เยเรมีย์ 6 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971ความพินาศที่จะมาถึงเยรูซาเล็มและยูดาห์ 1 ประชาชนเบนยามินเอ๋ย จงหนีไปเพื่อความปลอดภัย จากกลางกรุงเยรูซาเล็ม จงเป่าเขาสัตว์ในเมืองเทโคอา และยกสัญญาณขึ้นไว้บนเบธฮักเคเรม เพราะเหตุร้ายโผล่ออกมาจากทิศเหนือ คือการทำลายอย่างใหญ่หลวง 2 เราจะทำลายสาวสวยและแบบบาง คือบุตรีของศิโยนเสีย 3 ผู้เลี้ยงแกะพร้อมกับฝูงแกะจะมาสู้เธอ เขาจะตั้งเต็นท์ไว้รอบเธอ ต่างก็จะหากินอยู่ในที่ของมัน 4 <<จงเตรียมทำสงครามกับเธอ ลุกขึ้น ให้เราโจมตีเวลาเที่ยงวัน>><<วิบัติแก่พวกเรา เพราะว่ากลางวันคล้อยเสียแล้ว เงาของเวลาเย็นก็ยาวออกไป>> 5 <<ลุกขึ้น ให้เราเข้าตีเวลากลางคืน และทำลายบรรดาวังของเธอเสีย>> 6 เพราะพระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<จงโค่นต้นไม้ของเธอลง จงก่อเชิงเทินไว้สู้กรุงเยรูซาเล็ม นี่แหละนครที่ต้องถูกทำโทษ ภายในเธอไม่มีอะไรนอกจากการบีบบังคับ 7 บ่อน้ำยังน้ำเย็นให้มีอยู่เสมอฉันใด เธอก็ยังความอธรรมให้เกิดขึ้นเรื่อยๆฉันนั้น ได้ยินถึงความทารุณและการทำลายมีภายในเธอ ความเจ็บปวดและความบาดเจ็บก็ปรากฏต่อเราเสมอ 8 กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงรับคำตักเตือนเถิด เกรงว่าเราจะพรากรักจากเจ้าไปเสีย เกรงว่าเราจะกระทำเจ้าให้เป็นที่เริศร้าง เป็นแผ่นดินปราศจากคนอาศัย>> 9 พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<เขาทั้งหลายจะกวาดชนอิสราเอล ชนที่เหลืออยู่นั้นเสียให้เกลี้ยงอย่างเล็มเถาองุ่น เหมือนคนเก็บผลองุ่นเอามือเก็บผล ตามกิ่งของมันอีกคำรบหนึ่ง>> 10 ข้าพเจ้าควรจะพูดและให้คำตักเตือนแก่ผู้ใดดีนะ เพื่อเขาจะได้เชื่อฟัง ดูเถิด หูของเขาตันเสียแล้ว เขาฟังไม่ได้ ดูเถิด พระวจนะของพระเจ้าเป็นสิ่งที่เขาดูแคลน เขาไม่พอใจฟัง 11 เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมีพระพิโรธของพระเจ้าเต็มไปหมด ข้าพเจ้าจะเก็บไว้อีกไม่ไหวแล้ว <<จงเทออกรดเด็กๆที่ตามถนน และรดพวกหนุ่มๆที่ชุมนุมกันอยู่ด้วย ทั้งสามีและภรรยาก็จะต้องเอาไป ทั้งคนแก่และคนชราด้วย 12 บ้านเรือนของเขาจะต้องยกให้เป็นของคนอื่น ทั้งไร่นาและภรรยาของเขาด้วย เพราะเราจะเหยียดมือของเราออกต่อสู้ชาวแผ่นดิน>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ 13 <<เพราะว่า ตั้งแต่คนที่ต่ำต้อยที่สุดจนถึงคนใหญ่โตที่สุด ทุกคนโลภอยากได้กำไร และทุกคนก็กระทำการด้วยความเท็จ ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะตลอดถึงปุโรหิต 14 เขาทั้งหลายได้รักษาแผลแห่งประชากรของเราแต่เล็กน้อย กล่าวว่า <สวัสดิภาพ สวัสดิภาพ> เมื่อไม่มีสวัสดิภาพเลย 15 เมื่อเขากระทำการน่าเกลียดน่าชังเขาละอายหรือ เปล่าเลย เขาไม่ละอายเสียเลยทีเดียว เขาไม่รู้จักว่าอย่างไรจึงจะขายหน้า เพราะฉะนั้นเขาจะล้มลงท่ามกลางพวกที่ล้มแล้ว เมื่อเราลงโทษเขาทั้งหลาย