Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -

เยเรมีย์ 5 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971


บาปของเยรูซาเล็มและยูดาห์

1 จงวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในถนนกรุงเยรูซาเล็ม จงมองและสังเกต จงค้นตามลานเมืองดูทีว่า จะหามนุษย์สักคนหนึ่งได้หรือไม่ คือคนที่กระทำการยุติธรรม และแสวงหาความจริง เพื่อเราจะได้อภัยโทษให้แก่เมืองนั้น

2 แม้เขาทั้งหลายกล่าวว่า <<ตราบใดที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่>> เขาก็ยังสาบานอย่างเท็จ

3 ข้าแต่พระเจ้า พระเนตรของพระองค์ทรงหาความสัตย์จริงมิใช่หรือ พระองค์ทรงเฆี่ยนตีเขาทั้งหลาย แต่เขาก็ไม่รู้สึกสำนึก พระองค์ทรงล้างผลาญเขา แต่เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่ยอมดีขึ้น เขาได้กระทำให้หน้าของเขากระด้างยิ่งกว่าหิน เขาปฏิเสธไม่ยอมกลับใจ

4 แล้วข้าพเจ้าทูลว่า <<คนเหล่านี้เป็นแต่ผู้น้อย เขาไม่มีความคิด เพราะเขาไม่รู้จักพระมรรคาของพระเจ้า ไม่รู้จักพระธรรมของพระเจ้าของเขา

5 ข้าพระองค์จะไปหาพวกผู้ใหญ่ และจะพูดกับเขาทั้งหลาย เพราะเขารู้จักพระมรรคาของพระเจ้า และรู้จักพระธรรมของพระเจ้าของเขา>> แต่เขาทั้งหลายทุกคนก็ได้หักแอกเสีย เขาทั้งหลายได้ระเบิดพันธนะเสีย

6 เพราะฉะนั้น สิงห์จากป่าจะมาสังหารเขา สุนัขป่าจากป่าดอนจะทำลายเขา เสือดาวกำลังเฝ้าหัวเมืองทั้งหลายของเขา ทุกคนที่ไปจากเมืองเหล่านั้นจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เพราะว่าความทรยศของเขามากมาย การกลับสัตย์ของเขาก็ใหญ่ยิ่ง

7 <<เราจะให้อภัยเจ้าได้อย่างไร ลูกหลานของเจ้าได้ละทิ้งเราแล้ว และได้อ้างผู้ที่ไม่ใช่พระเจ้าในการทำสัตย์สาบาน เมื่อเราเลี้ยงเขาให้อิ่ม เขาก็ทำการล่วงประเวณี แล้วก็ยกขบวนกันไปที่เรือนของหญิงแพศยา

8 เขาทั้งหลายเหมือนม้าผู้พันธุ์ที่กลัดมัน ทุกคนก็ร้องหาภรรยาของเพื่อนบ้าน

9 พระเจ้าตรัสว่า เพราะสิ่งอย่างนี้เราจะไม่ทำโทษเขาหรือ และเราไม่ควรที่จะแก้แค้นประชาชาติที่เป็นอย่างนี้หรือ

10 <<ไปเถอะ ไปตามแถวต้นองุ่นของมันและทำลายเสีย แต่อย่าไปถึงอวสานทีเดียว ตัดกิ่งก้านของมันออก เพราะนั่นไม่ใช่เป็นของพระเจ้า

11 เพราะพงศ์พันธุ์ของอิสราเอล และพงศ์พันธุ์ของยูดาห์ ได้ทรยศต่อเราอย่างสิ้นเชิงแล้ว พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ

12 เขาทั้งหลายพูดมุสาในเรื่องพระเจ้า และได้กล่าวว่า <พระองค์มิได้ทรงกระทำประการใด ไม่มีการร้ายอันใดจะเกิดขึ้นแก่เรา เราก็จะไม่เห็นดาบหรือการกันดารอาหาร

13 ผู้เผยพระวจนะก็จะเป็นแต่ลมๆ พระวจนะไม่มีในคนเหล่านั้น ขอให้เป็นอย่างนั้นแก่เขาเถิด> >>

14 เพราะฉะนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาจึงตรัสดังนี้ว่า <<เพราะเขาทั้งหลายกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ ดูเถิด เราจะทำถ้อยคำของเราที่อยู่ในปากของเจ้าให้เป็นไฟ และชนชาตินี้เป็นฟืน และไฟนั้นจะเผาผลาญเขาเสีย

