กิจการ 27 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971เปาโลแล่นไปสู่โรม 1 ครั้นตั้งใจว่าพวกเราจะต้องแล่นเรือไปยังประเทศอิตาลี เขาจึงมอบเปาโลกับนักโทษอื่นบางคน ไว้กับนายร้อยคนหนึ่งชื่อยูเลียส เป็นนายทหารในกองของออกัสตัส 2 เราทั้งหลายจึงลงเรือลำหนึ่ง มาจากเมืองอัดรามิททิยุม ซึ่งจะออกไปยังตำบลที่อยู่ตามฝั่งแคว้นเอเชีย เรือก็ออกทะเล มีคนหนึ่งอยู่กับเราชื่ออาริสทารคัส ชาวมาซิโดเนียซึ่งมาจากเมืองเธสะโลนิกา 3 วันรุ่งขึ้นเราได้แวะที่เมืองไซดอน ฝ่ายยูเลียสมีใจเมตตาปรานีแก่เปาโล ยอมให้เปาโลไปหามิตรสหายทั้งหลาย เพื่อจะรับการปรนนิบัติ 4 ครั้นเรือออกจากที่นั่นแล้ว จึงแล่นไปทางด้านปลอดลมของเกาะไซปรัส เพราะทวนลม 5 เมื่อแล่นข้ามทะเล ที่อยู่ตรงแคว้นซีลีเซียกับแคว้นปัมฟีเลีย ก็มาถึงเมืองมิราที่อยู่ในแคว้นลีเซีย 6 ที่เมืองนั้นนายร้อยได้พบเรือลำหนึ่ง มาจากเมืองอเล็กซานเดรียจะไปยังประเทศอิตาลี ท่านจึงให้พวกเราลงเรือลำนั้น 7 เราแล่นไปช้าๆหลายวัน และได้มาถึงเมืองคนีดัสอย่างยากเย็น เมื่อแล่นทวนลมต่อไปไม่ไหว เราจึงแล่นไปทางด้านปลอดลมของเกาะครีต ตรงเมืองสัลโมเน 8 เมื่อเรือแล่นเลียบฝั่งเกาะนั้นอย่างยากเย็น เราจึงมายังตำบลหนึ่งชื่อว่า ท่างาม เมืองลาเซียอยู่ใกล้ที่นั่น 9 ครั้นเสียเวลาไปมากแล้ว และการที่จะเดินเรือก็มีอันตราย เพราะเทศกาลอดอาหารผ่านไปแล้ว เปาโลจึงเตือนสติเขาทั้งหลาย 10 ว่า <<ดูก่อนท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าเห็นว่า ซึ่งเราจะแล่นไปคราวนี้จะมีอันตรายและเสียหายมาก มิใช่แต่ของบรรทุกกับเรือกำปั่นเท่านั้น แต่ชีวิตของเราทั้งหลายด้วย>> 11 แต่นายร้อยเชื่อกัปตันและเจ้าของกำปั่น มากกว่าเชื่อคำที่เปาโลกล่าวนั้น 12 และเพราะว่าท่างามนั้นไม่เหมาะพอที่จะจอดในฤดูหนาว คนส่วนมากจึงตกลงให้ออกทะเลไปจากที่นั่น เพื่อถ้าเป็นได้จะได้ไปให้ถึงเมืองฟีนิกส์แล้วจะจอดอยู่ที่นั่นตลอดฤดูหนาว เมืองฟีนิกส์อันเป็นท่าเรือแห่งเกาะครีต สำหรับจอดกำบังลมหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือกับเฉียงใต้ เกิดพายุที่ทะเล 13 เมื่อลมทิศใต้พัดมาเบาๆ เขาก็คิดว่าสมความปรารถนาแล้ว จึงถอนสมอแล่นเลียบฝั่งไปตามเกาะครีต 14 แต่แล่นไปไม่ช้าเรือกำปั่นก็ถูกลมพายุกล้า ที่เขาเรียกว่าลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดกวาดจากแผ่นดิน 15 ครั้นเรือกำปั่นถูกพายุและต้านลมไม่ไหว เราจึงปล่อยไปตามลม 16 เมื่อแล่นไปทางด้านปลอดลมของเกาะเล็กแห่งหนึ่งชื่อคาวดา เราก็ยกเรือเล็กขึ้นผูกไว้ได้อย่างยากเย็น 17 เมื่อยกเรือขึ้นแล้วเราก็เอาเชือกผูกโอบรอบเรือกำปั่นไว้ และเพราะกลัวว่าจะเกยสันดอนทรายในอ่าวเสอร์ทิส จึงลดใบลงแล้วก็ปล่อยให้ไปตามกระแสลม 18 ครั้นรุ่งขึ้นเขาก็เริ่มขนของบรรทุกทิ้งเสีย เพราะถูกพายุใหญ่ 19 พอถึงวันที่สาม เขาก็ทิ้งเครื่องใช้ในเรือกำปั่นออกเสียด้วยมือของเขาเอง 20 และเมื่อไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือดวงดาวตั้งหลายวันแล้ว และยังถูกพายุใหญ่อยู่ ความหวังที่เราทั้งหลายจะรอดนั้นก็ล้มละลายไป 21 ครั้นเขาได้อดอาหารมานานแล้ว เปาโลจึงมายืนอยู่ในหมู่เขากล่าวว่า <<ดูก่อน