Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -

1พงศ์กษัตริย์ 18 - พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971


เอลียาห์กลับไปเฝ้าอาหับ

1 และอยู่ต่อมาหลายวัน พระวจนะของพระเจ้ามาถึงเอลียาห์ในปีที่สามว่า <<ไปซี และแสดงตัวของเจ้าต่ออาหับ และเราจะส่งฝนมาเหนือพื้นดิน>>

2 เอลียาห์ก็ไปแสดงตัวต่ออาหับ การกันดารอาหารนั้นสาหัสมากในสะมาเรีย

3 และอาหับรับสั่งเรียกโอบาดีห์ผู้เป็นอธิบดีกรมวัง (ฝ่ายโอบาดีห์นั้นเคารพพระเจ้ายิ่งนัก

4 และเมื่อเยเซเบลกำจัดผู้เผยพระวจนะ ของพระเจ้าออกไป โอบาดีห์ได้นำผู้เผยพระวจนะหนึ่งร้อย คนซ่อนไว้ตามถ้ำแห่งละห้าสิบคน และเลี้ยงเขาทั้งหลายด้วยขนมปังและน้ำ)

5 และอาหับรับสั่งโอบาดีห์ว่า <<จงไปให้ทั่วพื้นแผ่นดินไปหาธารน้ำพุ และไปให้ทั่วทุกหุบเขา ชะรอยเราจะพบหญ้า และรักษาชีวิตม้าและล่อให้คงอยู่ได้ และไม่ต้องสูญเสียสัตว์ไปบ้าง>>

6 ดังนั้นเขาก็แบ่งดินแดนกันเพื่อจะออกไปค้น อาหับเสด็จไปทางหนึ่ง ฝ่ายโอบาดีห์ไปอีกทางหนึ่ง

7 เมื่อโอบาดีห์กำลังไปตามทาง ดูเถิด เอลียาห์ได้พบท่าน และโอบาดีห์ก็จำท่านได้ จึงซบหน้าลงพูดว่า <<เอลียาห์ เจ้านายของข้าพเจ้า เป็นตัวท่านเองจริงหรือ>>

8 และท่านก็ตอบเขาว่า <<ตัวฉันเอง จงไปบอกเจ้านายของท่านว่า <ดูเถิด เอลียาห์อยู่ที่นี่> >>

9 และเขากล่าวว่า <<ข้าพเจ้าได้กระทำผิดประการใด ท่านจึงจะมอบผู้รับใช้ของท่านไว้ในพระหัตถ์ของอาหับ ให้ประหารข้าพเจ้าเสีย

10 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ไม่มีประชาชาติหรือราชอาณาจักรใด ที่เจ้านายของข้าพเจ้ามิได้ส่งคนไปเสาะหาท่าน และเมื่อเขาทั้งหลายกราบทูลว่า <เขาไม่อยู่ที่นี่ พระเจ้าข้า> พระองค์ก็ให้ประชาชาติหรือราชอาณาจักรสาบานว่า เขาทั้งหลายมิได้พบท่าน

11 และคราวนี้ท่านกล่าวว่า <จงไปบอกเจ้านายของท่านว่า <<ดูเถิด เอลียาห์อยู่ที่นี่>> >

12 พอข้าพเจ้าไปจากท่านแล้ว พระวิญญาณของพระเจ้าจะมาพาท่านไป ณ ที่ใดข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ ฉะนั้น เมื่อข้าพเจ้าไปทูลกษัตริย์อาหับ และพระองค์หาท่านไม่พบ พระองค์ก็จะทรงประหารข้าพเจ้าเสีย ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านยำเกรงพระเจ้าตั้งแต่หนุ่มๆมา

13 ไม่มีผู้ใดเรียนเจ้านายของข้าพเจ้าดอกหรือว่า ข้าพเจ้าได้กระทำสิ่งใดเมื่อเยเซเบลประหาร ศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าเสีย และข้าพเจ้าได้ซ่อนผู้เผยพระวจนะ หนึ่งร้อยคนของพระเจ้าไว้ตามถ้ำแห่งละห้าสิบคน และเลี้ยงเขาด้วยขนมปังและน้ำ

14 และคราวนี้ท่านบอกว่า <จงไปบอกเจ้านายของท่านว่า <<ดูเถิด เอลียาห์อยู่ที่นี่>> > พระองค์จะทรงประหารข้าพเจ้าเสีย>>

15 และเอลียาห์กล่าวว่า <<พระเจ้าจอมโยธาผู้ซึ่งข้าพเจ้าปฏิบัติอยู่ทรงพระชนม์ อยู่แน่ฉันใด ข้าพเจ้าจะแสดงตัวของข้าพเจ้าแก่อาหับในวันนี้แน่>>

