อิสยาห์ 1 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971ประชาชาติที่บาปหนา 1 นิมิตของอิสยาห์บุตรชายของอามอส ซึ่งท่านได้เห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ พระราชาแห่งยูดาห์ 2 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง แผ่นดินโลกเอ๋ย จงเงี่ยหู เพราะพระเจ้าได้ตรัสว่า <<เราได้เลี้ยงดูบุตรและให้เติบโตขึ้น แต่เขาทั้งหลายได้กบฏต่อเรา 3 โครู้จักเจ้าของของมัน และลาก็รู้จักรางหญ้าของนายมัน แต่อิสราเอลไม่รู้จัก ชนชาติของเราไม่เข้าใจ>> 4 เออ ประชาชาติบาปหนา ชนชาติซึ่งหนักด้วยความบาปชั่ว หน่อเนื้อของผู้กระทำความชั่วร้าย บรรดาบุตรที่ทำความเสียหาย เขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเจ้า เขาได้ดูหมิ่นองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล เขาทั้งหลายหันหลังให้เสีย 5 ยังจะให้เฆี่ยนเจ้าตรงไหนอีก ที่เจ้ากบฏอยู่เรื่อยไป ศีรษะก็เจ็บหมด จิตใจก็อ่อนเปลี้ยไปสิ้น 6 ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงศีรษะ ไม่มีความปกติในนั้นเลย มีแต่ฟกช้ำและดำเขียว และเป็นแผลเลือดไหล ไม่เห็นบีบออกหรือพันไว้ หรือทำให้อ่อนลงด้วยน้ำมัน 7 ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า และหัวเมืองของเจ้าก็ถูกไฟเผา ส่วนแผ่นดินของเจ้า คนต่างด้าวก็ทำลายเสียต่อหน้าเจ้า มันก็ร้างเปล่าไป อย่างที่คนต่างด้าวคว่ำมัน 8 ส่วนศิโยนธิดาก็ถูกทิ้งไว้ เหมือนอย่างเพิงที่ในสวนองุ่น เหมือนเพิงในไร่แตงกวา เหมือนเมืองที่ถูกล้อม 9 ถ้าพระเจ้าจอมโยธา มิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้ว เราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดม และเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์ ทรงเรียกให้กลับใจจริงๆ 10 ดูก่อนท่านผู้ปกครองเมืองโสโดม จงฟังพระวจนะของพระเจ้า ดูก่อนท่านประชาชนเมืองโกโมราห์ จงเงี่ยหูฟังพระธรรมของพระเจ้าของเรา 11 พระเจ้าตรัสว่า <<เครื่องบูชาอันมากมายของเจ้านั้นจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา เราเอือมแกะตัวผู้อันเป็นเครื่องเผาบูชา และไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้นั้นแล้ว เรามิได้ปีติยินดีในเลือดของวัวผู้ หรือลูกแกะหรือแพะผู้ 12 <<เมื่อเจ้าเข้ามาเฝ้าเรา ผู้ใดขอให้เจ้าทำอย่างนี้ ที่เหยียบย่ำเข้ามาในบริเวณพระนิเวศของเรา 13 อย่านำเครื่องถวายอนิจจังมาอีกเลย เครื่องบูชาอันเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อเรา วันเทศกาลข้างขึ้นและวันสะบาโตและการเรียกประชุม เราทนต่อความบาปชั่วและการประชุมตามพิธีไม่ได้อีก 14 ใจของเราเกลียด วันเทศกาลข้างขึ้นของเจ้าและวันเทศกาลตามกำหนดของเจ้า มันกลายเป็นภาระแก่เรา เราแบกเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว 15 เมื่อเจ้ากางมือของเจ้าออก เราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเจ้า แม้ว่าเจ้าจะอธิษฐานมากมาย เราจะไม่ฟัง มือของเจ้าเปรอะไปด้วยโลหิต 16 จงชำระตัว จงทำตัวให้สะอาด จงเอากรรมชั่วของเจ้าออกไปให้พ้นจากสายตาของเรา จงเลิกกระทำชั่ว 17 จงฝึกกระทำดี จงแสวงหาความยุติธรรม จงบรรเทาผู้ถูกบีบบังคับ จงป้องกันให้ลูกกำพร้าพ่อ จงสู้ความเพื่อหญิงม่าย 18 พระเจ้าตรัสว่า <<มาเถิด ให้เราสู้ความกัน ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม ก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ 19 ถ้าเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง เจ้าจะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน 20 แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธและกบฏ เจ้าจะเป็นเหยื่อของคมดาบ เพราะว่าพระโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสแล้ว>> การพิพากษาและการไถ่ศิโยน 21 เมืองที่ซื่อสัตย์ กลายเป็นแพศยาเสียแล้วหนอ คือเธอที่เคยเปี่ยมด้วยความยุติธรรม ความชอบธรรมเคยพำนักอยู่ในเธอ แต่เดี๋ยวนี้ผู้กระทำฆาตกรรมพำนักอยู่ 22 เงินของเจ้าได้กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว เหล้าองุ่นของเจ้าปนน้ำแล้ว 23 เจ้านายของเจ้าเป็นพวกกบฏ และเป็นเพื่อนของโจร ทุกคนรักสินบน และวิ่งตามของกำนัล เขามิได้ป้องกันให้ลูกกำพร้าพ่อ และคดีของหญิงม่ายก็ไม่มาถึงเขา 24 ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า คือพระเจ้าจอมโยธา ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ของอิสราเอลตรัสว่า <<ดูเถิด เราจะระบายความโกรธของเราเหนือศัตรูของเรา และแก้แค้นข้าศึกของเราเสียเอง 25 เราจะหันมือของเรามาสู้เจ้า และจะถลุงไล่ขี้แร่ของเจ้าออกเสียอย่างกับล้างด้วยน้ำด่าง และเอาของเจือปนของเจ้าออกให้หมด 26 และเราจะคืนผู้พิพากษาของเจ้าให้ดังเดิม และคืนที่ปรึกษาของเจ้าอย่างกับตอนแรก ภายหลัง เขาจะเรียกเจ้าว่านครแห่งความชอบธรรม นครซื่อสัตย์>> 27 ศิโยนจะรับการไถ่ด้วยความยุติธรรม และบรรดาคนในนครที่กลับใจจะรับการไถ่ด้วยความชอบธรรม 28 แต่พวกกบฏและพวกคนบาปจะถูกทำลายด้วยกัน และบรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระเจ้าจะถูกล้างผลาญ 29 เพราะเจ้าจะละอายเรื่องต้นก่อหลวง ที่เจ้าปรารถนานั้น และเจ้าจะหน้าแดงเรื่องสวน ซึ่งเจ้าเลือก 30 เพราะเจ้าจะเป็นเหมือนต้นก่อหลวง ที่ใบเหี่ยวแห้ง และเหมือนสวนที่ขาดน้ำ 31 และผู้ที่แข็งแรงจะกลายเป็นใยป่าน และกิจการของเขาเป็นประกายไฟ และทั้งสองจะไหม้เสียด้วยกัน ไม่มีผู้ใดดับได้ |