โยเอล 2 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 19711 จงเป่าเขาสัตว์ที่ในศิโยน จงเปล่งเสียงปลุกบนภูเขาบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า ให้ชาวแผ่นดินทั้งสิ้นตัวสั่น เพราะวันแห่งพระเจ้ากำลังมาแล้ว ใกล้เข้ามาแล้ว 2 เป็นวันแห่งความมืดและความมืดครึ้ม เป็นวันที่มีเมฆและความมืดทึบ ประชากรจำนวนมากและมีกำลังยิ่ง ปกคลุมอยู่บนภูเขาดำทะมื่นไปหมด ตั้งแต่สมัยโบราณก็ไม่เคยมีเหมือนอย่างนี้ และตั้งแต่นี้ไปก็จะไม่มีอีก ตลอดปีทั้งหลายชั่วชาติพันธุ์ 3 ไฟเผาผลาญอยู่ข้างหน้ามันทั้งหลาย และเปลวไฟไหม้อยู่ข้างหลัง แผ่นดินนั้นเหมือนสวนเอเดน ก่อนหน้ามันทั้งหลาย พอให้หลังมันไปแล้วก็เป็นถิ่นทุรกันดารที่ร้างเปล่า ไม่มีอะไรรอดพ้นมันเลย 4 ร่างของมันทั้งหลายเหมือนร่างของพวกม้า มันวิ่งเหมือนกับม้าสงคราม 5 เหมือนอย่างเสียงรถรบ มันเผ่นอยู่บนยอดเขา เหมือนเสียงแตกของเปลวไฟ ที่ไหม้ตอข้าว เหมือนกองทัพอันเข้มแข็ง แปรกระบวนเข้าสงคราม 6 เมื่อชนชาติทั้งหลายเห็นมันก็กระสับกระส่าย ใบหน้าทุกคนก็ซีดเซียว 7 มันทั้งหลายวิ่งเหมือนทหาร และปีนกำแพงเหมือนนักรบ ต่างก็เดินไปตามทางของตัว มันไม่แตกแถวออกไป 8 มันทั้งหลายไม่รวนกันเลย ต่างก็เดินอยู่ในทางของตน มันตะลุยฝ่าอาวุธ ไม่มีอะไรยับยั้ง 9 มันกระโดดเข้าในเมือง มันวิ่งอยู่บนกำแพงเมือง มันปีนเข้าไปในบ้านเรือน มันเข้าไปทางหน้าต่างเหมือนกับโจร 10 แผ่นดินโลกหวั่นไหวต่อหน้ามัน ฟ้าสวรรค์สั่นสะเทือน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็มืดไป ดวงดาวก็อับแสง 11 พระเจ้าทรงส่งพระสุรเสียง ต่อกองทัพของพระองค์ กองทัพของพระองค์ใหญ่โตยิ่งนัก ผู้ที่กระทำตามพระวจนะของพระองค์นั้นมีเดชานุภาพมาก เพราะว่าวันของพระเจ้าเป็นวันใหญ่โตและน่ากลัวยิ่งนัก ผู้ใดเล่าจะทนอยู่ได้ พระกรุณาธิคุณของพระเจ้า 12 พระเจ้าตรัสว่า <<ถึงกระนั้นก็ดี เจ้าทั้งหลายจงกลับมาหาเราเสียเดี๋ยวนี้ ด้วยความเต็มใจ ด้วยการอดอาหาร ด้วยการร้องไห้ และด้วยการโอดครวญ 13 จงฉีกใจของเจ้า มิใช่ฉีกเสื้อผ้าของเจ้า>> จงหันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพระองค์ทรงกอปรด้วยพระคุณและทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และทรงกลับพระทัยไม่ลงโทษ 14 ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจจะทรงกลับและเปลี่ยนพระทัย และทรงอำนวยพระพรไว้ คือให้มีธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับถวาย แด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านแล้ว 15 จงเป่าเขาสัตว์ที่ในศิโยน จงเตรียมทำพิธีอดอาหาร จงเรียกประชุมตามพิธี 16 จงรวบรวมบรรดาประชาชน จงชำระชุมนุมชนให้บริสุทธิ์ จงประชุมบรรดาผู้ใหญ่ จงรวบรวมเด็กๆ แม้ว่าเด็กที่ยังกินนม จงให้เจ้าบ่าวออกจากเรือนหอ และเจ้าสาวออกจากห้องของตน 17 ให้ปุโรหิต คือผู้ปรนนิบัติพระเจ้า คร่ำครวญอยู่ระหว่างเฉลียงและแท่นบูชา ให้ทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเวทนาประชากรของพระองค์ ขออย่าทรงกระทำให้มรดกของพระองค์ที่เขาประณามกัน