16 โอบาดีห์จึงไปเฝ้าอาหับและทูลพระองค์ อาหับก็เสด็จไปพบเอลียาห์

17 และอยู่มาเมื่ออาหับทอดพระเนตรเห็นเอลียาห์ อาหับก็ตรัสกับท่านว่า <<นี่ตัวเจ้าหรือ เจ้าผู้ทำความลำบากให้อิสราเอล>>

18 และท่านจึงทูลว่า <<ข้าพระบาทมิได้กระทำความลำบากแก่อิสราเอล แต่ฝ่าพระบาทได้กระทำ และราชวงศ์บิดาของฝ่าพระบาท เพราะว่าพวกฝ่าพระบาทได้ทอดทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า และติดตามบรรดาพระบาอัล

19 เพราะฉะนั้นขอทรงสั่งให้บรรดาชนอิสราเอล มาพบข้าพระบาทที่ภูเขาคารเมล ทั้งผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลสี่ร้อยห้าสิบคนนั้น และผู้เผยพระวจนะของพระอาเชราห์สี่ร้อยคนนั้น ผู้ซึ่งรับประทานที่โต๊ะเสวยของพระนางเยเซเบล>>


การพนันขันต่อบนภูเขาคารเมล

20 อาหับจึงทรงส่งไปยังคนอิสราเอลทั้งปวง และชุมนุมผู้เผยพระวจนะที่ภูเขาคารเมล

21 และเอลียาห์ก็เข้ามาใกล้ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า <<ท่านทั้งหลายจะขยักขย่อนอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานสักเท่าใด ถ้าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า จงติดตามพระองค์ แต่ถ้าพระบาอัลเป็น ก็จงตามท่านไปเถิด>> และประชาชนไม่ตอบท่านสักคำเดียว

22 แล้วเอลียาห์พูดกับประชาชนว่า <<ตัวข้าพเจ้า คือข้าพเจ้าแต่ผู้เดียวเป็นผู้เผย พระวจนะของพระเจ้าที่เหลืออยู่ แต่ผู้เผยพระวจนะพระบาอัลมีสี่ร้อยห้าสิบคน

23 ขอให้เขามอบวัวผู้แก่เราสองตัว แล้วขอให้เขาทั้งหลายเลือกวัวเป็นของเขาตัวหนึ่ง ฟันเป็นท่อนๆวางไว้บนกองฟืนแต่อย่าใส่ไฟ และข้าพเจ้าจะเตรียมวัวผู้อีกตัวหนึ่งนั้นวางไว้บนฟืน และไม่ใส่ไฟ

24 และท่านทั้งหลายจงร้องออกพระนามพระเจ้าของท่าน และข้าพเจ้าจะร้องออกพระนามพระเยโฮวาห์ พระเจ้าองค์ที่ทรงตอบด้วยไฟ พระองค์นั้นแหละทรงเป็นพระเจ้า>> และประชาชนทั้งปวงก็ตอบว่า <<อย่างที่พูดก็ดีแล้ว>>

25 แล้วเอลียาห์พูดกับผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลว่า <<จงเลือกวัวผู้ตัวหนึ่งสำหรับท่านและตระเตรียมเสียก่อน เพราะพวกท่านมากคนด้วยกัน จงร้องออกพระนามพระเจ้าของท่าน แต่อย่าใส่ไฟ>>

26 เขาทั้งหลายก็เอาวัวผู้ที่เขานำมาให้ และเขาทั้งหลายก็จัดเตรียมและร้องออกพระนามพระบาอัล ตั้งแต่เวลาเช้าจนเที่ยงกล่าวว่า <<ข้าแต่พระบาอัล ขอตอบพวกข้าพเจ้าเถิด>> แต่ก็ไม่มีเสียงและไม่มีใครตอบ และเขาก็โขยกเขยกอยู่รอบแท่นซึ่งเขาได้สร้างขึ้นนั้น

27 ครั้นถึงเวลาเที่ยงเอลียาห์ก็เย้ยเขาทั้งหลายว่า <<ร้องให้ดังๆซี เพราะท่านเป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง ท่านกำลังติดธุระอยู่ หรือท่านกำลังไปทุ่ง หรือท่านไปเที่ยว หรือชะรอยท่านกำลังหลับอยู่ และจะต้องปลุก>>

28 เขาทั้งหลายก็ร้องเสียงดัง และเชือดเฉือนตัวเองตามธรรมเนียมของเขาด้วยดาบและหลาว จนโลหิตไหลพุ่งออกมาตามตัว

29 และเมื่อผ่านเที่ยงวันไปแล้ว เขาก็พร่ำต่อไปจนถึงเวลาถวายบูชา แต่ไม่มีเสียง ไม่มีใครตอบ ไม่มีใครฟัง

