ของโคราห์ ดาธาน และอาบีรัม>> 25 แล้วโมเสสลุกขึ้นไปหาดาธานและอาบีรัม และพวกผู้ใหญ่แห่งอิสราเอลก็ตามท่านไป 26 โมเสสจึงกล่าวแก่ชุมนุมชนนั้นว่า <<ท่านทั้งหลายออกไปเสีย ให้ห่างจากเต็นท์ของคนชั่วเหล่านี้ อย่าแตะต้องอะไรของเขาเลย เกลือกว่าท่านทั้งหลายจะต้อง ถูกกวาดไปกับบรรดาการบาปของเขาด้วย>> 27 ดังนั้นเขาทั้งหลายก็ออกไปให้ห่างจากที่อยู่ของโคราห์ ดาธาน และอาบีรัม และดาธานกับอาบีรัมออกมายืนอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน พร้อมกับภรรยา บุตรชายและลูกเล็กๆของเขา 28 และโมเสสพูดว่า <<ดังนี้แหละท่านทั้งหลายจะได้ทราบว่า พระเจ้าใช้ให้ข้ามากระทำการทั้งสิ้นนี้ ข้ามิได้กระทำตามอำเภอใจข้าเอง 29 ถ้าคนเหล่านี้ตายอย่างคนธรรมดาทั้งปวง หรือเคราะห์ร้ายอย่างคนธรรมดามาเยี่ยมเยียนเขา ก็หมายว่าพระเจ้ามิได้ทรงใช้ข้ามา 30 แต่ถ้าพระเจ้าบันดาลอะไรใหม่เกิดขึ้น และแผ่นธรณีอ้าปากกลืนคนเหล่านี้เข้าไป พร้อมกับข้าวของทั้งหมดของเขา และเขาทั้งหลายลงไปสู่แดนคนตายทั้งเป็น ท่านทั้งหลายจงทราบเถิดว่า คนเหล่านี้ได้สบประมาทพระเจ้า>> 31 เมื่อท่านกล่าวคำเหล่านี้จบแผ่นดินใต้ที่เขาเหล่านั้นยืนอยู่ ก็แยกออก 32 และแผ่นธรณีก็อ้าปากออกกลืนเขาทั้งหลายกับครอบครัว และบรรดาคนของโคราห์และข้าวของทั้งหมดของเขา 33 ดังนั้นเขาทั้งหลายพร้อม กับข้าวของทั้งหมดของเขาลงไปสู่แดนคนตายทั้งเป็น และแผ่นดินก็งับเขาไว้ และเขาทั้งหลายก็พินาศเสียจากท่ามกลางที่ประชุม 34 อิสราเอลทั้งหมดที่อยู่รอบเขาได้ยินเสียงร้อง ของเขาก็หนีไป เพราะเขากล่าวว่า <<เกลือกว่าธรณีจะกลืนเราเสีย>> 35 และไฟออกมาจากพระเจ้า เผาผลาญคนทั้งสองร้อยห้าสิบที่ได้ถวายเครื่องหอมนั้นเสีย 36 แล้วพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 37 <<จงบอกเอเลอาซาร์บุตรอาโรนปุโรหิต ให้เอากระถางไฟออกเสียจากเปลวเพลิง และเจ้าจงกระจายก้อนไฟออกห่างๆกัน เพราะกระถางไฟเหล่านั้นบริสุทธิ์ 38 คือกระถางของคนเหล่านี้ที่ได้ กระทำบาปจนถึงเสียชีวิตนั้น จงเอาค้อนตีแผ่ทำเป็นแผ่นคลุมแท่นบูชา เพราะได้ถวายกระถางเหล่านั้นแด่พระเจ้า จึงเป็นสิ่งบริสุทธิ์ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นหมายสำคัญแก่คนอิสราเอล>> 39 ดังนั้นเอเลอาซาร์ปุโรหิตจึงนำกระถางไฟทองสัมฤทธิ์ ซึ่งผู้ที่ถูกไฟเผานำไปบูชามาตีแผ่ออกเป็นแผ่นคลุมแท่นบูชา 40 ให้เป็นเครื่องเตือนใจคนอิสราเอล เพื่อว่าคนสามัญผู้ที่มิใช่เป็นเผ่าพันธุ์ของอาโรน จะมิได้เข้าไปเผาเครื่องหอมถวายพระเจ้า เกลือกว่าจะเป็นอย่างโคราห์และพรรคพวกของเขา ดังที่พระเจ้าตรัสกับเอเลอาซาร์ทางโมเสส 41 พอรุ่งขึ้นชุมนุมชนอิสราเอลก็บ่น ว่าโมเสสและอาโรนว่า <<ท่านได้ประหารชีวิตคนของพระเจ้าเสีย>> 42 และเมื่อชุมนุมชนมาประชุมประจัญหน้าโมเสสและ อาโรน เขาหันหน้ามาสู่เต็นท์นัดพบ และดูเถิด เมฆมาคลุมเต็นท์นั้น และพระสิริของพระเจ้าก็ปรากฏ 43 โมเสสกับอาโรนจึงมาหน้าเต็นท์นัดพบ 44 และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า 45 <<จงออกไปเสียจากท่ามกลางประชุมชนนี้ เพื่อเราจะผลาญเขาทั้งหลายเสียในพริบตาเดียว>> และท่านทั้งสองก็ซบหน้าลงถึงดิน 46 โมเสสพูดกับอาโรนว่า <<จงเอากระถางไฟของท่าน เอาไฟจากแท่นบูชาใส่ไว้ แล้วใส่เครื่องหอมรีบนำไปที่ชุมนุมชนทำ การลบมลทินบาปของชุมนุมชนนั้นเสีย เพราะพระพิโรธพลุ่งออกมาจากพระเจ้าแล้ว ภัยพิบัติได้บังเกิดขึ้น>> 47 อาโรนจึงนำกระถางไฟดังที่โมเสสบอก วิ่งเข้าไปท่ามกลางที่ประชุม และภัยพิบัติได้บังเกิดขึ้นแก่ประชาชนแล้วและท่านได้ ใส่เครื่องหอมและทำการลบมลทินบาปของประชาชน 48 ท่านได้ยืนอยู่ระหว่างคนตายกับคนเป็นและภัยพิบัติ นั้นก็ถูกระงับแล้ว 49 บรรดาคนที่ตายด้วยภัยพิบัติมีหนึ่งหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยคน ไม่นับคนที่ตายด้วยเรื่องของโคราห์ 50 เมื่อภัยพิบัติถูกระงับแล้ว อาโรนก็กลับไปหาโมเสสทางเข้าเต็นท์นัดพบ |