เยเรมีย์ 10 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971พระเจ้าเท็จและพระเจ้าแท้ 1 ประชาอิสราเอลเอ๋ย จงฟังพระวจนะซึ่งพระเจ้าตรัสกับเจ้า 2 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<อย่าเอาอย่างบรรดาประชาชาติ หรืออย่าคร้ามกลัวเพราะหมายสำคัญของท้องฟ้า ตามที่บรรดาประชาชาติคร้ามกลัวนั้น 3 เพราะธรรมเนียมของชนชาติทั้งหลายก็เท็จ เขาตัดต้นไม้มาจากป่าต้นหนึ่ง เป็นสิ่งที่มือช่างได้กระทำด้วยขวาน 4 เขาทั้งหลายก็เอาเงินและทองมาประดับ เขาตอกไว้แน่นด้วยค้อนและตะปู มันก็เคลื่อนไหวไปมาไม่ได้ 5 รูปเคารพของเขาก็เหมือนหุ่นหลอกกาอยู่ในสวนแตงกวา มันพูดไม่ได้ คนต้องขนมันไป เพราะมันเดินไม่ได้ อย่ากลัวมันเลย เพราะมันทำร้ายไม่ได้ มันก็ทำดีไม่ได้ด้วย>> 6 ข้าแต่พระเจ้า หามีผู้ใดเหมือนพระองค์ไม่ พระองค์ทรงเป็นใหญ่ และพระนามของพระองค์มีฤทธิ์มาก 7 ข้าแต่พระราชาแห่งบรรดาประชาชาติ ผู้ใดจะไม่ยำเกรงพระองค์ เพราะพระองค์สมควรแก่การอย่างนี้ เพราะในบรรดาปราชญ์ของบรรดาประชาชาติ และในบรรดาราชอาณาจักรทั้งสิ้นของเขา ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ 8 เขาทั้งหลายทั้งบัดซบและโง่เขลา การตีสอนของรูปเคารพนั้นก็เป็นแต่ไม้ 9 เครื่องเงินทุบนั้นเขาเอามาจากทารชิช และเอาทองคำมาจากเมืองอุฟาส เป็นผลงานของช่างฝีมือและเป็นผลน้ำมือของช่างทอง เสื้อผ้าของรูปเคารพนั้นสีครามและสีม่วง เป็นผลงานของคนชำนาญทั้งนั้น 10 แต่พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และเป็นพระมหากษัตริย์เนืองนิตย์ พอทรงพระพิโรธแผ่นดินก็หวั่นไหว และบรรดาประชาชาติจะทนต่อความกริ้วของพระองค์ไม่ได้ 11 เจ้าจงพูดกับเขาทั้งปวงดังนี้ว่า <<บรรดาพระเจ้าผู้ที่มิได้ทรงสร้างสวรรค์และโลกจะพินาศไปจากโลก และจากภายใต้สวรรค์>> 12 ผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ ผู้ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยสติปัญญาของพระองค์ และทรงคลี่ท้องฟ้าออกด้วยความเข้าใจของพระองค์ 13 เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง ก็มีเสียงน้ำคะนองในท้องฟ้า และทรงกระทำให้หมอกลอยขึ้นจากปลายพิภพ ทรงกระทำฟ้าแลบเพื่อฝน และทรงนำลมมาจากพระคลังของพระองค์ 14 มนุษย์ทุกคนบัดซบและไม่มีความรู้ ช่างทองทุกคนจะได้อายเพราะรูปเคารพของตน เพราะรูปเคารพหล่อของเขาเป็นของเท็จ และไม่มีลมหายใจในรูปเคารพนั้น 15 มันเป็นของไร้ค่า และเป็นผลงานที่น่าเยาะเย้ย มันจะต้องพินาศเมื่อถึงเวลาการลงโทษ 16 พระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบไม่เหมือนสิ่งเหล่านี้ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ก่อร่างทุกสิ่งขึ้น และอิสราเอลเป็นเผ่าที่เป็นมรดกของพระองค์ พระเยโฮวาห์จอมโยธาเป็นพระนามของพระองค์ ความเริศร้างของยูดาห์ 17 เจ้าทั้งหลายที่อาศัยอยู่ภายใต้การถูกล้อมเอ๋ย จงเก็บข้าวของจากพื้นดิน 18 เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ดูเถิด เราจะเหวี่ยงชาวแผ่นดินออกไปเสีย ณ เวลานี้ และเราจะนำความทุกข์ใจมาถึงเขาเพื่อให้เขารู้สึก>> 19 วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะความเจ็บปวดของข้าพเจ้า บาดแผลของข้าพเจ้าก็ร้ายหนัก แต่ข้าพเจ้าเคยว่า <<แท้จริงนี่เป็นความทุกข์ใจ และข้าพเจ้าจะต้องทนเอา>> 20 เต็นท์ของข้าพเจ้าก็ถูกทำลาย และเชือกของข้าพเจ้าก็ขาดสิ้น ลูกๆของข้าพเจ้าจากข้าพเจ้าไปหมด และไม่มีเขาอีกแล้ว ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่จะกางเต็นท์ให้ข้าพเจ้าอีก และแขวนม่านของข้าพเจ้าให้ 21 เพราะว่าผู้เลี้ยงแกะก็บัดซบและไม่ได้ทูลถามพระเจ้า เพราะฉะนั้นเขาจึงมิได้จำเริญขึ้น และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไป 22 จงฟังซิ นั่นเป็นเสียงลือ ดูเถิด มาถึงแล้ว เสียงโกลาหลยิ่งใหญ่จากแดนเหนือ มากระทำให้หัวเมืองยูดาห์เป็นที่เริศร้าง ให้เป็นที่อยู่ของหมาป่า 23 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทราบแล้วว่าทางของมนุษย์ไม่อยู่ที่ตัวเขา คือไม่อยู่ที่มนุษย์ผู้ซึ่งดำเนินไป ที่จะนำฝีก้าวของตนเอง 24 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดตีสอนข้าพระองค์เพียงตามขนาด มิใช่ด้วยความกริ้วของพระองค์ เกรงว่าพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์มาถึงความสูญเปล่า 25 ขอพระองค์ทรงเทพระพิโรธของพระองค์เหนือเหล่าประชาชาติที่ไม่รู้จักพระองค์ และเหนือบรรดาตระกูลผู้ไม่ออกพระนามของพระองค์ เพราะเขาทั้งหลายได้เผาผลาญยาโคบ เขาได้กินท่านเสียและเผาผลาญท่านเสีย และกระทำที่อาศัยของท่านให้ถูกทิ้งร้าง |