2พงศ์กษัตริย์ 9 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971เยฮูรับการเจิมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล 1 แล้วเอลีชาผู้เผยพระวจนะได้เรียกพวกผู้เผยพระวจนะ มาคนหนึ่ง และพูดกับเขาว่า <<จงคาดเอวของเจ้าไว้ ถือน้ำมันขวดนี้ไปที่ราโมทกิเลอาด 2 และเมื่อเจ้าไปถึงแล้ว จงมองดูเยฮูบุตรเยโฮชาฟัทบุตรนิมซี จงเข้าไปหาเขา ให้ลุกขึ้นจากหมู่พวกเพื่อนๆ และนำเขาเข้าไปในห้องชั้นใน 3 แล้วจงเอาน้ำมันในขวดเทลงบนศีรษะของเขา และกล่าวว่า <พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราเจิมตั้งเจ้าให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล> แล้วจงเปิดประตูออกหนีไปอย่ารอช้าอยู่>> 4 คนหนุ่มนั้นคือคนหนุ่ม ที่เป็นผู้เผยพระวจนะจึงไปยังราโมทกิเลอาด 5 และเมื่อเขามาถึง ดูเถิด บรรดาผู้บังคับบัญชา ทหารกำลังประชุมกันอยู่และเขากล่าวว่า <<ข้าแต่ท่านผู้บัญชาการ ข้าพเจ้ามีธุระด่วนมาถึงท่าน>> และเยฮูพูดว่า <<มาหาคนใดในพวกเรา>> และเขาว่า <<ข้าแต่ท่านผู้บัญชาการ มาหาท่าน>> 6 ท่านก็ลุกขึ้นเข้าไปในเรือน และคนหนุ่มนั้นก็เทน้ำมันบนศีรษะของท่าน กล่าวว่า <<พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราเจิมตั้งเจ้าไว้เป็นกษัตริย์เหนือประชากรของ พระเจ้าคือเหนืออิสราเอล 7 และเจ้าจงโค่นราชวงศ์ของอาหับนายของเจ้า เพื่อเราจะได้จัดการสนองเยเซเบล เพราะโลหิตของบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรา และเพราะโลหิตของบรรดาผู้รับใช้ทั้งสิ้นของพระเจ้า 8 เพราะว่าราชวงศ์อาหับทั้งหมดจะต้องพินาศ และเราจะตัดผู้ชายทุกคนไม่ว่าทาสหรือไท ทั่วไปในอิสราเอลออกเสียจากอาหับ 9 และเราจะกระทำราชวงศ์ของอาหับให้ เหมือนราชวงศ์ของเยโรโบอัมบุตรเนบัท และเหมือนราชวงศ์ของบาอาชาบุตรอาหิยาห์ 10 และสุนัขจะกินเยเซเบลในที่ดินส่วนพระองค์ ณ ยิสเรเอล และจะไม่มีผู้ใดฝังศพพระนาง>> แล้วเขาก็เปิดประตูหนีไป 11 เมื่อเยฮูออกมาสู่พวกข้าราชการของเจ้านายของท่าน เขาทั้งหลายพูดกับท่านว่า <<ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือ ทำไมคนบ้าคนนี้จึงมาหาท่าน>> ท่านพูดกับเขาทั้งหลายว่า <<ท่านทั้งหลายรู้จักชายคนนั้นและทราบเขาพูดอะไรแล้ว>> 12 และเขาทั้งหลายว่า <<นั่นไม่เป็นความจริง ขอบอกเรามาเถิด>> และท่านว่า <<เขาพูดอย่างนี้กับข้าพเจ้าว่า <พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราเจิมตั้งเจ้าให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล> >> 