15 ดูเถิด ประชาอิสราเอลเอ๋ย เราจะนำประชาชาติจากแดนไกลมาสู้ เจ้าทั้งหลาย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เป็นประชาชาติที่ทนทาน เป็นประชาชาติดึกดำบรรพ์ เป็นประชาชาติที่เจ้าไม่รู้ภาษาของเขา เขาจะพูดอะไรเจ้าก็ไม่เข้าใจ

16 แล่งธนูของเขาเหมือนอุโมงค์เปิด เขาเป็นทแกล้วทหารทุกคน

17 เขาจะกินซึ่งเจ้าเกี่ยวได้ และกินอาหารของเจ้าเสีย เขาจะกินบุตรชายและบุตรหญิงของเจ้าเสีย เขาจะกินฝูงแกะฝูงโคของเจ้าเสีย เขาจะกินเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของเจ้าเสีย เขาจะทำลายตัวเมืองที่มีป้อมของเจ้า ซึ่งเจ้าวางใจนั้นเสียด้วยดาบ>>

18 พระเจ้าตรัสว่า <<ถึงแม้ว่าในวันเหล่านั้น เราก็ยังไม่กระทำแก่เจ้าให้ถึงอวสาน

19 และเมื่อเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า <ทำไมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ทั้งหลายจึงกระทำบรรดาสิ่งเหล่านี้แก่เรา> เจ้าจงกล่าวแก่เขาว่า <เพราะเจ้าได้ละทิ้งเราไปปรนนิบัติพระต่างด้าว ในแผ่นดินของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องไปปรนนิบัติคนต่างชาติใน แผ่นดินซึ่งไม่ใช่ของเจ้า> >>

20 จงประกาศข้อความต่อไปนี้ในประชายาโคบ จงโฆษณาเรื่องนี้ในยูดาห์

21 <<ชนชาติที่โง่เขลาและไร้ความคิดเอ๋ย ผู้มีตา แต่มองไม่เห็น ผู้มีหู แต่ฟังไม่ได้ยิน จงฟังข้อความนี้

22 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าไม่ยำเกรงเราหรือ เจ้าไม่ตัวสั่นอยู่ต่อหน้าเราหรือ คือเราผู้วางกองทรายไว้เป็นเขตล้อมทะเล เป็นเครื่องกีดขวางเป็นนิตย์มิให้ผ่านไปได้ แม้ว่าคลื่นจะซัด ก็เอาชนะไม่ได้ แม้ว่าคลื่นจะคะนอง ก็ข้ามไปไม่ได้

23 แต่ชนชาตินี้มีใจดื้อดึงและกบฏ เขาได้หันเหและจากไปเสีย

24 ข้อความนี้เขาไม่มุ่งอยู่ในใจของ เขาทั้งหลายว่า <ให้เรายำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ผู้ทรงประทานฝนตามฤดูของมัน คือฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู และทรงรักษา สัปดาห์ที่กำหนดการเกี่ยวข้าวไว้ให้แก่เรา>

25 บาปชั่วของเจ้าได้กระทำให้สิ่งเหล่านี้หันไปเสีย และบาปของเจ้าทั้งหลายก็กันความดีไว้เสียจากเจ้า

26 เพราะท่ามกลางประชากรของเราจะพบคนอธรรม เขาซุ่มคอยเหมือนคนดักนกซุ่มอยู่ เขาวางกับไว้ เขาดักคน

27 เรือนของเขาเต็มด้วยการทรยศ เหมือนกระจาดที่มีนกเต็ม เพราะฉะนั้นเขาจึงใหญ่โตและมั่งมี

28 เขาจึงอ้วนพีจนตัวเกลี้ยงเกลา ในเรื่องการกระทำความอธรรมเขาล้ำหน้า เขามิได้ตัดสินด้วยความยุติธรรม ในคดีของลูกกำพร้า เพื่อให้คดีนั้นถึงที่สุด เขามิได้ป้องกันสิทธิของคนขัดสน

29 พระเจ้าตรัสว่า เพราะสิ่งอย่างนี้เราจะไม่ทำโทษเขาหรือ และไม่ควรที่เราจะแก้แค้นประชาชาติที่เป็นอย่างนี้หรือ>>

30 สิ่งที่น่าตกตะลึงและน่าหวาดเสียว ได้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้

31 คือผู้เผยพระวจนะได้เผยพระวจนะเท็จ และบรรดาปุโรหิตก็ปกครองตามการชี้นิ้วของเขา และประชากรของเราชอบที่มีการอย่างนี้ แต่เจ้าทั้งหลายจะกระทำอะไรเมื่อกาลสุดปลายมาถึง

Lean sinn:



Sanasan