เขาจะคว่ำ>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ 16 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<จงยืนที่ถนนและมองให้ดี และถามหาทางโบราณนั้น ว่าทางดีอยู่ที่ไหน แล้วจงเดินในทางนั้น และให้จิตใจของท่านได้ความสงบ แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า <เราจะไม่เดินในนั้น> 17 เราวางยามไว้เหนือเจ้า สั่งว่า <จงฟังเสียงเขาสัตว์> แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า <เราทั้งหลายจะไม่ยอมฟัง> 18 เพราะฉะนั้น บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงฟัง ที่ประชุมเอ๋ย จงทราบเถิดว่าอะไรจะบังเกิดขึ้นแก่เขา 19 พิภพเอ๋ย จงฟังเถิด ดูเถิด เรากำลังนำความร้ายมาเหนือชนชาตินี้ คือผลแห่งกโลบายของเขา เพราะเขามิได้เชื่อฟังถ้อยคำของเรา ส่วนพระธรรมของเรานั้นเขาปฏิเสธเสีย 20 มีกำยานมาถึงเราจากเมืองเชบา มีตะไคร้ส่งมาจากเมืองไกลเพื่ออะไรเล่า เครื่องเผาบูชาของเจ้าก็ยังไม่เป็นที่รับได้ หรือเครื่องสักการบูชาของเจ้าก็ไม่เป็นที่พอใจเรา 21 เพราะฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสดังนี้ว่า <ดูเถิด ต่อหน้าชนชาตินี้ เราจะวางเครื่องสะดุดไว้ให้เขาสะดุด ทั้งบิดาและบุตรด้วยกัน ทั้งเพื่อนบ้านและมิตรสหายจะพินาศ> >> 22 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ดูเถิด ชนชาติหนึ่งกำลังมาจากแดนเหนือ ประชาชาติใหญ่ชาติหนึ่งถูกเร้าให้มาจาก ส่วนที่ไกลที่สุดของพิภพ 23 เขาทั้งหลายจับคันธนูและหอก เขาทั้งหลายดุร้ายและไม่มีความสงสาร เสียงของเขาก็เหมือนเสียงทะเลกำเริบ เขาทั้งหลายขี่ม้า และจัดเตรียมกระบวนเหมือนชายที่จะเข้าสงคราม บุตรีศิโยนเอ๋ย เขาทั้งหลายมาต่อสู้เจ้า>> 24 พวกเราได้ยินข่าวพวกนั้น มือของเราก็อ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้ ความแสนระทมได้จับเราไว้ เป็นความเจ็บเหมือนสตรีกำลังคลอดบุตร 25 อย่าเดินออกไปในทุ่งนา หรือเดินบนถนน เพราะศัตรูมีดาบ มีความสยดสยองอยู่ทุกด้าน 26 บุตรีแห่งประชากรของเราเอ๋ย จงเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้ และกลิ้งเกลือกอยู่ในกองเถ้า จงไว้ทุกข์เหมือนเพื่อบุตรชายคนเดียว เป็นการคร่ำครวญอย่างแสนขมขื่นที่สุด เพราะว่าผู้ทำลาย มาสู้เราในทันทีทันใด 27 <<เราได้กระทำให้เจ้าเป็นผู้ลองและผู้ทดสอบท่ามกลางประชากรของเรา เพื่อเจ้าจะทราบและลองพฤติการณ์ทั้งหลายของเขา 28 เขาทั้งหลายมักกบฏอย่างดื้อด้านทั้งสิ้น เที่ยวนินทาเขาไป เขาทั้งหลายเป็นทองสัมฤทธิ์ และเป็นเหล็ก เขาทุกคนประพฤติเลวทรามทั้งนั้น 29 เครื่องสูบลมของเขาสูบอย่างดุเดือด ตะกั่วก็ถูกไฟเผาผลาญเสีย ถลุงกันเรื่อยไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะว่าคนชั่วก็ยังไม่หายไปได้ 30 จะเรียกเขาทั้งหลายได้ว่าเป็นขี้เงิน เพราะพระเจ้าทรงปฏิเสธ เขาเสียแล้ว>> |