มัทธิว 8 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971ทรงรักษาคนโรคเรื้อนให้หาย ( มก. 1:40-45 ; ลก. 5:12-16 ) 1 เมื่อพระองค์เสด็จลงมาจากภูเขาแล้ว คนเป็นอันมากได้ติดตามพระองค์ไป 2 ขณะนั้นมีคนโรคเรื้อนมากราบไหว้พระองค์ แล้วทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า เพียงแต่พระองค์จะโปรด ก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์หายโรคได้>> 3 พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ถูกต้องเขาแล้วตรัสว่า <<เราพอใจแล้ว จงหายเถิด>> ในทันใดนั้น โรคเรื้อนของเขาก็หาย 4 ฝ่ายพระเยซูตรัสสั่งเขาว่า <<อย่าบอกเล่าให้ผู้ใดฟังเลย แต่จงไปสำแดงตัวแก่ปุโรหิต และถวายเครื่องบูชา ตามซึ่งโมเสสได้สั่งไว้ เพื่อเป็นหลักฐานต่อคนทั้งหลายว่าเจ้าหายโรคแล้ว>> ทรงรักษาบ่าวของนายร้อย ( ลก. 7:1-10 ) 5 เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม มีนายร้อยคนหนึ่งมาอ้อนวอนพระองค์ 6 ว่า <<พระองค์เจ้าข้า บ่าวของข้าพระองค์เป็นง่อยอยู่ที่บ้านทนทุกข์เวทนามาก>> 7 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า <<เราจะไปรักษาเขาให้หาย>> 8 นายร้อยผู้นั้นทูลพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เป็นคนไม่สมควรที่จะรับเสด็จพระองค์เข้าใต้ชายคาของข้าพระองค์ ขอพระองค์ตรัสเท่านั้น บ่าวของข้าพระองค์ก็จะหายโรค 9 ข้าพระองค์รู้ดี เพราะเหตุว่าข้าพระองค์อยู่ใต้วินัยทหาร แต่ก็ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบอกแก่คนนี้ว่า <ไป> เขาก็ไป บอกแก่คนนั้นว่า <มา> เขาก็มา บอกทาสของข้าพระองค์ว่า <จงทำสิ่งนี้> เขาก็ทำ>> 10 ครั้นพระเยซูทรงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดพระทัยนัก ตรัสกับบรรดาคนที่ตามพระองค์ว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เราไม่เคยพบศรัทธาที่ไหนมากเท่านี้แม้ในอิสราเอล 11 เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนเป็นอันมากจะมาจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก จะมาร่วมสำรับกับอับราฮัม และอิสอัค และยาโคบในแผ่นดินสวรรค์ 12 แต่ชาวแผ่นดินนั้นจะต้องถูกขับไล่ไสส่งออกไปในที่มืด ที่นั่นจะมีเสียงร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน>> 13 แล้วพระเยซูจึงตรัสกับนายร้อยว่า <<จงกลับบ้านเถิด ท่านมีศรัทธาแล้ว จงได้ผลตามศรัทธานั้น>> ในทันใดนั้นเอง บ่าวของเขาก็หายเป็นปกติ พระเยซูทรงรักษาแม่ยายของเปโตร ( มก. 1:29-31 ; ลก. 4:38-39 ) 14 ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเรือนของเปโตร ก็ทรงเห็นแม่ยายของเปโตรนอนป่วยจับไข้อยู่ 15 พอพระองค์ทรงจับมือนาง ความไข้ก็หาย นางจึงลุกขึ้นปรนนิบัติพระองค์ พระเยซูทรงรักษาคนเวลาค่ำ ( มก. 1:32-34 ; ลก. 4:40-41 ) 16 พอค่ำลง