ฮีบรู 3 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971พระเยซูทรงเป็นใหญ่กว่าโมเสส 1 เหตุฉะนั้น ดูก่อนท่านพี่น้องธรรมิกชน ผู้ตอบสนองด้วยกันกับเราในการที่พระเจ้าทรงเรียก จงนึกถึงอัครทูตและมหาปุโรหิตผู้ซึ่งเราเชื่อและรับนั้น คือพระเยซู 2 พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าผู้ได้ทรงแต่งตั้งพระองค์ไว้ เหมือนอย่างโมเสสซื่อสัตย์ต่อชุมนุมชน อันเป็นครอบครัวของพระเจ้า 3 แต่ถึงกระนั้นพระเยซูก็ทรงได้รับพระเกียรติมากกว่าโมเสสมากนัก เช่นเดียวกับต้นตระกูลย่อมมีเกียรติมากกว่าครอบครัว 4 ด้วยว่าทุกครอบครัวต้องมีต้นตระกูล แต่ว่าต้นเหตุของสรรพสิ่งทั้งปวงก็คือพระเจ้า 5 ในชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า โมเสสนั้นซื่อสัตย์ในฐานะผู้รับใช้เพื่อเป็นพยานในเรื่องต่างๆ ซึ่งพระเจ้าจะตรัสในภายหลัง 6 แต่พระคริสต์นั้นทรงซื่อสัตย์ในฐานะพระบุตร ที่ทรงอำนาจเหนือชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า และเราทั้งหลายเป็นครอบครัวนั้นแหละ หากเราจะยึดความกล้าหาญและความภูมิใจในความหวังนั้นไว้ การพำนักของชนชาติของพระเจ้า 7 เหตุฉะนั้น ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์ 8 อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น เหมือนอย่างในวันที่ทดลองในถิ่นทุรกันดาร 9 ซึ่งบรรพบุรุษของท่านทดลองเราโดยเอาเราเข้าพิสูจน์ ถึงแม้ว่าเขาเห็นการกระทำของเราตลอดสี่สิบปี 10 เพราะเหตุนั้นเราจึงพิโรธคนเหล่านั้น และว่า <<ใจของเขาหลงผิดอยู่เสมอ เขาไม่รู้จักทางของเรา>> 11 ตามที่เราปฏิญาณด้วยความพิโรธว่า <<เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งเราจัดให้>> 12 ดูก่อน ท่านพี่น้องทั้งหลาย จงระวังให้ดี เพื่อจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านมีใจชั่วและไม่เชื่อ คือใจซึ่งพาท่านหลงไปจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 13 ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน ตลอดเวลาที่เรียกว่า <<วันนี้>> เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไป เพราะเล่ห์กลของบาป 14 เพราะเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเราเพียงแต่ยึดความไว้วางใจที่เรามีอยู่ ในตอนต้นไว้ให้มั่นคงจนถึงที่สุด 15 เมื่อมีคำกล่าวไว้ว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์ อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น 16 ใครหนอที่ได้ยินแล้วแต่ยังได้กบฏก็คือ ทุกคนที่โมเสสได้นำออกจากประเทศอียิปต์มิใช่หรือ 17 และใครหนอที่พระองค์ได้ทรงพระพิโรธตลอดสี่สิบปีนั้น ก็คนเหล่านั้นที่กระทำบาป และซากศพของเขาทิ้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารมิใช่หรือ 18 และแก่ใครหนอที่พระองค์ได้ทรงปฏิญาณว่า เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งพระองค์ทรงประทาน ก็คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังมิใช่หรือ 19 ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า เขาไม่สามารถเข้าไปสู่การพำนักนั้นได้ก็เพราะเขาไม่ได้เชื่อ |