เยเรมีย์ 3 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 19711 ถ้าชายคนใดหย่าภรรยาของตน และเธอก็ไปจากเขาเสีย และไปเป็นภรรยาของชายอีกคนหนึ่ง เขาจะกลับไปหาเธอหรือ แผ่นดินนั้นจะไม่โสโครกมากมายหรือ เจ้าได้เล่นชู้กับคนรักมากมายแล้ว และเจ้าจะกลับมาหาเราหรือ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ 2 จงแหงนหน้าขึ้นสู่บรรดาที่สูงอันโล้นนั้น และดูซี ที่ไหนบ้างที่ไม่มีคนมานอนด้วย เจ้าได้นั่งคอยคนรักของเจ้าอยู่ที่ริมทาง อย่างคนอาหรับในถิ่นทุรกันดาร เจ้าได้กระทำให้แผ่นดินโสโครก ด้วยการแพศยาอย่างชั่วร้ายของเจ้า 3 เพราะฉะนั้นฝนจึงได้ระงับเสีย และฝนชุกปลายฤดูจึงขาดไป แต่เจ้ามีหน้าผากของหญิงแพศยา เจ้าปฏิเสธไม่ยอมอาย 4 เมื่อตะกี้เจ้าร้องเรียกเรามิใช่หรือว่า <พระบิดาของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นสหายตั้งแต่ข้าพระองค์ยังสาวๆ 5 พระองค์ จะทรงพระพิโรธอยู่เป็นนิตย์หรือ พระองค์ จะทรงกริ้วอยู่จนถึงที่สุดปลายหรือ> ดูเถิด เจ้าลั่นวาจาแล้ว แต่เจ้าก็ยังกระทำความชั่วช้าทุกอย่างซึ่งเจ้ากระทำได้>> ทรงอ้อนวอนให้อิสราเอลและยูดาห์กลับใจใหม่ 6 พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าในรัชกาลของพระราชาโยสิยาห์ ว่า <<เขาทำอะไรเจ้าเห็นหรือ คืออิสราเอลผู้กลับสัตย์ เขาขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกลูก และใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น แล้วก็ไปเล่นชู้อยู่ที่นั่น 7 และเราคิดว่า <เมื่อเขาทำอย่างนี้จนหมดแล้ว เขาจะกลับมาหาเรา> แต่เขาก็ไม่กลับมา และยูดาห์น้องสาวที่ทรยศนั้นก็เห็น 8 เธอเห็นว่าเพราะการล่วงประเวณีทั้งสิ้น ของอิสราเอลผู้กลับสัตย์ เราได้ไล่เธอไปพร้อมกับให้หนังสือหย่า แต่ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศนั้นก็ไม่กลัว เธอก็กลับไปเล่นชู้ด้วย 9 เพราะการแพศยาเป็นการเบาแก่เขามาก เขาก็กระทำให้แผ่นดินโสโครกไป โดยไปล่วงประเวณีกับศิลากับต้นไม้ 10 แม้ว่าเขากระทำไปสิ้นอย่างนี้แล้ว ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเขาก็มิได้ หันกลับมาหาเราด้วยสิ้นสุดใจ แต่แสร้งทำเป็นกลับมา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ>> 11 แล้วพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <<อิสราเอลผู้กลับสัตย์ยังสำแดงตัวว่า มีผิดน้อยกว่ายูดาห์ที่ทรยศ 12 จงไปประกาศถ้อยคำเหล่านี้ไปทางเหนือกล่าวว่า <พระเจ้าตรัสว่า อิสราเอลผู้กลับสัตย์เอ๋ย กลับมาเถิด เราจะไม่มองดูเจ้าด้วยความกริ้ว เพราะเราประกอบด้วยพระกรุณาคุณ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เราจะไม่กริ้วเป็นนิตย์ 13 เพียงแต่ยอมรับความผิดของเจ้า ว่าเจ้าได้กบฏต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และเที่ยวเอาใจพระอื่นที่ใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น