หนังสือโรม 6 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940คนรับบัพติศมาเข้าส่วนในความตายของพระองค์ 1 ถ้าอย่างนั้นแล้วเราทั้งหลายจะว่าอย่างไร? เราจะคงอยู่ในความบาปต่อไปเพื่อจะให้พระคุณมีปรากฏมากยิ่งขึ้นหรือ 2 อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย. พวกเราที่ตายแก่ความบาป (คือหมดความปรารถนาที่จะทำบาปแล้ว) จะมีชีวิตในความบาป (คือจะมีความปรารถนาทำบาป) ต่อไปอย่างไรได้? 3 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า เราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าส่วนในพระเยซูคริสต์ ได้รับบัพติศมานั้นเข้าส่วนในความตายของพระองค์. 4 เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายก็ถูกฝังไว้กับพระองค์แล้ว โดยบัพติศมาเข้าส่วนในความตายนั้น, เพื่อพระคริสต์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายโดยเดชพระรัศมีของพระบิดาเจ้าอย่างไร, เราทั้งหลายจะได้ประพฤติตามชีวิตใหม่อย่างนั้น 5 เพราะว่าถ้าเราร่วมสนิทกับพระองค์แล้วโดยได้ตายเหมือนอย่างพระองค์, เราคงจะร่วมสนิทกับพระองค์โดยได้เป็นขึ้นมาเหมือนอย่างพระองค์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายนั้นด้วย. 6 เราทั้งหลายรู้แล้วว่า มนุษย์เก่าของเรานั้นได้ตรึงไว้กับพระองค์แล้ว. เพื่อตัวบาปจะศูนย์สิ้นไป, เพื่อเราจะไม่เป็นทาสของบาปนั้นต่อไป 7 เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็ปราศจากโทษของบาป, 8 แต่ถ้าเราตายอยู่กับพระคริสต์แล้ว, เราเชื่อว่าเราจะเป็นอยู่กับพระองค์ด้วย. 9 เราทั้งหลายรู้อยู่ว่า พระคริสต์ที่ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายนั้นแล้วจะหาตายอีกไม่ ความตายก็หาครอบงำพระองค์ต่อไปไม่. 10 ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายเพราะความบาปหนเดียว. แต่ซึ่งพระองค์ทรงชีวิตอยู่นั้นพระองค์ทรงชีวิตเพื่อพระเจ้า. 11 เหมือนเช่นนั้นท่านทั้งหลายจงถือว่าท่านได้ตายแก่ความบาป, แต่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ท่านทั้งหลายอยู่ใต้พระคุณ 12 เหตุฉะนั้นอย่าให้ความบาปครอบงำกายของท่านทั้งหลายที่ต้องตาย อย่าเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น. 13 อย่าให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแก่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่ขึ้นมาจากความตายแล้ว, และจงให้อวัยวะเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายพระเจ้า. 14 ด้วยว่าความผิดจะครอบงำท่านทั้งหลายต่อไปก็หามิได้, เพราะว่าท่านทั้งหลายมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติ, แต่อยู่ใต้พระคุณ 15 ถ้าอย่างนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร? เราทั้งหลายจะกระทำความชั่วเพราะมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณหรือ ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย. 16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า ท่านจะยอมตัวรับใช้ฟังคำของผู้ใดท่านก็เป็นทาสของผู้นั้น, คือเป็นทาสกระทำผิดจนถึงความตายก็ดี, หรือฟังประพฤติการดีจนถึงความชอบธรรมก็ดี. 17 แต่จงขอบพระคุณของพระเจ้า, เพราะว่าเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นทาสบาป, แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังคำสอนนั้นซึ่งทรงประทานแก่ท่านทั้งหลาย. 18 เมื่อท่านทั้งหลายพ้นจากบาปแล้ว, ท่านก็ได้เป็นทาสของความชอบธรรม. 19 ข้าพเจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มาพูด, เพราะเหตุเนื้อหนังของท่านอ่อนกำลัง เพราะท่านทั้งหลายได้ให้อวัยวะเป็นทาสของการโสโครกและของการบาปซ้อนบาปฉันใด, บัดนี้ท่านจงให้อวัยวะเป็นทาสของความชอบธรรมถึงความบริสุทธิ์ฉันนั้น ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ 20 เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายเป็นทาสของความบาป, ท่านก็ปราศจากความชอบธรรม. 21 ขณะนั้นท่านได้ผลประโยชน์อะไรในการเหล่านั้น ซึ่งบัดนี้ท่านทั้งหลายก็ละอาย? ด้วยว่าผลที่สุดปลายของการเหล่านั้นก็คือความตาย. 22 แต่เดี๋ยวนี้ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายพ้นจากเป็นทาสแห่งความบาป, และให้เป็นทาสของพระเจ้าแล้วท่านทั้งหลายจึงมีความบริสุทธิ์เป็นผล, และที่สุดปลายจะมีชีวิตนิรันดร์. 23 ด้วยว่าค่าจ้างของความบาปนั้นคือความตาย แต่ของประทานของพระเจ้าก็คือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society