Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -

กิจการ 13 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971


บารนาบัสและเซาโล

1 คราวนั้นในคริสตจักรที่อยู่ในเมืองอันทิโอก มีบางคนที่เป็นผู้พยากรณ์และอาจารย์ มีบารนาบัส สิเมโอนที่เรียกว่านิเกอร์กับลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอนผู้ได้รับการเลี้ยงดูเติบโตขึ้นด้วยกันกับเฮโรดเจ้าเมือง และเซาโล

2 เมื่อคนเหล่านั้นกำลังนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและถืออดอาหาร พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสสั่งว่า <<จงตั้งบารนาบัสกับเซาโลไว้สำหรับการซึ่งเราเรียกให้เขาทำนั้น>>

3 เมื่อถืออดอาหารอธิษฐาน และวางมือบนบารนาบัสกับเซาโลแล้ว เขาก็ใช้ท่านไป


อัครทูตประกาศที่เกาะไซปรัส

4 เหตุฉะนั้นท่านทั้งสองที่ได้รับใช้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงลงไปเมืองเซลูเคีย และได้แล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส

5 ครั้นมาถึงเมืองซาลามิส ท่านได้ประกาศพระวจนะของพระเจ้าในธรรมศาลาของพวกยิว ยอห์นก็อยู่ช่วยด้วย

6 เมื่อได้เดินตลอดเกาะนั้นไปถึงเมืองปาโฟสแล้ว ก็ได้พบคนหนึ่งเป็นคนทำวิทยาคม เป็นผู้ทำนายเท็จเป็นพวกยิวชื่อว่า บารเยซู

7 อยู่กับผู้ว่าราชการเมืองชื่อเสอร์จีอัสเปาโล เป็นคนฉลาดรอบรู้ ผู้ว่าราชการเมืองจึงเชิญบารนาบัสกับเซาโลมา ปรารถนาจะฟังพระวจนะของพระเจ้า

8 แต่เอลีมาสคนทำวิทยาคม (เพราะชื่อของเขาหมายอย่างนั้น) ได้คัดค้านขัดขวางบารนาบัสกับเซาโล หวังจะไม่ให้ผู้ว่าราชการเมืองเชื่อ

9 แต่เซาโลที่มีชื่ออีกว่าเปาโล ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เขม้นดูเอลีมาส

10 และพูดว่า <<เจ้าเป็นคนเต็มไปด้วยอุบาย และใจร้ายทุกอย่าง ลูกของมารร้าย เป็นศัตรูต่อบรรดาความชอบธรรม เจ้าจะไม่หยุดพยายามทำทางตรงของพระเจ้าให้เขวไปหรือ

11 ดูเถิด พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษเจ้า เจ้าจะเป็นคนตาบอดไม่เห็นดวงอาทิตย์จนถึงเวลากำหนด>> ทันใดนั้นความมืดมัวก็บังเกิดแก่เอลีมาส เอลีมาสจึงคลำหาคนให้จูงมือไป

12 ครั้นผู้ว่าราชการเมืองได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจึงเชื่อถือ และอัศจรรย์ใจด้วยพระดำรัสสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า


เปาโลและบารนาบัสที่เมืองอันทิโอกในปิสิเดีย

13 ฝ่ายเปาโลกับพวกของท่านก็แล่นเรือออกจากเมืองปาโฟส ไปยังเมืองเปอร์กาในแคว้นปัมฟีเลีย ยอห์นได้ละพวกนั้นไว้ แล้วกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม

14 แต่พวกนั้นเดินทางต่อไปจากเมืองเปอร์กาถึงเมืองอันทิโอก ในแคว้นปิสิเดีย แล้วได้เข้าไปนั่งลงในธรรมศาลาในวันสะบาโต

15 เมื่ออ่านธรรมบัญญัติกับคำของผู้เผยพระวจนะแล้ว บรรดานายธรรมศาลาจึงใช้คนไปบอกบารนาบัสกับเปาโลว่า <<พี่น้องเอ๋ย ถ้าท่านมีคำกล่าวเตือนสติแก่คนทั้งปวง ก็เชิญกล่าวเถิด>>

16 ฝ่ายเปาโลจึงยืนขึ้นโบกมือแล้วกล่าวว่า <<ท่านที่เป็นชนชาติอิสราเอลและท่านทั้งหลายที่เกรงกลัวพระเจ้า จงฟังเถิด

17 พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลนี้ ได้ทรงเลือกบรรพบุรุษของเราไว้ และได้ให้เขาเจริญขึ้นครั้งเมื่อยังเป็นแขกเมืองในประเทศอียิปต์ และได้ทรงนำเขาออกจากประเทศนั้นด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์

