Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -

เยเรมีย์ 14 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971


ข่าวเกี่ยวกับความแห้งแล้ง

1 พระวจนะของพระเจ้าซึ่งมาถึงเยเรมีย์ เกี่ยวด้วยความแห้งแล้งว่า

2 <<ยูดาห์ไว้ทุกข์ และประตูเมืองทั้งปวงของเธอก็อ่อนกำลังลง ประชาชนของเธอก็แต่งดำหน้าก้มอยู่บนแผ่นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็ขึ้นไป

3 เจ้านายของเธอสั่งคนใช้ของเขาให้ไปตักน้ำ เขาทั้งหลายไปยังที่ขังน้ำ เห็นว่าไม่มีน้ำ เขาทั้งหลายก็กลับไปด้วยภาชนะเปล่า เขาทั้งหลายได้อายและขายหน้า เขาจึงคลุมศีรษะของเขาทั้งหลายเสีย

4 เพราะเรื่องแผ่นดินที่แห้งแล้ง เนื่องจากไม่มีฝนตกบนแผ่นดิน ชาวนาทั้งหลายก็อับอาย เขาทั้งหลายจึงคลุมศีรษะของเขาเสีย

5 แม้กวางตัวเมียที่อยู่ในท้องทุ่งก็ละทิ้งลูกที่ตกใหม่ของมันเสีย เพราะว่าไม่มีหญ้า

6 ลาป่ายืนอยู่บนที่สูงโล้น มันหอบเหมือนกับหมาป่า ตาของมันก็มืดมัว เพราะว่าไม่มีผักหญ้า

7 <<แม้ว่าบาปชั่วของข้าพระองค์ทั้งหลายก็เป็นพยานปรักปรำข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรดเถิด เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ บรรดาการกลับสัตย์ของข้าพระองค์ทั้งหลายก็มากยิ่ง ข้าพระองค์ทั้งหลายกระทำบาปต่อพระองค์

8 ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นความหวังแห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยของเขาในยามลำบาก ไฉนพระองค์จะทรงเป็นเหมือนแขกเมืองในแผ่นดิน หรือเหมือนคนเดินทางแวะอาศัยค้างเพียงคืนเดียว

9 ไฉนพระองค์จะทรงเป็นเหมือนชายที่งันงง หรือเหมือนคนที่มีกำลังมากแต่ช่วยใครไม่ได้ ข้าแต่พระเจ้า แม้กระนั้นก็ดีพระองค์ทรงสถิตท่ามกลางข้าพระองค์ทั้งหลาย คนเขาเรียกพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์ ขออย่าทรงละข้าพระองค์ทั้งหลายไว้เสีย>>

10 พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับชนชาตินี้ว่า เขาทั้งหลายรักที่จะพเนจรไปอย่างนี้ เขาทั้งหลายไม่ยับยั้งเท้าของเขาไว้ ฉะนั้นพระเจ้าจึงไม่ทรงโปรดเขา พระองค์จะทรงระลึกถึงบาปชั่วของเขา และลงโทษการผิดบาปของเขา>>

11 พระเจ้าตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า <<อย่าอธิษฐานเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของชนชาตินี้เลย

12 แม้ว่าเขาอดอาหารเราก็จะไม่ฟังเสียงร้องของเขา แม้เขาถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องธัญญบูชาเราก็จะไม่รับมัน แต่เราจะผลาญเขาเสียด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหารและด้วยโรคระบาด>>

13 แล้วข้าพเจ้าพูดว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ดูเถิด พวกผู้เผยพระวจนะกล่าวแก่เขาว่า <ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นดาบหรือจะมีการกันดารอาหาร แต่เราจะให้ศานติภาพที่แน่นอนแก่เจ้าในสถานที่นี้> >>

14 และพระเจ้าตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า <<พวกผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นเผยพระวจนะเท็จในนามของเรา เรามิได้ใช้เขาทั้งหลาย และเรามิได้บัญชาเขาหรือพูดกับเขา เขาเผยนิมิตเท็จแก่เจ้าทั้งหลายเป็นการทำนายที่ไร้ค่า เป็นการล่อลวงของจิตใจเขาเอง

15 ฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสดังนี้เกี่ยวด้วยพวกผู้เผยพระวจนะ ผู้เผยพระวจนะในนามของเราแม้ว่าเราไม่ได้ใช้เขาทั้งหลาย และผู้กล่าวว่า <ดาบและการกันดารอาหารจะไม่มาถึงแผ่นดินนี้> พวกผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นจะถูกผลาญเสียด้วย ดาบและการกันดารอาหาร

16 และประชาชนผู้ซึ่งเขาเผยพระวจนะให้ฟังนั้น จะถูกทิ้งไว้ในถนนหนทางกรุงเยรูซาเล็ม เป็นเหยื่อของการกันดารอาหารและดาบซึ่ง ไม่มีผู้ใดจะฝังเขา คือทั้งตัวเขาทั้งหลาย ภรรยาของเขา บุตรชายและบุตรหญิงของเขา เพราะเราจะเทกรรมชั่วของเขาสนองเขา

17 <<เจ้าจงกล่าวถ้อยคำนี้แก่เขาว่า <ขอให้ตาของเรามีน้ำตาไหลทั้งกลางคืนและกลางวัน อย่าให้หยุดยั้ง เพราะบุตรสาวพรหมจารีแห่งประชากรของ เราถูกเจ็บบาดแผลเหวอะหวะ ถูกตีอย่างหนักมาก

18 ถ้าเราออกไปในท้องนา ดูเถิด นั่นคนที่ถูกฆ่าเสียด้วยดาบ ถ้าเราเข้าไปในกรุง ดูเถิด นั่นโรคอันเนื่องจากการกันดาร เพราะว่าทั้งพวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตไปค้ากันในแผ่นดิน และไม่มีความรู้> >>

19 พระองค์ทรงปฏิเสธไม่รับยูดาห์เสียทีเดียวแล้วหรือ พระทัยของพระองค์เกลียดศิโยนเสียแล้วหรือ ไฉนพระองค์ทรงเฆี่ยนตีข้าพระองค์ทั้งหลาย จนไม่มีการรักษาข้าพระองค์ให้หาย ข้าพระองค์ทั้งหลายมองหาสวัสดิภาพแต่ไม่มีความดีมาเลย เรามองหาเวลาเยียวยาแต่ประสบความสยดสยอง

20 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายขอสารภาพความอธรรมของพวกข้าพระองค์ และบาปชั่วของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์

21 เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ ขออย่าทรงเกลียดพวกข้าพระองค์ ขออย่าให้หลู่เกียรติแห่งพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์ ขอทรงระลึกและอย่าทรงหักพันธสัญญาของพระองค์ ซึ่งมีไว้กับข้าพระองค์

22 ในบรรดาพระเทียมเท็จแห่งประชาชาติทั้งหลายมีพระองค์ใดเล่าที่ทำให้เกิดฝนได้ หรือท้องฟ้าประทานห่าฝนได้หรือ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ พระองค์มิใช่พระเจ้าองค์นั้นดอกหรือ พวกข้าพระองค์คอยหวังในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น

Lean sinn:



Sanasan