2ซามูเอล 19 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 19711 เขาไปเรียนโยอาบว่า <<ดูเถิด พระราชากันแสงและไว้ทุกข์เพื่ออับซาโลม>> 2 เพราะฉะนั้นชัยชนะในวันนั้นก็กลาย เป็นการไว้ทุกข์ของประชาชนทั้งหลาย เพราะในวันนั้นประชาชนได้ยินว่า <<พระราชาทรงโทมนัสเพราะพระราชบุตรของพระองค์>> 3 ในวันนั้นประชาชนได้แอบเข้ามาในเมืองอย่าง กับคนหนีศึก แล้วอายแอบเข้ามา 4 พระราชาทรงคลุมพระพักตร์กันแสงเสียงดังว่า <<โอ อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ย โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา>> 5 โยอาบก็เข้ามาในพระราชวังทูลว่า <<วันนี้ฝ่าพระบาทได้ทรงกระทำให้ข้าราชการ ทั้งสิ้นของฝ่าพระบาท ผู้ซึ่งวันนี้ได้อารักขาพระชนม์ของฝ่าพระบาท ทั้งราชบุตรและราชธิดาและชีวิตของบรรดามเหสี และสนมทั้งหลายของฝ่าพระบาทให้เขาได้รับความละอาย 6 เพราะว่าฝ่าพระบาททรงรักผู้ที่เกลียดชังฝ่าพระบาท และทรงเกลียดชังผู้ที่รักฝ่าพระบาท เพราะในวันนี้ ฝ่าพระบาทได้กระทำให้ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาทไม่ไยดีต่อนายทหารและบรรดาข้าราชการทั้งหลาย ในวันนี้ข้าพระบาททราบว่า ถ้าในวันนี้อับซาโลมยังมีชีวิตอยู่ และข้าพระบาททั้งหลายก็ตายสิ้น ฝ่าพระบาทก็จะพอพระทัย 7 ขอฝ่าพระบาททรงลุกขึ้น ณ บัดนี้ขอเสด็จออกไป ตรัสให้ถึงใจข้าราชการทั้งหลาย เพราะข้าพระบาทได้ปฏิญาณในพระนามพระเจ้าว่า ถ้าฝ่าพระบาทไม่เสด็จจะไม่มีชายสักคนหนึ่งอยู่ กับฝ่าพระบาทในคืนนี้ เรื่องนี้จะร้ายแรงยิ่งกว่าเหตุร้ายอื่นๆทั้งสิ้น ซึ่งบังเกิดแก่ฝ่าพระบาทตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนบัดนี้>> 8 พระราชาก็ทรงลุกขึ้นประทับที่ประตูเมือง เขาไปบอกประชาชนว่า <<ดูเถิด พระราชาประทับอยู่ที่ประตูเมือง>> ประชาชนทั้งหลายก็มาเฝ้าพระราชา ฝ่ายอิสราเอลนั้นต่างคนต่างก็หนีไปยัง บ้านเรือนของตนหมดแล้ว ดาวิดเสด็จกลับกรุงเยรูซาเล็ม 9 ประชาชนทั้งสิ้นก็หมางใจกันไปทั่วอิสราเอลทุกเผ่า กล่าวว่า <<พระราชาเคยทรงช่วยกู้เราให้พ้นจากมือศัตรูของเรา และทรงช่วยเราให้พ้นจากมือคนฟีลิสเตีย บัดนี้พระองค์ทรงหนีอับซาโลมออกจากแผ่นดิน 10 แต่อับซาโลมผู้ที่เราเจิมตั้งไว้เหนือเรา นั้นก็สิ้นชีวิตเสียแล้วในสงคราม ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรบ้างเลยในเรื่องที่จะเชิญ พระราชาให้เสด็จกลับ>> 11 กษัตริย์ดาวิดทรงใช้คนไปหาศาโดกและ อาบียาธาร์ปุโรหิต รับสั่งว่า <<ขอบอกพวกผู้ใหญ่ของคนยูดาห์ว่า <ทำไมท่านทั้งหลายจึงเป็นคนสุดท้ายที่จะเชิญพระราชากลับพระราชวังของพระองค์ เมื่อถ้อยคำเหล่านี้มาจากอิสราเอลถึงพระราชา ที่จะเชิญพระองค์ให้กลับพระราชวังของพระองค์ 12 ท่านทั้งหลายเป็นญาติของเรา เป็นกระดูกและ เนื้อหนังของเรา ทำไมท่านจึงจะเป็นคนสุดท้ายที่จะเชิญพระราชากลับ> 13 และจงบอกอามาสาว่า <ท่านมิได้เป็นกระดูกและเนื้อหนังของเราหรือ ถ้าท่านมิได้เป็นผู้บังคับบัญชากองทัพแทน โยอาบสืบต่อไป ขอพระเจ้าทรงลงโทษเรา และยิ่งหนักกว่านั้นอีก> >> 14 