และเจ้ามิได้ฟังเสียงของเราพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ 14 พระเจ้าตรัสว่า ลูกหลานที่กลับสัตย์เอ๋ย กลับมาเถิด เพราะเราเป็นนายของเจ้า เราจะรับเจ้าจากเมืองและจากตระกูลละคนสองคน และเราจะนำเจ้ามาถึงศิโยน 15 <<และเราจะให้ผู้เลี้ยงแกะคนที่พอใจเราแก่เจ้า ผู้ซึ่งจะเลี้ยงเจ้าด้วยความรู้และความเข้าใจ 16 และเมื่อเจ้าทวีและเพิ่มขึ้นในแผ่นดินนั้น ในครั้งนั้น (พระเจ้าตรัส) เขาทั้งหลายจะไม่กล่าวอีกว่า <<หีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า>> เรื่องนี้จะไม่มีขึ้นในใจ ไม่มีใครกล่าวถึง ไม่มีใครนึกถึง จะไม่ทำกันขึ้นอีกเลย 17 ในครั้งนั้นจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็น พระที่นั่งของพระเจ้า และบรรดาประชาชาติจะรวบรวมกันเข้ามาหายัง พระพักตร์ของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม และเขาจะไม่ติดตามใจอันชั่วของเขาอย่าง ดื้อกระด้างอีกต่อไป 18 ในสมัยนั้นเชื้อสายของยูดาห์จะเดินมา กับเชื้อสายของอิสราเอล เขาทั้งสองจะรวมกันมาจากแผ่นดินฝ่ายเหนือมายัง แผ่นดินซึ่งเรามอบให้แก่บรรพบุรุษของเจ้าให้เป็นมรดก 19 << <เราคิดว่า เราจะตั้งเจ้าไว้ท่ามกลางบุตรทั้งหลาย ของเราอย่างไรดีหนอ และให้แผ่นดินที่น่าปรารถนาแก่เจ้า เป็นมรดกที่สวยงามที่สุดในบรรดาประชาชาติ และเราคิดว่าเจ้าจะเรียกเราว่าพระบิดาของข้าพระองค์ และจะไม่หันกลับจากการติดตามเรา 20 พระเจ้าตรัสว่า เชื้อสายอิสราเอลเอ๋ย แน่นอนทีเดียวที่ภรรยาทรยศละทิ้งสามีของนางฉันใด เจ้าก็ได้ทรยศต่อเราฉันนั้น> >> 21 เขาได้ยินเสียงมาจากที่สูงโล้น เป็นเสียงร้องไห้และเสียงวิงวอนของบุตร ทั้งหลายของอิสราเอล เพราะเขาได้แปรวิถีของเขาเสียแล้ว เขาได้ลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา 22 <<บรรดาบุตรที่กลับสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด เราจะรักษาความกลับสัตย์ของเจ้าให้หาย>><<ดูเถิด ข้าพระองค์ทั้งหลายมาหาพระองค์แล้ว เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของข้าพระองค์>> 23 แท้จริง เนินเขาก็เป็นแต่สิ่งหลอกลวง และการสับสนอลหม่านบนภูเขาก็เป็นด้วย แท้จริงความรอดของอิสราเอลนั้น อยู่ในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา 24 <<แต่ว่าสิ่งที่น่าอายนั้นได้กัด กินสิ่งทั้งปวงที่บรรพบุรุษของเราได้ลงแรงทำไว้ ตั้งแต่เรายังเป็นเด็กอนุชนอยู่ คือฝูงแกะ ฝูงโค บุตรชาย และบุตรหญิงทั้งหลายของเขา 25 ให้เรานอนลงจมในความอายของเรา และให้ความอัปยศคลุมเราไว้ เพราะเราได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ทั้งตัวเราและบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่เราเป็นอนุชนอยู่จนทุกวันนี้ และเราหาได้ฟังพระสุรเสียงแห่ง พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราไม่>> |