และเป็นที่เยาะเย้ยในท่ามกลางประชาชาติ ควรหรือที่เขาจะกล่าวท่ามกลางชนชาติทั้งหลายว่า <พระเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน> >> 18 แล้วพระเจ้าทรงหวงแหนแผ่นดินของพระองค์ และทรงสงสารประชากรของพระองค์ 19 พระเจ้าทรงตอบประชากรของพระองค์ว่า <<ดูเถิด เราจะส่ง ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมันให้แก่เจ้า เจ้าทั้งหลายจะได้อิ่มหนำสำราญ เราจะไม่กระทำให้เจ้า เป็นที่เขาประณามกันท่ามกลางประชาชาติต่อไปอีก 20 <<เราจะถอนศัตรูทิศเหนือไปให้ห่างไกลจากเจ้า และขับไล่มันเข้าไปในแผ่นดินแห้งแล้งและร้างเปล่า กองหน้าของมันจะเข้าไปในทะเลด้านตะวันออก และกองหลังของมันเข้าไปในทะเลด้านตะวันตก กลิ่นเหม็นคลุ้งของมันจะขึ้นมา และกลิ่นเหม็นเน่าของมันก็ขึ้นมา เพราะมันทำการใหญ่โตมาก 21 <<โอ แผ่นดินเอ๋ย อย่ากลัวเลย จงยินดีและเปรมปรีดิ์เถิด เพราะพระเจ้าทรงทำการใหญ่โตมาก 22 เจ้าที่เป็นสัตว์ป่าเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าทุ่งหญ้าในถิ่นทุรกันดารนั้นเขียวสด ต้นไม้เกิดผล ต้นมะเดื่อและเถาองุ่นออกผลอย่างบริบูรณ์ 23 <<โอ บุตรทั้งหลายของศิโยนเอ๋ยจงยินดีเถิด จงเปรมปรีดิ์ในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เพราะว่าพระองค์ทรงช่วยกู้เจ้าด้วยฝนต้นฤดู พระองค์ทรงเทฝนลงมาให้เจ้า คือฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดูอย่างแต่ก่อน 24 <<ลานนวดข้าวจะมีข้าวอยู่เต็ม จะมีเหล้าองุ่นและน้ำมันอยู่เต็มล้นบ่อเก็บ 25 เราจะให้บรรดาปีของเจ้าคืนสู่สภาพเดิม คือที่ตั๊กแตนวัยบินได้กินเสีย ที่ตั๊กแตนวัยกระโดด ตั๊กแตนวัยคลาน และตั๊กแตนวัยเดินได้กิน คือกองทัพใหญ่ของเราที่เราส่งมาท่ามกลางเจ้านั้น 26 <<เจ้าทั้งหลายจงรับประทานอย่างบริบูรณ์และอิ่มหนำ และสรรเสริญพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงกระทำแก่เจ้าอย่างมหัศจรรย์ ประชากรของเราจะไม่ต้องขายหน้าอีก 27 เจ้าจะรู้ว่าเราอยู่ท่ามกลางอิสราเอล และเรานี่แหละคือพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าของเจ้า ไม่มีอื่นใดอีก ประชากรของเราจะไม่ต้องขายหน้าอีก พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณ 28 <<ต่อมาภายหลังจะเป็นอย่างนี้ คือเราจะเทพระวิญญาณของเรามาเหนือมนุษย์ทั้งปวง บุตรชายบุตรหญิงของเจ้าทั้งหลายจะเผยพระวจนะ คนชราของเจ้าจะฝัน และคนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต 29 ในกาลครั้งนั้น เราจะเทพระวิญญาณของเรา มาเหนือกระทั่งคนใช้ชายหญิง 30 <<เราจะสำแดงลางอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดิน เป็นเลือดและไฟและลำควัน 31 ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืด ดวงจันทร์เป็นเลือด ก่อนวันใหญ่ยิ่งและน่าสยดสยองของพระเจ้ามาถึง 32 และอยู่มาจะเป็นอย่างนี้ คือผู้ที่ร้องทูลออกพระนามของพระเยโฮวาห์จะ รอด เพราะจะมีคนรอดพ้นในภูเขาศิโยนและใน เยรูซาเล็มตามที่พระเจ้าตรัสไว้ และในพวกคนที่รอดนั้นจะมีบรรดาบุคคล ที่พระเจ้าทรงเรียกด้วย |