ท่านก็ได้ชักจูงจิตใจของ บรรดาคนยูดาห์ดังกับเป็นจิตใจของชายคนเดียว เขาจึงส่งคนไปทูลพระราชาว่า <<ขอฝ่าพระบาทเสด็จกลับพร้อมกับบรรดาข้าราชการ ทั้งหลายด้วย>> 15 พระราชาก็เสด็จกลับและมายังแม่น้ำจอร์แดน และยูดาห์ก็พากันมาที่กิลกาลเพื่อรับเสด็จพระราชา และนำเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน 16 ชิเมอี บุตรเก-รา คนเบนยามินผู้มาจากบาฮูริม รีบลงมาพร้อมกับคนยูดาห์เพื่อจะรับเสด็จกษัตริย์ดาวิด 17 มีคนจากเผ่าเบนยามินพร้อมกับท่านหนึ่งพันคน และศิบามหาดเล็กในราชวงศ์ของซาอูล พร้อมกับบุตรสิบห้าคนกับคนใช้อีกยี่สิบ ก็รีบมายังแม่น้ำจอร์แดนต่อพระพักตร์พระราชา 18 เขาทั้งหลายได้ข้ามท่าข้ามไปรับราชวงศ์ของพระราชา และคอยปฏิบัติให้ชอบพระทัย ชิเมอีบุตรเก-รา ได้กราบลงต่อพระพักตร์ พระราชาขณะที่พระองค์จะเสด็จข้ามแม่น้ำจอร์แดน 19 กราบทูลพระราชาว่า <<ขอเจ้านายของข้าพระบาทอย่าทรงถือโทษข้าพระบาท และทรงจดจำความผิดที่ข้าพระบาทได้กระทำในวัน ที่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทสละกรุงเยรูซาเล็ม ขอพระราชาอย่าทรงจดจำไว้ในพระทัย 20 ด้วยข้าพระบาทได้ทราบแล้วว่าได้กระทำบาป เพราะฉะนั้น ดูเถิด ในวันนี้ข้าพระบาทได้มาเป็นคนแรกในพงศ์พันธุ์โยเซฟ ที่ลงมารับเสด็จพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท>> 21 อาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์จึงตอบว่า <<ที่ชิเมอีกระทำเช่นนี้ไม่ควรจะถึงที่ตายดอกหรือ เพราะเขาได้ด่าผู้ที่เจิมตั้งของพระเจ้า>> 22 แต่ดาวิดตรัสว่า <<บุตรทั้งสองของนางเศรุยาห์เอ๋ย เรามีธุระอะไรกับท่าน ซึ่งในวันนี้ท่านจะมาเป็นปฏิปักษ์กับเรา ในวันนี้น่ะควรที่จะให้ใครมีโทษถึงตาย หรือในวันนี้เราไม่ทราบดอกหรือว่า เราเป็นกษัตริย์ครอบครองอิสราเอล>> 23 และพระราชาตรัสกับชิเมอีว่า <<เจ้าจะไม่ถึงตาย>> แล้วพระราชาก็ประทานคำปฏิญาณแก่เขา 24 เมฟีโบเชท โอรสซาอูลก็ลงมารับเสด็จ โดยมิได้แต่งเท้าหรือขลิบเครา หรือซักเสื้อผ้าของตนตั้งแต่วันที่พระราชาเสด็จจาก ไปจนวันที่เสด็จกลับมาโดยสวัสดิภาพ 25 เมื่อเมฟีโบเชทมายังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะรับเสด็จพระราชาตรัสถามว่า <<เมฟีโบเชททำไมท่านมิได้ไปกับเรา>> 26 ท่านทูลตอบว่า <<ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท มหาดเล็กของข้าพระบาทหลอกลวงข้าพระบาท เพราะข้าพระบาทบอกเขาว่า <ข้าจะผูกอานลาตัวหนึ่ง เพื่อข้าจะได้ขี่ไปตามเสด็จพระราชา> เพราะว่าข้าพระบาทเป็นง่อย 27 เขากลับไปทูลพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ใส่ร้ายข้าพระบาท แต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเหมือนทูตของพระเจ้า เมื่อฝ่าพระบาททรงเห็นสมควรจะกระทำแก่ข้าพระบาท ประการใด ก็ขอทรงกระทำเถิดพ่ะย่ะค่ะ 28 เพราะว่าเชื้อวงศ์ราชบิดาของข้าพระบาทก็สมควรถึงตาย ต่อพระพักตร์พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท แต่ฝ่าพระบาทก็ทรงแต่งตั้งข้าพระบาทไว้ใน หมู่ผู้ที่รับประทานร่วมโต๊ะเสวยของฝ่าพระบาท