13 แล้วทุกคนก็รีบเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกวางไว้รองท่านที่ขั้นบันไดซึ่งเปล่าอยู่ และเขาทั้งหลายเป่าเขาสัตว์ และป่าวร้องว่า <<เยฮูเป็นกษัตริย์>> เยฮูทรงประหารโยรัม 14 ดังนี้แหละ เยฮูบุตรเยโฮชาฟัท บุตรนิมซีได้ร่วมกันคิดกบฏต่อโยรัม (ฝ่ายโยรัม พร้อมกับอิสราเอลทั้งปวงยังระวังป้องกันฮาซาเอลกษัตริย์ แห่งซีเรียอยู่ที่ราโมทกิเลอาด 15 แต่พระราชาโยรัม ทรงกลับไปรักษาพระองค์ที่ยิสเรเอล เพราะบาดแผลซึ่งชนซีเรียได้กระทำแก่พระองค์ เมื่อพระองค์ทรงสู้รบกับฮาซาเอลพระราชาแห่งซีเรีย) เยฮูจึงตรัสว่า <<ถ้านี่เป็นความประสงค์ของท่านทั้งหลาย ก็ขออย่าให้คนหนึ่งคนใดเล็ดลอดออกไปจากเมืองเพื่อ บอกข่าวที่ยิสเรเอล>> 16 แล้วเยฮูก็เสด็จทรงรถรบและเสด็จไปยังยิสเรเอล เพราะโยรัมบรรทมที่นั่น และอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ได้เสด็จลงมาเยี่ยมโยรัม 17 ฝ่ายทหารยามยืนอยู่บนหอคอยที่ยิสเรเอลเขามองเห็น พวกของเยฮูมาจึงว่า <<ข้าพเจ้าเห็นคนพวกหนึ่ง>> โยรัมตรัสว่า <<จงใช้ให้พลม้าคนหนึ่งไปพบเขาให้ถามเขาว่า <มาอย่างสันติหรือ> >> 18 คนนั้นจึงขึ้นม้าไปพบท่านและพูดว่า <<พระราชาตรัสดังนี้ว่า <มาอย่างสันติหรือ> >> และเยฮูตอบว่า <<ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติ จงเลี้ยวกลับตามเรามา>> และทหารยามก็รายงานว่า <<ผู้สื่อสารไปถึงเขาแล้ว แต่เขาไม่กลับมา>> 19 พระองค์จึงรับสั่งใช้พลม้าคนที่สองออกไป ผู้นั้นมาถึงเขาแล้วก็พูดว่า <<พระราชาตรัสดังนี้ว่า <อย่างสันติหรือ> >> และเยฮูตอบว่า <<ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติ จงเลี้ยวกลับตามเรามา>> 20 ทหารยามก็รายงานอีกว่า <<เขาไปถึงแล้วแต่เขาไม่กลับมา และการขับรถนั้นก็เหมือนกับการขับรถของเยฮูบุตรนิมซี เพราะเขาขับรวดเร็วนัก>> 21 โยรัมตรัสว่า <<จงเตรียมพร้อม>> และเขาก็จัดรถรบของพระองค์ให้พร้อมไว้ แล้วโยรัมพระราชาแห่งอิสราเอล และอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ก็เสด็จออกไป ต่างก็ทรงรถรบของพระองค์เอง ทรงออกไปปะทะกับเยฮูมาพบกันเข้า ณ ที่ดินแปลง ของนาโบทชาวยิสเรเอล 22 และอยู่มาเมื่อโยรัมเห็นเยฮูแล้ว จึงตรัสว่า <<เยฮู อย่างสันติหรือ>> เยฮูตอบว่า <<จะสันติอย่างไรได้ เมื่อการเล่นชู้และวิทยาคมของเยเซเบลมารดาของ ท่านยังมีอยู่มากเช่นนี้>> 23 แล้วโยรัม ทรงชักบังเหียนหันกลับหนีไปพลางรับสั่งกับอาหัสยาห์ว่า <<ข้าแต่อาหัสยาห์ เขาร่วมกันคิดกบฏ>> 24 และเยฮูก็โก่งธนูด้วยสุดกำลัง ยิงถูกโยรัมระหว่างพระอังสาทั้งสอง ลูกธนูจึงแทงทะลุพระหทัยของพระองค์ พระองค์ก็ทรงล้มลงในรถรบของพระองค์ 25 เยฮูตรัสกับบิดคาร์ นายทหารคนสนิทของพระองค์ว่า <<จงยกศพเขาขึ้นและโยนทิ้งลงไปในที่ดินแปลงของนาโบท ชาวยิสเรเอล จำไว้เถอะ เมื่อฉันและท่านขี่ม้าเคียงกันมาตามอาหับบิดาของเขาไป พระเจ้าทรงกล่าวโทษเขาดังนี้ว่า 26 <เราได้เห็นโลหิตของนาโบท และโลหิตของลูกหลานของเขาเมื่อวานนี้แน่ทีเดียว เราจะสนองเจ้าบนที่ดินแปลงนี้แหละ ฉะนั้นจงยกเขาขึ้นทิ้งไว้ บนที่ดินแปลงนี้แหละตามพระวจนะของพระเจ้า>> เยฮูประหารอาหัสยาห์ ( 2 พศด. 22:7-9 ) 27 เมื่ออาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์เห็นดังนั้น พระองค์ทรงหนีไปในทิศเมืองเบธฮักกาน และเยฮูก็ติดตามพระองค์ไปตรัสว่า <<จงยิงท่านในรถรบด้วย>> และเขาทั้งหลายได้ยิงพระองค์ตรงทางข้าม เขาตำบลกูรซึ่งอยู่ใกล้อิบเลอัม และพระองค์ทรงหนีไปถึงเมืองเมกิดโด และสิ้นพระชนม์ที่นั่น 28 ข้าราชการของพระองค์ก็บรรทุกพระศพใส่รถรบ ไปยังเยรูซาเล็ม และฝังไว้ในอุโมงค์ของพระองค์กับบรรพบุรุษของ พระองค์ในนครดาวิด 29 ในปีที่สิบเอ็ด แห่งรัชกาลโยรัมบุตรอาหับ อาหัสยาห์เริ่มครอบครองเหนือยูดาห์ มรณกรรมของเยเซเบล 30 เมื่อเยฮูมาถึงเมืองยิสเรเอล เยเซเบลทรงทราบเรื่อง พระนางก็ทรงเขียนตาและแต่งพระเศียร และทรงมองออกไปทางพระแกล 31 และเมื่อเยฮูผ่านเข้าประตูวังมา พระนางมีพระเสาวนีย์ว่า <<เจ้าผู้ฆ่านายของเจ้าอย่างเจ้าศิมรี มาอย่างสันติหรือ>> 32 แล้วเยฮูแหงนพระพักตร์ทอดพระเนตรที่พระแกลตรัสว่า <<ใครอยู่ฝ่ายเรา ใครบ้าง>> มีขันทีสองสามคนชะโงกหน้าต่างออกมาดูพระองค์ 33 พระองค์ตรัสว่า <<โยนนางลงมา>> เขาจึงโยนพระนางลงมา และโลหิตของพระนางก็กระเด็นติดผนังกำแพงและติดม้า และพระองค์ทรงม้าย่ำไปบนพระนาง 34 แล้วพระองค์เสด็จเข้าไป เสวยและทรงดื่ม และพระองค์ตรัสว่า <<จัดการกับหญิงที่ถูกสาปคนนี้ เอาไปฝังเสีย เพราะเธอเป็นธิดาของพระราชา>> 35 แต่เมื่อเขาจะไปฝังศพพระนาง เขาก็พบแต่กระโหลกพระเศียร พระบาทและฝ่าพระหัตถ์ของพระนาง 36 เมื่อเขากลับมาทูลพระองค์ พระองค์ตรัสว่า <<นี่เป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสทางเอลียาห์ชาวทิชบีผู้รับใช้ ของพระองค์ว่า สุนัขจะกินเนื้อของเยเซเบลในเขตแดนยิสเรเอล 37 และศพของเยเซเบลจะเป็นเหมือนมูลสัตว์ บนพื้นทุ่งในเขตแดนยิสเรเอล เพื่อว่าจะไม่มีใครกล่าวว่า <นี่คือ เยเซเบล> >> |