เยเรมีย์ 37 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971เยเรมีย์ถูกคุมขัง 1 เศเดคียาห์ราชบุตรของโยสิยาห์ ผู้ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ตั้ง ให้เป็นกษัตริย์ในแผ่นดินยูดาห์ ได้เสวยราชย์แทนโคนิยาห์ราชบุตรของเยโฮยาคิม 2 แต่ท่านเองก็ดี หรือข้าราชการของท่านก็ดี หรือราษฎรก็ดี หาได้ฟังพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสโดยเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะไม่ 3 กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงใช้เยฮูคัลบุตรเชเลมิยาห์ และเศฟันยาห์ปุโรหิตบุตรมาอาเสอาห์ให้ไปยัง เยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ กล่าวว่า <<ขออธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราเผื่อเรา>> 4 ฝ่ายเยเรมีย์นั้นยังเข้านอกออกในท่ามกลางประชาชนอยู่ เพราะท่านยังมิได้ถูกจำขัง 5 กองทัพของฟาโรห์ได้ออกมาจากอียิปต์และเมื่อคนเคลเดีย ผู้ซึ่งกำลังล้อมกรุงเยรูซาเล็มอยู่ได้ทราบข่าวนั้น เขาทั้งหลายก็ถอยทัพไปจากกรุงเยรูซาเล็ม 6 พระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะว่า 7 <<พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เจ้าจงไปบอกกษัตริย์แห่งยูดาห์ ผู้ซึ่งใช้เจ้ามาถามต่อเราว่า <ดูเถิด กองทัพของฟาโรห์ซึ่งได้มาช่วยเจ้ากำลังจะกลับ ไปอียิปต์ ไปยังแผ่นดินของเขา 8 และคนเคลเดียจะกลับมาต่อสู้กับกรุงนี้ เขาทั้งหลายจะยึดไว้และเผาเสียด้วยไฟ 9 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า อย่าล่อลวงตัวเจ้าโดยกล่าวว่า <<คนเคลเดียจะถอยออกไปจากเราทีเดียวแน่>> เพราะว่าเขาจะไม่ถอยออกไปเลยทีเดียว 10 ถึงแม้ว่าเจ้ากระทำให้กองทัพทั้งสิ้นของคนเคลเดีย ที่กำลังต่อสู้เจ้าให้พ่ายแพ้ และมีเหลือแต่คนที่บาดเจ็บเท่านั้น เขาทั้งหลายคงจะลุกขึ้น ทุกคนในเต็นท์ของเขา และเผากรุงนี้เสียด้วยไฟ> >> 11 เมื่อกองทัพของคนเคลเดียได้ถอยจากกรุงเยรูซาเล็ม เพราะกองทัพของฟาโรห์เข้ามาประชิด 12 เยเรมีย์ก็ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม มุ่งไปยังแผ่นดินเบนยามิน เพื่อจะรับส่วนของท่านท่ามกลางประชาชนที่นั่น 13 เมื่อท่านอยู่ที่ประตูเบนยามิน ทหารยามคนหนึ่งชื่ออิรียาห์บุตรเชเลมิยาห์ ผู้เป็นบุตรฮานันยาห์ได้จับเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะกล่าวว่า <<ท่านกำลังหนีไปหาคนเคลเดีย>> 14 และเยเรมีย์ตอบว่า <<ไม่จริงเลย ข้าพเจ้ามิได้กำลังหนีไปหาคนเคลเดีย>> แต่อิรียาห์ไม่ฟังท่านและจับเยเรมีย์นำมาหาเจ้านาย 15 และบรรดาเจ้านายก็เดือดดาลต่อเยเรมีย์ และเขาทั้งหลายก็ตีท่านและขังท่านไว้ใน เรือนของโยนาธานเลขานุการ เพราะได้ทำให้เป็นคุก กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงปรึกษากับเยเรมีย์ 16 เมื่อเยเรมีย์อยู่ในคุกมืด และค้างอยู่ที่นั่นหลายวันแล้ว 17 กษัตริย์เศเดคียาห์ใช้ให้คนไปเอาตัวท่านมา พระราชาได้สอบถามท่านเป็นความลับที่ในพระราชวังว่า <<มีพระวจนะอันใดมาจากพระเจ้าบ้างหรือ>> เยเรมีย์ทูลว่า <<มีพ่ะย่ะค่ะ>> แล้วท่านทูลอีกว่า <<ฝ่าพระบาทจะถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน>> 18 เยเรมีย์ได้ทูลกษัตริย์เศเดคียาห์อีกว่า <<ข้าพระบาทได้กระทำอะไรผิดต่อฝ่าพระบาท หรือต่อข้าราชการของฝ่าพระบาทหรือต่อชนชาตินี้ ฝ่าพระบาทจึงได้จำขังข้าพระบาทไว้ในคุก 19 ผู้เผยพระวจนะของฝ่าพระบาทผู้ได้เผย พระวจนะให้ฝ่าพระบาทว่า <กษัตริย์แห่งบาบิโลนจะไม่มาต่อสู้ฝ่าพระบาท หรือต่อสู้แผ่นดินนี้> นั้นอยู่ที่ไหน 20 บัดนี้ข้าแต่พระราชาของข้าพระบาท ขอพระองค์สดับฟัง ขอคำทูลของข้าพระบาทมาอยู่ต่อพระพักตร์ของฝ่าพระบาท ขออย่าส่งข้าพระบาทกลับไปที่เรือนของโยนาธาน เลขานุการนั้นเลย เกรงว่าข้าพระบาทจะตายเสียที่นั่น>> 21 กษัตริย์เศเดคียาห์จึงมีรับสั่งและเขาก็มอบ เยเรมีย์ไว้ที่บริเวณทหารรักษาพระองค์ และเขาให้ขนมปังแก่ท่านวันละก้อนจากถนนช่างทำขนม จนขนมปังในกรุงนั้นหมด เยเรมีย์จึงค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์อย่างนั้น |