ข้าพระบาทจะมีสิทธิประการใดเล่าที่จะ ร้องทูลอีกต่อพระราชา>> 29 พระราชาจึงตรัสกับท่านว่า <<ท่านจะพูดเรื่องธุรกิจของท่านต่อไปทำไม เราตัดสินใจว่า ท่านกับศิบาจงแบ่งที่ดินกัน>> 30 เมฟีโบเชทกราบทูลพระราชาว่า <<เมื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ได้เสด็จกลับสู่พระราชสำนักโดยสวัสดิภาพเช่นนี้แล้ว ก็ให้ศิบารับไปหมดเถิดพ่ะย่ะค่ะ>> 31 ฝ่ายบารซิลลัย ชาวกิเลอาดได้ลงมาจากโรเกลิม และไปกับพระราชาถึงแม่น้ำจอร์แดน เพื่อส่งพระองค์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป 32 บารซิลลัยเป็นคนชรามากแล้ว อายุแปดสิบปี ท่านได้นำเสบียงอาหารมาถวายพระราชาขณะ พระองค์ประทับที่มาหะนาอิมเพราะท่านเป็นคนมั่งมีมาก 33 พระราชาจึงตรัสกับบารซิลลัยว่า <<ข้ามมาอยู่กับเราเสียเถิด เราจะชุบเลี้ยงท่านให้อยู่กับเราที่กรุงเยรูซาเล็ม>> 34 แต่บารซิลลัยทูลพระราชาว่า <<ข้าพระบาทจะอยู่ต่อไปได้อีกกี่ปี ที่ข้าพระบาทจะไปอยู่กับพระราชาที่กรุงเยรูซาเล็ม 35 วันนี้ข้าพระบาทมีอายุแปดสิบปีแล้ว ข้าพระบาทจะสังเกตว่าอะไรเป็นที่พอใจและไม่พอใจได้หรือ ข้าพระบาทจะลิ้มรสอร่อยของสิ่งที่กินและดื่มได้หรือ ข้าพระบาทจะฟังเสียงชายหญิงร้องเพลงได้หรือ ทำไมจะให้ข้าพระบาทเป็นภาระเพิ่มแก่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาทอีกเล่า 36 ข้าพระบาทจะตามเสด็จพระราชาข้ามแม่น้ำ จอร์แดนไปเท่านั้น ไฉนพระราชาจะพระราชทานรางวัลเช่นนี้เล่า 37 ขอให้ข้าพระบาทกลับเพื่อไปตายที่ในเมืองของข้าพระบาท ใกล้ที่ฝังศพของบิดามารดาของข้าพระบาท ขอทรงโปรดให้คิมฮามข้าของฝ่าพระบาท ตามเสด็จพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทไป ฝ่าพระบาทจะโปรดเขาประการใดก็แล้วแต่ทรงเห็นควร>> 38 พระราชาตรัสตอบว่า <<คิมฮามจงข้ามไปกับเรา เราจะกระทำคุณแก่เขาตามที่ท่านเห็นควร สิ่งใดที่ท่านปรารถนาให้เรากระทำแก่ท่าน เรายินดีกระทำตาม>> 39 แล้วประชาชนทั้งสิ้นก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดน พระราชาเสด็จข้ามไป พระราชาทรงจุบบารซิลลัย และทรงอวยพระพรแก่ท่าน ท่านก็กลับไปยังบ้านช่องของตน 40 พระราชาเสด็จไปยังกิลกาล และคิมฮามก็ข้ามตามเสด็จไปด้วย ประชาชนยูดาห์ทั้งหมดกับประชาชน อิสราเอลครึ่งหนึ่งได้นำพระราชาข้ามมา 41 แล้วคนอิสราเอลทั้งหมดมาเฝ้าพระราชา กราบทูลพระราชาว่า <<ไฉนคนยูดาห์พี่น้องของเราจึงได้ลักพาฝ่าพระบาทไปเสีย พาพระราชาและราชวงศ์ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปพร้อม กับคนของดาวิดด้วย>> 42 ประชาชนยูดาห์จึงตอบประชาชนอิสราเอลว่า <<เพราะพระราชาเป็นญาติสนิทกับเรา ท่านทั้งหลายจะโกรธด้วยเรื่องนี้ทำไมเล่า เราได้อยู่กินสิ้นเปลืองพระราชทรัพย์ของพระราชาหรือ พระองค์ได้ให้รางวัลอะไรแก่เราหรือ>> 43 คนอิสราเอลก็ตอบคนยูดาห์ว่า <<เรามีส่วนในพระราชาสิบส่วนและในดาวิดเราก็ มีมากกว่าท่าน ทำไมท่านจึงดูถูกเราเช่นนี้เล่า เราไม่ได้เป็นพวกแรกที่พูดเรื่องการนำพระราชากลับดอกหรือ>> แต่ถ้อยคำของคนยูดาห์รุนแรงกว่าถ้อยคำของคนอิสราเอล |