18 พระองค์ได้ทรงอดทนต่อความประพฤติของเขาในถิ่นทุรกันดารประมาณสี่สิบปี

19 เมื่อพระองค์ได้ทรงล้างผลาญชนเจ็ดชาติออกเสียจากแผ่นดินคานาอันแล้ว ก็ทรงแบ่งแผ่นดินของชนชาติเหล่านั้นประทานให้เป็นมรดก แก่บรรพบุรุษของเราอยู่ ประมาณสี่ร้อยห้าสิบปี

20 ภายหลังพระองค์ทรงประทานพวกผู้วินิจฉัยแก่เขาจนถึงซามูเอลผู้เผยพระวจนะ

21 คราวนั้นเขาทั้งหลายได้ขอให้มีกษัตริย์ พระเจ้าจึงได้ทรงประทานซาอูลบุตรคีชจากเผ่าเบนยามินให้เป็นกษัตริย์ครบสี่สิบปี

22 ครั้นถอดซาอูลแล้วพระองค์ได้ทรงตั้งดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ของเขา และทรงเป็นพยานกล่าวถึงดาวิดว่า <เราได้พบดาวิดบุตรของเจสซี เป็นคนที่เราชอบใจ เป็นผู้ที่จะทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จทุกประการ>

23 จากเชื้อสายของดาวิด พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ผู้ช่วยให้รอดคือพระเยซูเกิดขึ้นแก่ชาติอิสราเอลตามพระปฏิญาณของพระองค์

24 ก่อนที่พระเยซูเสด็จมา ยอห์นได้ประกาศบัพติศมาอันสำแดงการกลับใจใหม่ ให้แก่บรรดาชนชาติอิสราเอล

25 เวลาที่ยอห์นทำการตามหน้าที่ของตนเกือบจะสำเร็จ ท่านจึงถามว่า <ท่านทั้งหลายคิดเห็นว่าข้าพเจ้าคือผู้ใด ข้าพเจ้าเป็นพระองค์นั้นหามิได้ แต่ดูเถิด จะมีท่านองค์หนึ่งมาภายหลังข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่คู่ควรจะแก้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์>

26 <<ดูก่อน ท่านพี่น้องทั้งหลายผู้เป็นพันธุ์ของอับราฮัม และคนทั้งหลายในพวกท่าน ซึ่งเกรงกลัวพระเจ้า ข่าวเรื่องความรอดนี้ได้ทรงส่งมาถึงเราทั้งหลายนี้เอง

27 ฝ่ายชาวกรุงเยรูซาเล็มกับพวกเจ้าขุนมูลนายมิได้รู้จักพระองค์ หรือเข้าใจคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย ซึ่งเคยอ่านกันทุกวันสะบาโต จึงทำให้สำเร็จตามคำเหล่านั้นโดยพิพากษาลงโทษพระองค์

28 ถึงแม้ว่ามิได้พบความผิดประการใดในพระองค์ที่ควรจะให้ตาย พวกเขายังขอปีลาตให้ปลงพระชนม์พระองค์เสีย

29 ครั้นทำจนสำเร็จทุกอย่าง ตามซึ่งมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์แล้วว่าด้วยพระองค์ เขาจึงเชิญพระศพของพระองค์ลงจากต้นไม้ ไปประดิษฐานไว้ในอุโมงค์

30 แต่พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์คืนพระชนม์

31 พระองค์ทรงปรากฏแก่คนทั้งหลายที่ตามพระองค์ จากแคว้นกาลิลีไปยังกรุงเยรูซาเล็มเป็นหลายวัน บัดนี้คนเหล่านั้นเป็นพยานข้างพระองค์ให้แก่คนทั้งหลาย

32 เรานำข่าวประเสริฐนี้มาแจ้งแก่ท่านทั้งหลายว่า พระสัญญาซึ่งทรงประทานแก่บรรพบุรุษของเรา

33 พระเจ้าได้ทรงให้สำเร็จตามนั้นแก่เรา ผู้เป็นลูกหลานของคนเหล่านั้น คือในการที่พระองค์ทรงให้พระเยซูกลับคืนพระชนม์ เหมือนมีคำเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีบทที่สองว่า ท่านเป็นบุตรของเรา วันนี้เราให้กำเนิดท่าน

34 ส่วนข้อที่พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์คืนพระชนม์ มิให้กลับเน่าเปื่อยอีกเลย พระองค์จึงตรัสอย่างนี้ว่า เราจะให้สิ่งอันบริสุทธิ์มั่นคงแก่ท่านซึ่งได้สัญญาไว้กับดาวิด

