กิจการ 22 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 19711 <<ดูก่อน พี่น้องและท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย ขอฟังคำให้การซึ่งข้าพเจ้าจะแก้คดีให้ท่านฟัง ณ บัดนี้>> 2 ครั้นเขาทั้งหลายได้ยินท่านพูดภาษาฮีบรู เขาก็ยิ่งเงียบลงกว่าก่อน เปาโลจึงกล่าวว่า 3 <<ข้าพเจ้าเป็นยิว เกิดในเมืองทาร์ซัสแคว้นซีลีเซีย แต่ได้เติบโตขึ้นในเมืองนี้ และได้เล่าเรียนกับท่านอาจารย์กามาลิเอล ตามธรรมบัญญัติของบรรพบุรุษของเราโดยถี่ถ้วนทุกประการ จึงมีใจร้อนรนในการปรนนิบัติพระเจ้า เหมือนอย่างท่านทั้งหลายทุกวันนี้ 4 ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคนทั้งหลายที่ถือในทางนี้ จนถึงตาย และได้ผูกมัดเขาจำไว้ในคุกทั้งชายและหญิง 5 ตามที่มหาปุโรหิตกับสภาอาจเป็นพยานให้ข้าพเจ้าได้ เพราะข้าพเจ้าได้ถือหนังสือจากท่านผู้นั้นไปยังพวกพี่น้อง และข้าพเจ้าได้เดินทางไปเมืองดามัสกัส เพื่อจับมัดคนทั้งหลายพามายังกรุงเยรูซาเล็มให้ทำโทษเสีย เปาโลเล่าเรื่องการกลับใจของตน ( กจ. 9:1-19 ; 26:12-18 ) 6 <<ครั้นเมื่อข้าพเจ้ากำลังเดินทางไปใกล้จะถึงเมืองดามัสกัส ประมาณเวลาเที่ยง ในทันใดนั้นมีแสงสว่างกล้ามาจากฟ้าล้อมข้าพเจ้าไว้ 7 ข้าพเจ้าจึงล้มลงที่ดินและได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพเจ้าว่า <เซาโล เซาโล เจ้าข่มเหงเราทำไม> 8 ข้าพเจ้าจึงทูลตอบว่า <พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด> พระองค์จึงตรัสกับข้าพเจ้าว่า <เราคือเยซูชาวนาซาเร็ธซึ่งเจ้าข่มเหงนั้น> 9 ฝ่ายคนทั้งหลายที่อยู่กับข้าพเจ้าได้เห็นแสงสว่าง แต่พระสุรเสียงที่ตรัสกับข้าพเจ้านั้นเขาหาได้ยินไม่ 10 ข้าพเจ้าจึงทูลถามว่า <พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะต้องทำประการใด> พระองค์จึงตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงลุกขึ้นเข้าไปในเมืองดามัสกัส และที่นั่นเขาจะบอกเจ้าให้รู้ถึง การทุกสิ่งซึ่งได้กำหนดไว้ให้เจ้าทำนั้น> 11 เมื่อข้าพเจ้าเห็นอะไรไม่ได้เนื่องจากแสงแรงกล้านั้น คนที่มาด้วยกันกับข้าพเจ้า ก็จูงมือพาข้าพเจ้าเข้าไปในเมืองดามัสกัส 12 <<มีคนหนึ่งชื่ออานาเนีย เป็นคนถือธรรมบัญญัติเคร่งครัด และมีชื่อเสียงดี เป็นที่นับถือของพวกยิวทั้งปวงที่อยู่ที่นั่น 13 ได้มาหาข้าพเจ้าและยืนอยู่ใกล้ กล่าวว่า <พี่เซาโลเอ๋ย จงเห็นได้อีกเถิด> ข้าพเจ้าจึงเห็นได้ในเวลานั้น และข้าพเจ้าเห็นท่าน 14 ท่านจึงกล่าวว่า <พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงเลือกท่านไว้ ประสงค์จะให้ท่านรู้จักน้ำพระทัยของพระองค์ ให้ท่านเห็นพระองค์ผู้ชอบธรรม และให้ได้ยินพระสุรเสียงจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 15 เพราะว่าท่านจะเป็นพยานฝ่ายพระองค์ ให้คนทั้งปวงทราบถึงเหตุการณ์ซึ่งท่านเห็นและได้ยินนั้น 16 เดี๋ยวนี้ท่านจะรอช้าอยู่ทำไม จงลุกขึ้นรับบัพติศมาด้วยออกพระนามของพระองค์ ลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย> พระเจ้าทรงเรียกเปาโลให้ไปหาคนต่างชาติ 17 <<เมื่อข้าพเจ้ากลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม และกำลังอธิษฐานอยู่ในพระวิหาร ก็เข้าสู่ภวังค์ 18 ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงรีบออกไปจากกรุงเยรูซาเล็มโดยเร็ว ด้วยว่าเขาจะไม่รับคำของเจ้า ซึ่งอ้างพยานถึงเรา> 19 ข้าพเจ้าจึงทูลว่า <พระเจ้าข้า คนเหล่านั้นทราบอยู่ว่า ข้าพระองค์ได้จับคนทั้งหลายที่เชื่อในพระองค์ไปใส่คุกและเฆี่ยนตีตามธรรมศาลา 20 และเมื่อเขาทำให้โลหิตของสเทเฟนผู้เป็นพยานฝ่ายพระองค์ตกนั้น ข้าพระองค์ก็ยืนอยู่ใกล้และเห็นชอบในการนั้นด้วย และข้าพระองค์เป็นคนเฝ้าเสื้อผ้าของคนที่ฆ่าสเทเฟนนั้น> 21 แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงไปเถิด เราจะใช้ให้เจ้าไปไกล ไปหาคนต่างชาติ> >> นายพันคุมตัวเปาโลไว้ 22 เขาทั้งหลายได้ฟังเปาโลกล่าวแค่นี้ แล้วก็ร้องเสียงดังว่า <<คนเช่นนี้อยู่หนักแผ่นดิน ไม่ควรจะให้เขามีชีวิตอยู่>> 23 เมื่อเขาทั้งหลายกำลังโห่ร้อง และถอดเสื้อเอาผงคลีดินซัดขึ้นไปในอากาศ 24 นายพันจึงสั่งให้พาเปาโลเข้าไปในกรมทหาร และสั่งให้ไต่สวนโดยการเฆี่ยน เพื่อจะได้รู้ว่าเขาร้องปรักปรำท่านด้วยเหตุประการใด 25 ครั้นเอาเชือกหนังมัดเปาโล ท่านจึงถามนายร้อยซึ่งยืนอยู่ที่นั่นว่า <<การที่จะเฆี่ยนคนสัญชาติโรมก่อนพิพากษาปรับโทษนั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือ>> 26 เมื่อนายร้อยได้ยินแล้วจึงไปบอกนายพันว่า <<ท่านจะทำอะไรนั่น คนนั้นเป็นคนสัญชาติโรม>> 27 ฝ่ายนายพันจึงไปหาเปาโลถามว่า <<ท่านเป็นคนสัญชาติโรมหรือ จงบอกเราเถิด>> เปาโลจึงตอบว่า <<ใช่แล้ว>> 28 นายพันจึงว่า <<ซึ่งเราเป็นคนสัญชาติโรมได้นั้น เราต้องเสียเงินมาก>> เปาโลจึงตอบว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนสัญชาติโรมโดยกำเนิด>> 29 ขณะนั้นคนทั้งหลายที่จะไต่สวนเปาโลก็ได้ละท่านไปทันที และนายพันเมื่อทราบว่า เปาโลเป็นคนสัญชาติโรมก็ตกใจกลัวเพราะได้มัดท่านไว้ เปาโลต่อหน้าสภา 30 ครั้นวันรุ่งขึ้นนายพันอยากรู้แน่ว่าพวกยิวได้กล่าวหาเปาโลด้วยเหตุใด จึงได้ถอดเครื่องจำเปาโล สั่งให้พวกมหาปุโรหิตกับบรรดาสมาชิกสภาประชุมกัน แล้วพาเปาโลลงไปให้ยืนอยู่ในที่ประชุม |