เขาพาคนผีเข้าสิงเป็นอันมากมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงขับผีออกด้วยพระดำรัส และบรรดาคนเจ็บป่วยทั้งหลายนั้น พระองค์ก็ได้ทรงรักษาให้หาย 17 ทั้งนี้เพื่อจะให้สำเร็จตามพระวจนะโดยอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะที่ว่า ท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบโรคของเราไป ผู้ที่ใคร่จะเป็นศิษย์ของพระเยซู ( ลก. 9:57-62 ) 18 ครั้นพระเยซูทรงเห็นประชาชนเป็นอันมากมาล้อมพระองค์ไว้ พระองค์จึงตรัสสั่งให้ข้ามฟากไป 19 ขณะนั้นมีธรรมาจารย์คนหนึ่งมาหาพระองค์ทูลว่า <<อาจารย์เจ้าข้า ท่านไปทางไหน ข้าพเจ้าจะตามท่านไปทางนั้น>> 20 พระเยซูจึงตรัสว่า <<หมาจิ้งจอกยังมีโพรง และนกในอากาศก็ยังมีรัง แต่บุตรมนุษย์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ>> 21 อีกคนหนึ่งในพวกศิษย์ของพระองค์มาทูลพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ไปฝังศพบิดาข้าพระองค์ก่อน>> 22 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า <<จงตามเรามาเถิด ปล่อยให้คนตายฝังคนตายของเขาเองเถิด>> พระเยซูทรงห้ามพายุ ( มก. 4:35-41 ; ลก. 8:22-25 ) 23 เมื่อพระองค์เสด็จลงเรือ พวกสาวกของพระองค์ก็ตามพระองค์ไป 24 ดูเถิด เกิดพายุใหญ่ในทะเลสาบจนคลื่นซัดท่วมเรือ แต่พระองค์บรรทมหลับอยู่ 25 และพวกสาวกได้มาปลุกพระองค์ ทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยเถิด พวกเรากำลังจะจมอยู่แล้ว>> 26 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า <<เหตุไฉนจึงขลาดนัก ช่างมีศรัทธาน้อยเสียจริงๆ>> แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้นห้ามลมและทะเล คลื่นลมก็สงบเงียบทั่วไป 27 คนเหล่านั้นก็อัศจรรย์ใจพูดกันว่า <<ท่านผู้นี้เป็นคนอย่างไรหนอ จนชั้นลมและทะเลก็เชื่อฟังท่าน>> สองคนผีเข้า ณ แดนกาดารา ( มก. 5:1-20 ; ลก. 8:26-39 ) 28 ครั้นพระองค์ทรงข้ามฟากไปถึงแดนกาดาราแล้ว มีคนสองคนออกมาจากอุโมงค์ฝังศพ มาพบพระองค์ เขาผีเข้าสิงดุร้ายนัก จนไม่มีผู้ใดอาจเดินทางนั้นได้ 29 ดูเถิด เขาร้องตะโกนว่า <<ท่านผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า ท่านจะมายุ่งกับพวกเราทำไม จะมาทรมานพวกเราก่อนเวลาหรือ>> 30 ไกลจากที่นั่นมีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ 31 ผีเหล่านั้นได้อ้อนวอนพระองค์ว่า <<ถ้าท่านขับพวกเราออกก็ขอให้เข้าอยู่ในฝูงสุกรนั้นเถิด>> 32 พระองค์จึงตรัสแก่ผีเหล่านั้นว่า <<ไปให้พ้น>> ผีเหล่านั้นก็ออกไปเข้าสิงอยู่ในฝูงสุกร ดูเถิด สุกรทั้งฝูงนั้นก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเล และจมน้ำตายจนสิ้น 33 ฝ่ายคนเลี้ยงสุกรก็หนีเข้าไปในนคร เล่าบรรดาเหตุการณ์ซึ่งเป็นไปนั้น กับเหตุที่เกิดขึ้นแก่คนที่มีผีเข้าสิงอยู่นั้น 34 ดูเถิด คนทั้งนครพากันออกมาหาพระเยซู เมื่อพบพระองค์แล้ว เขาจึงอ้อนวอนขอให้พระองค์ไปเสียจากเขตแดนของเขา |