2ซามูเอล 2 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971ตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์ 1 ครั้นเรื่องนี้สิ้นไปแล้ว ดาวิดจึงทูลถามพระเจ้าว่า <<สมควรที่ข้าพระองค์จะ ขึ้นไปยังหัวเมืองหนึ่งหัวเมืองใดในยูดาห์หรือไม่>> และพระเจ้าตรัสตอบท่านว่า <<จงขึ้นไปเถิด>> ดาวิดทูลว่า <<ควรที่ข้าพระองค์จะขึ้นไปที่ใด>> พระองค์ตรัสว่า <<เมืองเฮโบรน>> 2 ดาวิดจึงขึ้นไปที่นั้นพร้อมกับภรรยาทั้งสองของท่านด้วยคือ อาหิโนอัมชาวยิสเรเอลและอาบีกายิลแม่ม่ายของ นาบาลชาวคารเมล 3 และดาวิดก็นำคนที่อยู่กับท่านขึ้นไป ทุกคนพาครอบครัวไปด้วย และเขาทั้งหลายก็อยู่ในหัวเมืองของเฮโบรน 4 และคนยูดาห์ก็พากันมาเจิมตั้งดาวิดไว้เป็นพระราชา เหนือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ เมื่อมีคนมาทูลดาวิดว่า <<ชาวยาเบชกิเลอาดเป็นผู้ที่ฝังพระศพ ซาอูลไว้>> 5 ดาวิดก็มีรับสั่งให้ผู้สื่อสารไปหาชาว ยาเบชกิเลอาดนั้น พูดกับเขาว่า <<ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย ในการที่ท่านทั้งหลายได้สำแดงความจงรักภักดี อย่างนี้ต่อซาอูลเจ้านายของท่าน และได้ฝังพระศพพระองค์ไว้ 6 บัดนี้ขอพระเจ้าทรงสำแดงความรักมั่นคง และความเที่ยงธรรมแก่ท่าน และข้าพเจ้าจะกระทำความดีต่อท่านทั้งหลาย เพราะท่านได้กระทำการนี้ 7 เพราะฉะนั้น ขอให้มือของท่านทั้งหลายเข้มแข็ง และขอให้ท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของท่านสิ้นพระชนม์เสียแล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์ เหนือเขาทั้งหลาย>> ดาวิดสู้รบกับคนฝ่ายซาอูล 8 ฝ่ายอับเนอร์บุตรเนอร์แม่ทัพของกองทัพซาอูลได้พา อิชโบเชทราชโอรสของซาอูลข้ามไปที่เมืองมาหะนาอิม 9 และได้สถาปนาท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือ เมืองกิเลอาดและคนอาชูร์ และคนยิสเรเอล และคนเอฟราอิม และคนเบนยามิน และคนอิสราเอลทั้งหมด 10 เมื่ออิชโบเชทราชบุตร ของซาอูลเริ่มปกครองเหนืออิสราเอลนั้น มีพระชนมายุสี่สิบปี ทรงครอบครองอยู่สองปี แต่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ก็ติดตามดาวิด 11 เวลาที่ดาวิดทรงเป็น กษัตริย์เหนือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ในเฮโบรนนั้นเป็นจำนวนเจ็ดปีกับหกเดือน 12 อับเนอร์บุตรเนอร์ และพวกข้าราชการทหารของอิชโบเชทราชบุตรของซาอูล ได้ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน 13 และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์กับพวกข้าราชการ ทหารของดาวิด ก็ออกไปพบกับเขาที่สระเมืองกิเบโอนและเขา ทั้งหลายก็นั่งอยู่ที่ขอบสระ พวกหนึ่งอยู่ที่ขอบสระข้างนี้อีกพวกหนึ่งข้างโน้น 14 อับเนอร์จึงพูดกับโยอาบว่า <<ขอให้พวกคนหนุ่มลุกขึ้นรบเล่นกันให้เราดูเถิด>> และโยอาบตอบว่า <<ให้เขาลุกขึ้นเล่นซี>> 15 เขาก็ลุกขึ้นไปตามที่นับไว้ ฝ่ายเบนยามินและฝ่ายอิชโบเชทราชโอรสของ ซาอูลมีสิบสองคน และข้าราชการทหารของดาวิดก็มีสิบสองคน 16 ต่างก็จับศีรษะคู่ต่อสู้ และปักดาบเข้าที่สีข้างของคู่ต่อสู้ล้มตายด้วยกันหมด เขาจึงเรียกที่นั่นว่าเฮลขัทฮัสซูริมซึ่งอยู่ในกิเบโอน 17 การสู้รบในวันนั้นดุเดือดยิ่งนัก อับเนอร์และพวกคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่อข้าราชการทหารของดาวิด 18 บุตรทั้งสามของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่นคือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮล ฝ่ายอาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วอย่างกับละมั่ง 19 และอาสาเฮลก็ไล่ตามอับเนอร์ไป เมื่อตามไปนั้นก็มิได้เลี้ยวทางขวามือ หรือทางซ้ายมือจากการไล่ตามอับเนอร์ 20 อับเนอร์เหลียวมาดูจึงพูดว่า <<นั่นอาสาเฮลหรือ>> เขาตอบว่า <<ข้าเอง>> 21 อับเนอร์จึงบอกเขาว่า <<จงเลี้ยวไปทางขวาหรือทางซ้าย และจับเอาคนหนุ่มคนใดคนหนึ่ง แล้วก็ริบเอาของของเขาไป>> แต่อาสาเฮลไม่เลี้ยวจากไล่ตามอับเนอร์ 22 อับเนอร์จึงบอกอาสาเฮลอีกครั้งหนึ่งว่า <<จงหันกลับจากตามข้าเสียเถิด จะให้ข้าฟาดเจ้าให้ล้มลงดินทำไมเล่า แล้วข้าจะเงยหน้าขึ้นดูโยอาบพี่ของเจ้าได้อย่างไร>> 23 แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมหันกลับ เพราะฉะนั้น อับเนอร์ก็เอาโคนหอกแทงท้องอาสาเฮล หอกก็ทะลุออกข้างหลังของเขา เขาก็ล้มลงตายอยู่ที่นั่น และทุกคนซึ่งมาเห็นที่ที่อาสาเฮลล้มตายอยู่ก็ยืนนิ่ง 24 แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์ก็ตกเมื่อเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ตรงกียาห์ตามทางที่จะไปถิ่นทุรกันดารเมืองกิเบโอน 25 และคนเบนยามินก็รวมกันตามอับเนอร์ไป เป็นกลุ่มเดียวกันตั้งอยู่ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง 26 แล้วอับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า <<จะให้ดาบกินเรื่อยไปหรือ ท่านไม่ทราบหรือว่าตอนปลายมือก็ขม อีกนานสักเท่าใดท่านจึงจะสั่งคน ของท่านให้หยุดไล่ตามพี่น้องของเขา>> 27 และโยอาบจึงกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้นพวกทหารก็จะ เลิกไล่ตามพวกพี่น้องของเขาพรุ่งนี้เช้า>> 28 โยอาบจึงเป่าเขาสัตว์ขึ้น คนทั้งปวงก็หยุดไม่ไล่ตามอิสราเอลอีก และไม่สู้รบกันอีก 29 อับเนอร์กับคนของท่านก็เดินทางตลอดคืนนั้นในอาราบาห์ เขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินไปตามหุบเขาบิทโรน เขาก็มาถึงมาหะนาอิม 30 โยอาบก็กลับจากไล่ตามอับเนอร์ และเมื่อท่านรวบรวมพลเข้าด้วยกันแล้ว ข้าราชการทหารของดาวิดก็ขาดไป สิบเก้าคนไม่นับอาสาเฮล 31 แต่ข้าราชการทหารของดาวิดได้ฆ่าคน เบนยามินและคนของอับเนอร์ตายไปสามร้อยหกสิบคน 32 และเขาก็ยกศพอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์บิดาของเขา ซึ่งอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม โยอาบและคนของท่านก็ เดินทางตลอดคืนไปสว่างที่เมืองเฮโบรน |