เยเรมีย์ 15 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971พระพิโรธอันไม่สงบของพระเจ้าต่อยูดาห์ 1 ฝ่ายพระเจ้าตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า <<แม้ว่าโมเสสและ ซามูเอลจะมายืนอยู่ต่อหน้าเรา จิตใจของเราจะไม่หันไปหาชนชาตินี้ ไล่เขาทั้งหลายออกไปให้พ้นสายตาของเรา แล้วให้เขาไป 2 และเมื่อเขาถามเจ้าว่า <เราจะไปที่ไหน> เจ้าจงพูดกับเขาว่าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<คนเหล่านั้นที่กำหนดให้แก่โรคระบาดจะไปหาโรคระบาด คนเหล่านั้นที่กำหนดให้แก่ดาบจะไปหาดาบ คนเหล่านั้นที่กำหนดให้แก่การกันดาร อาหาร จะไปหาการกันดารอาหาร คนที่กำหนดให้แก่การเป็นเชลย จะไปหาการเป็นเชลย>> 3 พระเจ้าตรัสว่า <<เราจะกำหนดสี่อย่างไว้เหนือเขาคือ ดาบสังหาร สุนัขกัดฉีก นกในอากาศ และสัตว์บนแผ่นดินโลกที่จะกัดกินและทำลาย 4 และเราจะกระทำให้เขาเป็นที่ครั่นคร้าม แก่ราชอาณาจักรทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลก เหตุด้วยการกระทำซึ่งมนัสเสห์บุตร เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้กระทำ ในเยรูซาเล็ม 5 เยรูซาเล็มเอ๋ย ใครจะสงสารเจ้า หรือใครจะเสียใจกับเจ้า ใครจะแวะมาถามทุกข์สุขของเจ้า 6 พระเจ้าตรัสว่า เจ้าได้ปฏิเสธเรา เจ้าถอยหลังเรื่อยไป เราจึงได้เหยียดมือออกไปต่อสู้เจ้าและทำลายเจ้า เราเอือมต่อการผ่อนผันแล้ว 7 เราได้ซัดเขาด้วยส้อมซัดข้าว ในบรรดาประตูแห่งเมืองนั้น เราได้ทำให้ลูกของเขาทั้งหลายตาย เราได้ทำลายประชากรของเรา เขาทั้งหลายมิได้หันกลับจากพฤติการณ์ของเขา 8 เรากระทำให้หญิงม่ายของเขามีมาก ยิ่งกว่าทรายในทะเล ณ เวลาเที่ยงวัน เราได้นำผู้ทำลาย มาสู่บรรดาแม่ของคนหนุ่มทั้งหลาย เราได้กระทำให้ความแสนระทมและความสยดสยอง ตกเหนือเธอโดยฉับพลัน 9 เธอที่มีบุตรเจ็ดคนก็อ่อนกำลัง เธอสลบไปแล้ว ดวงอาทิตย์ของเธอตกเมื่อยังวันอยู่ นางได้รับความละอายและถูกหยามน้ำหน้า เราจะมอบผู้ที่เหลืออยู่ให้แก่ดาบ ต่อหน้าศัตรูของเขาพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ>> 10 แม่จ๋า วิบัติแก่ฉัน ที่แม่คลอดฉันมา เป็นคนที่ให้เกิดการแก่งแย่งและการชิงดีแก่แผ่นดินทั้งสิ้น ฉันก็มิได้ให้ยืม หรือฉันก็มิได้ยืมเขา แต่เขาทุกคนแช่งฉัน 11 ข้าแต่พระเจ้า ถ้าข้าพระองค์มิได้วิงวอนพระองค์เพื่อความดีของเขา ถ้าข้าพระองค์มิได้ทูลขอต่อพระองค์เพื่อศัตรูในเวลา ลำบากและในเวลาทุกข์ใจก็ปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้นเถิด พระเจ้าข้า 12 มีผู้หนึ่งผู้ใดหักเหล็กได้หรือ คือเหล็กจากทิศเหนือและทองสัมฤทธิ์ 13 หลักฐานบ้านช่องและทรัพย์สมบัติของเจ้าเรา จะมอบให้เป็นของริบไม่คิดค่าเพราะบาปทั้งสิ้นของเจ้า ตลอดทั่วดินแดนของเจ้า 14 เราจะกระทำให้เจ้าปรนนิบัติศัตรู ของเจ้าในแผ่นดินซึ่งเจ้าไม่รู้จักเพราะความโกรธของเรา เราก่อไฟขึ้น ซึ่งจะไหม้อยู่เป็นนิตย์ พระเจ้าทรงเล้าโลมเยเรมีย์ 15 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์และเยี่ยมเยียนข้าพระองค์ ขอทรงแก้แค้นผู้ข่มเหงข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์ เพราะการอดกลั้นพระทัยของพระองค์นั้น ขออย่าทรงนำข้าพระองค์ไปเสีย ขอทรงตระหนักว่าข้าพระองค์ ทนการติเตียนด้วยเห็นแก่พระองค์ 16 เมื่อพบพระวจนะของพระองค์แล้วข้าพระองค์ก็กินเสีย พระวจนะของพระองค์เป็นความชื่นบานแก่ข้าพระองค์ และเป็นความปีติยินดีแห่งจิตใจของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าจอมโยธา เพราะว่าเขาเรียกข้าพระองค์ตามพระนามของพระองค์ 17 ข้าพระองค์มิได้นั่งอยู่ในหมู่คนที่สนุกสนานกัน ทั้งข้าพระองค์ก็มิได้เปรมปรีดิ์ ข้าพระองค์นั่งอยู่คนเดียวเพราะว่าพระหัตถ์ของพระองค์อยู่บนข้าพระองค์ เพราะพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์เต็มด้วยความกริ้ว 18 ไฉนความเจ็บของข้าพระองค์มิได้หยุดยั้ง บาดแผลของข้าพระองค์ก็รักษาไม่หาย มันไม่ยอมหาย พระองค์ทรงเป็นเหมือนลำธารหลอกลวงแก่ข้าพระองค์หรือ หรืออย่างน้ำที่เหือดแห้ง 19 เพราะฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสว่า <<ถ้าเจ้ากลับมา เราจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดี และเจ้าจะยืนอยู่ต่อหน้าเรา ถ้าเจ้าออกปากพูดแต่สิ่งประเสริฐและไม่พูดสิ่งเลวทราม เจ้าจะเป็นเหมือนปากของเรา เขาทั้งหลายจะหันกลับมาหาเจ้า แต่เจ้าอย่าหันไปหาเขา 20 เราจะกระทำเจ้าให้เป็นกำแพงป้อมทองสัมฤทธิ์แก่ชนชาตินี้ เขาทั้งหลายก็จะต่อสู้กับเจ้า แต่เขาจะไม่ชนะเจ้า เพราะเราอยู่กับเจ้า จะช่วยเจ้าให้รอดและช่วยกู้เจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้ 21 เราจะช่วยกู้เจ้าจากมือของคนอธรรม และไถ่เจ้าจากกำมือของคนอำมหิต>> |