ท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายควรได้ฟังข้าพเจ้า และไม่ควรออกจากเกาะครีตเลย จะได้พ้นจากอันตรายนี้และไม่เสียสิ่งของ 22 บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายให้ทำใจดีๆไว้ ด้วยว่าในพวกท่านจะไม่มีผู้ใดเสียชีวิต จะเสียก็แต่เรือเท่านั้น 23 เพราะว่าเมื่อคืนนี้เอง ทูตองค์หนึ่งของพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติได้มายืนอยู่ใกล้ข้าพเจ้า 24 ทูตนั้นกล่าวว่า <เปาโลเอ๋ย อย่ากลัวเลย เจ้าจะต้องเข้าเฝ้าซีซาร์ ส่วนคนทั้งปวงที่อยู่ในเรือกับเจ้านั้น ดูเถิด พระเจ้าจะทรงโปรดให้รอดตาย เพราะอำนวยตามคำเจ้า> 25 ดูก่อน ท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นจงทำใจดีๆไว้ เพราะข้าพเจ้าเชื่อพระเจ้าว่า การณ์จะเป็นไปเหมือนอย่างที่พระองค์ได้ทรงกล่าวแก่ข้าพเจ้านั้น 26 แต่ว่าเราจะต้องเกยเกาะแห่งหนึ่ง>> 27 จนถึงคืนที่สิบสี่แล้ว เมื่อเราก็ยังลอยอยู่ในทะเลอาเดรีย ประมาณเที่ยงคืนพวกกะลาสีก็สำคัญว่ามาใกล้แผ่นดินแล้ว 28 ครั้นหยั่งน้ำดูก็วัดได้ลึกสี่สิบเมตร เมื่อไปอีกหน่อยหนึ่งก็หยั่งน้ำวัดได้สามสิบเมตร 29 เขาก็กลัวว่าจะโดนฝั่งที่มีหิน จึงทอดสมอท้ายสี่ตัวแล้วตั้งหน้าคอยเวลารุ่งเช้า 30 เมื่อพวกกะลาสีหาช่องจะหนีจากกำปั่น และได้หย่อนเรือเล็กลงที่ทะเลแล้ว ทำทีว่าจะทอดสมอจากหัวเรือ 31 เปาโลจึงกล่าวแก่นายร้อยและพวกทหารว่า <<ถ้าคนเหล่านั้นไม่คงอยู่ในกำปั่น ท่านทั้งหลายจะรอดตายไม่ได้เลย>> 32 พวกทหารจึงตัดเชือกที่ผูกเรือเล็กให้เรือตกลงน้ำไปเสีย 33 เมื่อจวนรุ่งเช้า เปาโลจึงชวนคนทั้งปวงให้รับประทานอาหารและกล่าวว่า <<วันนี้เป็นวันที่สิบสี่ ที่ท่านทั้งหลายต้องเฝ้าคอยอยู่ และอดอาหารมิได้รับประทานอาหารอะไรตลอดมา 34 ฉะนั้นข้าพเจ้าขอชวนท่านทั้งหลายให้รับประทานอาหารเสียบ้าง เพื่อจะดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะเส้นผมของผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านจะไม่เสียไปสักเส้นเดียว>> 35 ครั้นกล่าวอย่างนั้นแล้ว ท่านจึงหยิบขนมปังขอบพระเดชพระคุณพระเจ้าต่อหน้าคนทั้งปวง แล้วก็หักรับประทาน 36 คนทั้งปวงก็มีกำลังใจขึ้นจึงรับประทานอาหารด้วย 37 (เราทั้งหลายที่อยู่ในกำปั่นนั้นรวมสองร้อยเจ็ดสิบหกคน) 38 เมื่อรับประทานอาหารอิ่มแล้ว จึงขนข้าวสาลีในกำปั่นทิ้งเสียในทะเลเพื่อให้กำปั่นเบาขึ้น เรืออับปาง 39 ครั้นสว่างแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นแผ่นดินอะไร แต่เขาเห็นอ่าวแห่งหนึ่งที่มีหาด จึงตกลงกันว่า ถ้าเป็นได้จะให้เรือเข้าเกยหาดนั้น 40 เขาจึงตัดสายสมอทิ้งเสียในทะเล แล้วก็แก้เชือกที่มัดหางเสือ และชักใบหัวเรือขึ้นให้กินลมแล่นตรงเข้าไปหาฝั่ง 41 ครั้นมาถึงตำบลหนึ่งที่ทะเลสองข้างบรรจบกันกำปั่นก็เกยดิน หัวเรือติดแน่นออกไม่ได้ แต่ท้ายเรือนั้นก็แตกออกด้วยกำลังคลื่น 42 พวกทหารคิดจะฆ่านักโทษทั้งหลายเสีย กลัวว่าจะมีผู้ใดว่ายน้ำหนีไปได้ 43 แต่นายร้อยปรารถนาจะให้เปาโลรอดตาย จึงห้ามพวกทหารมิให้ทำตามความคิดนั้น แล้วสั่งคนทั้งหลายที่ว่ายน้ำเป็นให้กระโดดน้ำว่ายเข้าหาฝั่งก่อน 44 ฝ่ายคนทั้งหลายที่เหลือนั้นก็เกาะกระดานไปบ้าง เกาะไม้กำปั่นที่หักไปบ้าง ดังนั้นเขาทั้งหลายก็ถึงฝั่งรอดตายหมดทุกคน |