ยะเอศเคล 24 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971คำอุปมาเรื่องหม้อเดือด 1 เมื่อวันที่สิบเดือนที่สิบปีที่เก้า พระวจนะของพระองค์มายังข้าพเจ้าว่า 2 <<บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงเขียนชื่อของวันนี้ไว้ วันนี้ทีเดียวกษัตริย์บาบิโลนล้อม เยรูซาเล็มในวันนี้เอง 3 และจงกล่าวคำอุปมาแก่พงศ์พันธุ์ที่มักกบฏ และพูดกับเขาว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงตั้งหม้อไว้ ตั้งไว้ซิ เทน้ำใส่หม้อด้วย 4 ใส่ชิ้นเนื้อเข้าไป เอาชิ้นเนื้อดีๆ คือเนื้อโคนขาและเนื้อสันขาหน้า เลือกกระดูกดีมาใส่ให้เต็ม 5 จงเลือกแกะที่ดีที่สุดมาตัวหนึ่ง กองฟืนไว้ใต้นั้น จงต้มให้ดี เพื่อเคี่ยวกระดูกที่อยู่ในนั้นด้วย 6 <<เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่กรุงที่ชุ่มโลหิต วิบัติแก่หม้อที่ขึ้นสนิมข้างใน และซึ่งสนิมมิได้หลุดออกมา จงเอาเนื้อออกทีละชิ้นๆอย่าจับฉลากเลย 7 เพราะว่าโลหิตที่เธอกระทำให้ตก นั้นยังอยู่ท่ามกลางเธอ เธอวางไว้บนหินโล้น เธอมิได้เทลงไว้บนหินโล้น เธอมิได้เทลงดินเพื่อเอาฝุ่นกลบไว้ 8 เราได้วางโลหิตที่เธอทำให้ตกนั้นไว้บนก้อนหิน เพื่อมิให้ปิดโลหิตนั้นไว้ เพื่อเร้าความพิโรธและทำการแก้แค้น 9 เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่กรุงที่ชุ่มโลหิต เราจะกระทำให้กองนั้นใหญ่ขึ้นด้วย 10 จงสุมฟืนเข้าไปและก่อไฟขึ้น ต้มเนื้อให้ดี แล้วเทน้ำต้มเนื้อนั้นออกเสียและปล่อยกระดูกให้ไหม้ 11 และวางหม้อเปล่าไว้บนถ่านเพื่อให้ร้อนให้ทองแดงไหม้ ให้ความโสโครกละลายเสียในนั้น ให้สนิมของมันไหม้ไฟ 12 เรากระทำตัวของเราให้เหนื่อยไปเปล่าๆ สนิมที่หนาของมันก็ไม่หลุดออกด้วยไฟ 13 สนิมนั้นได้แก่ราคะอันโสโครกของเจ้า เพราะว่าเราจะชำระเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่ชำระตัวจากความโสโครกของเจ้า เจ้าจะไม่ถูกชำระอีกต่อไป จนกว่าเราจะระบายความเกรี้ยวกราดของเราออกเหนือ เจ้าจนหมด 14 เราคือพระเจ้าได้ลั่นวาจาแล้ว จะเป็นไปอย่างนั้น เราจะกระทำเช่นนั้นเราจะไม่ถอยกลับ เราจะไม่สงวนไว้และเราจะไม่เปลี่ยนใจ เราจะพิพากษาเจ้าตามวิธีการและการกระทำของเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ>> มรณกรรมของภรรยาเอเสเคียล 15 พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าอีกว่า 16 <<บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ดูเถิด เราจะเอาสิ่งที่พอตาของเจ้าไปเสีย จากเจ้าด้วยการประหารเสียแล้ว ถึงกระนั้นเจ้าก็อย่าคร่ำครวญหรือร้องไห้ หรือให้น้ำตาตก 17 ถอนหายใจเถิด แต่อย่าให้ออกเสียง อย่าไว้ทุกข์ให้คนที่ตาย จงโพกผ้าของเจ้า และสวมรองเท้าของเจ้า อย่าปิดหนวดหรือรับประทานอาหารของเขา>> 18 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดกับประชาชนตอนเช้าและ ภรรยาของข้าพเจ้าก็สิ้นชีวิตตอนเย็น รุ่งเช้าขึ้นข้าพเจ้าก็กระทำอย่างที่ข้าพเจ้ารับพระบัญชา 19 ประชาชนก็ถามข้าพเจ้าว่า <<ท่านจะไม่บอกเราทั้งหลายหรือว่า สิ่งนี้มีความหมายอะไรแก่เรา ซึ่งท่านกระทำเช่นนี้>> 20 แล้วข้าพเจ้าก็พูดกับเขาว่า <<พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า 21 <จงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะกระทำสถานศักดิ์สิทธิ์ของเราอัน เป็นความภาคภูมิใจในอำนาจของเจ้า และความปรารถนาแห่งวิญญาณจิตของเจ้า ให้เป็นที่สาธารณ์ บุตรชายหญิงของเจ้าซึ่งเจ้าทิ้งไว้เบื้องหลังจะล้มลงด้วยดาบ 22 และเจ้าทั้งหลายจะกระทำอย่างที่เรากระทำ เจ้าจะไม่ปิดหนวด หรือรับประทานอาหารของเขา 23 ผ้าโพกจะอยู่บนศีรษะของเจ้า และรองเท้าจะอยู่ที่เท้าของเจ้า เจ้าจะไม่ไว้ทุกข์หรือร้องไห้ แต่เจ้าจะทรุดลงเพราะความบาปชั่วของเจ้า และจะโอดครวญแก่กันและกัน 24 เอเสเคียลจะเป็นเครื่องหมายสำคัญแก่เจ้าทั้งหลายดังนี้ เขาได้กระทำสิ่งใด เจ้าจะกระทำอย่างนั้น เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้มาถึง เจ้าจะได้ทราบว่า เราคือพระเจ้า> 25 <<และเจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ในวันที่เราเอาที่กำบังเข้มแข็งของเขาทั้งหลายออกไป อันเป็นความร่าเริงและเป็นศักดิ์ศรีของเขา สิ่งที่พอตาของเขาทั้งหลาย และสิ่งที่ใจของเขาปรารถนา ทั้งบุตรชายและบุตรหญิงของเขา 26 ในวันนั้น ผู้หนีภัยจะมาหาเจ้า เพื่อจะรายงานข่าวให้เจ้าได้ยินเอง 27 ในวันนั้น ปากของเจ้าจะหายใบ้ต่อหน้าผู้หนีภัย และเจ้าจะพูดและจะไม่เป็นใบ้อีกต่อไป ดังนั้นเจ้าเป็นเครื่องหมายสำหรับเขา และเขาทั้งหลายจะทราบว่าเราคือพระเจ้า>> |