35 เพราะพระองค์ตรัสไว้ในที่อื่นว่า พระองค์จะไม่ให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์ ประสบความเน่าเปื่อย

36 ฝ่ายดาวิด เมื่อได้ปฏิบัติในคราวอายุของท่านตามพระทัยของพระเจ้า และได้ล่วงหลับไปแล้ว และต้องฝังไว้กับบรรพบุรุษของท่านก็เน่าเปื่อยไป

37 แต่พระองค์ซึ่งพระเจ้าได้ทรงให้เป็นขึ้นมานั้น มิได้ประสบความเน่าเปื่อยเลย

38 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงเข้าใจเถิดว่า โดยพระองค์นั้นแหละจึงได้ประกาศการยกความผิดแก่ท่านทั้งหลาย

39 และโดยพระองค์นั้นทุกคนที่เชื่อจะพ้นโทษได้ทุกอย่าง ซึ่งจะพ้นไม่ได้โดยธรรมบัญญัติของโมเสส

40 เหตุฉะนั้นจงระวังให้ดี เกลือกว่าคำซึ่งพวกผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้นั้นจะได้แก่ท่านทั้งหลาย คือว่า

41 ดูก่อน ให้เจ้าทั้งหลายผู้ประมาทหมิ่น ประหลาดใจและถึงพินาศ ด้วยว่าเรากระทำการในกาลสมัยของเจ้า เป็นการที่แม้แต่มีผู้มาบอกแล้ว เจ้าก็ไม่เชื่อเลย>>

42 เมื่อท่านทั้งสองกำลังเดินออกไป คนทั้งหลายก็อ้อนวอนท่านให้กล่าวคำเหล่านั้นให้เขาฟังอีก ในวันสะบาโตหน้า

43 ครั้นคนที่ประชุมกันนั้นต่างคนต่างไปจากธรรมศาลาแล้ว พวกยิวหลายคน กับคนเข้าจารีตที่เกรงกลัวพระเจ้าได้ตามเปาโลและบารนาบัสไป ท่านทั้งสองจึงชวนให้เขาตั้งมั่นคงอยู่ในพระคุณของพระเจ้า

44 ครั้นถึงวันสะบาโตหน้า คนเกือบสิ้นทั้งเมืองได้ประชุมกันฟังพระวจนะของพระเจ้า

45 แต่เมื่อพวกยิวเห็นคนมากมายก็มีใจอิจฉาอย่างยิ่ง ได้พูดคัดค้านคำของเปาโลถึงกับพูดคำสบประมาท

46 ฝ่ายเปาโลกับบารนาบัสมีใจกล้า ได้กล่าวว่า <<จำเป็นที่จะต้องกล่าวพระวจนะของพระเจ้าให้ท่านทั้งหลายฟังก่อน แต่เมื่อท่านทั้งหลายปัดเสีย และตัดสินว่าตนไม่สมควรที่จะได้ชีวิตนิรันดร์ ดูเถิด พวกเราจะบ่ายหน้าไปหาคนต่างชาติ

47 ด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งเราอย่างนี้ว่า <เราได้ตั้งเจ้าไว้ให้เป็นความสว่างของคนต่างชาติ เพื่อเจ้าจะเป็นเหตุให้คนทั้งหลายรอด ถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก > >>

48 ฝ่ายคนต่างชาติเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็มีความยินดี และได้สรรเสริญพระวจนะของพระเจ้า และคนทั้งหลายที่ทรงหมายไว้แล้วเพื่อให้ได้ชีวิตนิรันดร์ก็ได้เชื่อถือ

49 พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงแผ่ไปตลอดทั่วเขตแดนนั้น

50 แต่พวกยิวได้ยุยงพวกสตรีมีศักดิ์ซึ่งเป็นคนต่างชาติที่ถือพระเจ้า กับทั้งผู้ชายที่เป็นใหญ่ในเมืองนั้น ให้เคี่ยวเข็ญและไล่เปาโลกับบารนาบัสออกจากเมืองของเขา

51 ฝ่ายเปาโลกับบารนาบัสจึงตัดสัมพันธ์ด้วยสะบัดผงคลีดินที่ติดเท้าออก แล้วก็ไปยังเขตเมืองอิโคนียูม

52 แต่พวกสาวกก็เต็มไปด้วยความชื่นชมปีติยินดีและพระวิญญาณบริสุทธิ์

Lean sinn:



Sanasan