30 แล้วเอลียาห์พูดกับประชาชนทั้งปวงว่า <<จงเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า>> และประชาชนทั้งปวงก็เข้ามาใกล้ท่าน และท่านก็ซ่อมแท่นบูชาของพระเจ้าที่ถูกทำลายลงนั้น

31 เอลียาห์นำศิลาสิบสองก้อนมาตามจำนวนเผ่า ของบุตรชายของยาโคบ ผู้ซึ่งพระวจนะของพระเจ้ามาถึงว่า <<อิสราเอลจะเป็นชื่อของเจ้า>>

32 และท่านได้สร้างแท่นบูชาด้วยศิลาในพระนามของพระเจ้า และท่านได้ขุดร่องรอบแท่นใหญ่พอจุเมล็ดพืชได้สองถัง

33 และท่านก็วางฟืนไว้เป็นระเบียบและฟันวัวผู้นั้นเป็นท่อนๆ และวางไว้บนกองฟืน และท่านกล่าวว่า <<จงเติมน้ำให้เต็มสี่ไหและเทลงบนเครื่องเผาบูชา และบนกองฟืน>>

34 และท่านกล่าวว่า <<จงกระทำครั้งที่สอง>> และเขาก็กระทำครั้งที่สอง และท่านกล่าวว่า <<จงกระทำครั้งที่สาม>> และเขาก็กระทำครั้งที่สาม

35 และน้ำไหลรอบแท่นบูชา และท่านใส่น้ำเต็มร่อง

36 และอยู่มาเมื่อถึงเวลาถวายบูชา เอลียาห์ผู้เผยพระวจนะก็เข้ามาใกล้ทูลว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอล ขอให้ทราบเสียทั่วกันในวันนี้ว่า พระองค์คือพระเจ้าในอิสราเอล และข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์ได้กระทำบรรดาสิ่งเหล่านี้ ตามพระดำรัสของพระองค์

37 ข้าขอแต่พระเจ้า ขอทรงฟังข้าพระองค์ ทรงฟังข้าพระองค์ เพื่อชนชาตินี้จะทราบว่าพระองค์คือพระเยโฮวาห์ ทรงเป็นพระเจ้า และพระองค์ทรงหันจิตใจของเขาทั้งหลายกลับมาอีก>>

38 แล้วไฟของพระเจ้าก็ตกลงมาและไหม้เครื่องเผาบูชา และฟืนและหิน และผงคลี และเลียน้ำซึ่งอยู่ในคู

39 และเมื่อประชาชนทั้งปวงได้เห็น เขาก็ซบหน้าลงและร้องว่า <<พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า>>

40 และเอลียาห์บอกเขาว่า <<จงจับผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล อย่าให้หนีไปได้สักคนเดียว>> และเขาทั้งหลายก็ไปจับเขามา และเอลียาห์ก็นำเขามาที่ลำธารคีโชน และฆ่าเขาเสียที่นั่น


เอลียาห์อธิษฐานทูลขอฝน

41 เอลียาห์ทูลอาหับว่า <<ขอเชิญเสด็จขึ้นไปเสวยและดื่มเถิด เพราะมีเสียงฝนกระหึ่มมา>>

42 อาหับก็เสด็จขึ้นไปเสวยและดื่ม และเอลียาห์ก็ขึ้นไปที่ยอดภูเขาคารเมล ท่านก็โน้มตัวลงถึงดิน ซบหน้าระหว่างเข่า

43 และท่านสั่งคนใช้ของท่านว่า <<จงลุกขึ้นมองไปทางทะเล>> เขาก็ลุกขึ้นมองและตอบว่า <<ไม่มีอะไรเลย>> และท่านบอกว่า <<จงไปดูอีกเจ็ดครั้ง>>

44 และอยู่มาเมื่อถึงครั้งที่เจ็ดเขาบอกว่า <<ดูเถิด มีเมฆก้อนหนึ่งเล็กเท่าฝ่ามือคนขึ้นมาจากทะเล และท่านก็บอกว่า <จงไปทูลอาหับว่า <ขอทรงเตรียมราชรถและเสด็จลงไปเพื่อพระองค์จะไม่ ติดฝน> >>

45 และอยู่มาอีกครู่หนึ่ง ท้องฟ้าก็มืดไปด้วยเมฆและลม และมีฝนหนัก อาหับก็ทรงรถเสด็จไปยังเมืองยิสเรเอล

46 และพระหัตถ์ของพระเจ้าหนุนกำลังเอลียาห์ และท่านก็คาดเอวของท่านไว้และวิ่งขึ้นหน้าอาหับไปถึงทางเข้าเมืองยิสเรเอล

Lean sinn:



Sanasan