2พงศ์กษัตริย์ 25 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 19711 และอยู่มาเนบูคัดเนสซาร์พระราชาแห่งบาบิโลน ได้ยกมาพร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์เข้าสู้รบ กรุงเยรูซาเล็ม และล้อมกรุงนั้นไว้ และเขาทั้งหลายได้สร้างเครื่องล้อมไว้รอบ 2 กรุงนั้นจึงถูกล้อมอยู่ถึงปีที่สิบเอ็ด แห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ 3 เมื่อวันที่เก้าของเดือนที่สี่ การกันดารอาหารในกรุงนั้นก็ร้ายกาจนัก ไม่มีอาหารให้แก่ราษฎร 4 แล้วกรุงนั้นก็แตก ทหารทั้งสิ้นหนีออกไปในกลางคืนตามทางประตูเมือง ระหว่างกำแพงทั้งสองซึ่งอยู่ริมราชอุทยาน (ทั้งๆที่คนเคลเดียอยู่รอบเมือง) และพระราชาก็เสด็จตามทางไปลุ่มแม่น้ำจอร์แดน 5 แต่กองทัพของคนเคลเดียได้ไล่ตามพระราชา และมาทันพระองค์ในที่ราบเมืองเยรีโค และกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์ก็กระจัดกระจาย ไปจากพระองค์ 6 แล้วเขาจึงจับพระราชา นำขึ้นมายังพระราชาแห่งบาบิโลน ที่ริบลาห์ ผู้ทรงให้คำพิพากษา 7 เขาได้ประหารชีวิตบรรดาโอรสของ เศเดคียาห์ต่อพระพักตร์ของพระองค์ แล้วทำพระเนตรเศเดคียาห์ให้บอดไป ตีตรวนพระองค์ไว้ และพาพระองค์ไปยังบาบิโลน ยูดาห์เป็นเชลย ( 2 พศด. 36:17-21 ; ยรม. 39:8-10 ; 52:12-30 ) 8 เมื่อวันที่เจ็ดเดือนที่ห้า ซึ่งเป็นปีที่สิบเก้าของรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ พระราชาแห่งบาบิโลน เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ข้าราชการคนหนึ่งของพระราชาแห่งบาบิโลนได้มายังเยรูซาเล็ม 9 ท่านได้เผาพระนิเวศของพระเจ้าเสีย และเผาพระราชวัง และเผาบ้านเรือนทั้งหมดของเยรูซาเล็ม ท่านเผาบ้านใหญ่ทุกหลังลงหมด 10 และทหารคนเคลเดียทั้งหมดผู้ อยู่กับผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้ทลายกำแพงรอบเยรูซาเล็มลง 11 และประชาชนที่เหลืออยู่ซึ่งอยู่ในเมือง และคนหลบหนีซึ่งหลบหนีไปยังพระราชาแห่งบาบิโลน พร้อมกับมวลชนที่เหลืออยู่นั้น เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ กวาดไปเป็นเชลย 12 แต่ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ละ คนจนที่สุดแห่งแผ่นดินไว้ให้ เป็นคนทำสวนองุ่นและเป็นคนทำไร่ไถนา 13 และเสาทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า และเชิงกับขันสาครทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้านั้นคนเคลเดียได้ทุบเป็นชิ้นๆ และขนเอาทองสัมฤทธิ์ไปยังบาบิโลน 14 เขาขนหม้อ พลั่ว และตะไกรตัดไส้ตะเกียง และชามเครื่องหอม และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์ซึ่งใช้ในงานของพระวิหารเอา ไปเสีย 15 ทั้งกระถางไฟด้วย กับชามอ่าง สิ่งใดที่ทำด้วยทองคำ ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ก็ขนเอาไปเป็นทองคำ และสิ่งใดที่ทำด้วยเงินก็ขนเอาไปเป็นเงิน 16 ส่วนเสาหานสองต้น ขันสาครหนึ่งลูกและเชิง ซึ่งซาโลมอนทรงสร้างสำหรับพระนิเวศของพระเจ้านั้น ทองสัมฤทธิ์ของภาชนะเหล่านี้ก็เหลือที่จะชั่งได้ 17 เสาหานต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก และบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์มีบนเสาบัวคว่ำนั้นสูงสามศอก มีตาข่ายกับลูกทับทิมล้วนทองสัมฤทธิ์อยู่บนบัวคว่ำโดยรอบ และเสาหานต้นที่สองก็เหมือนกัน พร้อมตาข่าย 18 และผู้บัญชาการทหาร รักษาพระองค์ก็จับเสไรอาห์ปุโรหิตผู้ใหญ่ และเศฟันยาห์ปุโรหิตที่สอง กับผู้รักษาธรณีประตูสามคนไปด้วย 19 และจากเมืองนั้นท่านได้จับข้าราชสำนัก ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพกับที่ปรึกษาของพระราชา อีกห้าคนที่พบในเมืองนั้น และเลขาธิการและผู้บัญชาการกองทัพผู้เกณฑ์ราษฎร และอีกหกสิบคนจากราษฎรซึ่งพบในเมือง 20 และเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษา พระองค์ได้จับคนเหล่านี้ไป พามาถึงพระราชาแห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ 21 และพระราชาแห่งบาบิโลนได้ทรงฟันเขา และประหารชีวิตเขาทั้งหลายเสียที่ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท ยูดาห์จึงถูกกวาดเป็นเชลยไปจากแผ่นดินของตน พวกที่เหลืออยู่ได้หลบหนีไปอียิปต์ 22 พระองค์ทรงตั้งเกดาลิยาห์บุตรอาหิคัม บุตรชาฟานให้เป็นเจ้าเมือง เหนือประชาชนผู้เหลืออยู่ในแผ่นดิน ยูดาห์ผู้ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ พระราชาบาบิโลนได้ทรงเหลือไว้ 23 เมื่อบรรดาผู้บังคับบัญชาพลรบทั้งตัวเขาทั้งหลาย และคนของเขาได้ยินว่า พระราชาแห่งบาบิโลนได้แต่งตั้งเกดาลิยาห์ให้เป็น เจ้าเมือง เขาก็มาพร้อมกับคนของเขาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ คืออิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ และโยฮานันบุตรคาเรอาห์ และเสไรอาห์บุตรทันหุเมทชาวเนโทฟาห์ และยาอาซันยาห์บุตรคนตระกูลมาอาคาห์ ทั้งเขาทั้งหลายและคนของเขา 24 และเกดาลิยาห์ก็กระทำสัตย์สาบาน แก่เขาและคนของเขาว่า <<อย่ากลัวเพราะเจ้าหน้าที่คนเคลเดียเลย จงอาศัยในแผ่นดินและปรนนิบัติพระราชาแห่งบาบิโลน แล้วท่านก็จะอยู่เย็นเป็นสุข>> 25 แต่ในเดือนที่เจ็ดอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ บุตรเอลีชามาผู้เป็นเชื้อพระวงศ์ ได้เข้ามาพร้อมกับชายสิบคน ได้โจมตีและฆ่าเกดาลิยาห์และพวกยิวกับคน เคลเดียผู้อยู่กับท่านที่มิสปาห์เสีย 26 แล้วประชาชนทั้งปวง ทั้งเล็ก และใหญ่ และผู้บังคับบัญชาพลรบได้ลุกขึ้น และไปยังอียิปต์เพราะเขากลัวคนเคลเดีย ทรงปล่อยเยโฮยาคีน และให้ได้รับเกียรติในบาบิโลน ( ยรม. 52:31-34 ) 27 และอยู่มาในปีที่สามสิบเจ็ดแห่งการเนรเทศ เยโฮยาคีนพระราชาแห่งยูดาห์ ในเดือนที่สิบสองเมื่อวันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนนั้น เอวิลเมโรดักพระราชาแห่งบาบิโลน ในปีที่พระองค์ทรงเริ่มครอบครอง ทรงพระกรุณาโปรดให้เยโฮยาคีนพ้นจากเรือนจำ 28 พระองค์ตรัสด้วยคำอ่อนหวานแก่ท่าน และให้นั่งสูงกว่าบรรดาที่นั่งของ กษัตริย์ที่อยู่ในบาบิโลนกับพระองค์ 29 เยโฮยาคีนจึงได้ถอดเครื่องแต่งกายของนักโทษออก และได้รับประทานที่โต๊ะเสวยของพระราชาเป็นปกติ ทุกวันตลอดชีวิต 30 ส่วนงบประมาณที่ให้นั้นก็ได้รับพระราชทานจากกษัตริย์ ตามความต้องการรายวันอยู่เสมอตลอดเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ |