หนังสือโรม 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940เราเป็นไมตรีกับพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์ 1 เหตุฉะนั้น เมื่อเราทั้งหลายเป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว, เราจึงเป็นไมตรีกันกันพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา. 2 โดยพระเยซูนั้นเราทั้งหลายจึงได้เข้าในร่มพระคุณที่เรายืนอยู่นั้น, และเรามีความภูมิใจด้วยมีความไว้ใจว่าจะได้รับรัศมีของพระเจ้า. 3 และมิใช่เท่านั้น แต่เราทั้งหลายยังมีความภูมิใจในความยากลำบากด้วย, เพราะรู้อยู่แล้วว่าความยากลำบากนั้นกระทำให้บังเกิดมีความอดทน, 4 และความอดทนนั้นกระทำให้บังเกิดมีอุปนิสสัยดี, และอุปนิสสัยดีนั้นกระทำให้บังเกิดมีความหวังใจ, 5 และความหวังใจนั้นมิได้กระทำให้เกิดความเสียใจเพราะไม่สมหวัง, เหตุว่าความรักของพระเจ้าได้ซึมซาบเข้าไปในใจของเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงประทานให้แก่เราทั้งหลายแล้ว พระคริสต์ได้ทรงตายแทนคนบาป 6 เพราะว่าเมื่อเราทั้งหลายยังขาดกำลังอยู่, พระคริสต์ได้ทรงตายแทนคนบาปในเวลาอันเหมาะ. 7 ด้วยว่าไม่ใคร่จะมีใครตายแทนคนตรง, แต่ชะรอยจะมีลางคนอาจตายแทนคนใจดีกระมัง. 8 แต่ฝ่ายพระเจ้าได้ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะเมื่อเราทั้งหลายยังเป็นคนบาป พระคริสต์ได้ทรงยอมตายแทนเรา. 9 เดี๋ยวนี้เมื่อเราเป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของพระองค์, เราก็จะพ้นจากพระพิโรธของพระเจ้าโดยพระองค์แน่ยิ่งกว่านั้นอีก. 10 ด้วยว่าถ้าเมื่อเราทั้งหลายยังเป็นศัตรู เราได้กลับเป็นไมตรีกันกับพระเจ้า โดยความตายแห่งพระบุตรของพระองค์, ครั้นเรากลับเป็นไมตรีแล้ว, เราจะรอดโดยชีวิตของพระองค์แน่ยิ่งกว่านั้นอีกมาก. 11 และมิใช่เท่านั้น, แต่เราทั้งหลายยังมีความยินดีในพระเจ้า โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราด้วย, เพราะโดยพระองค์นั้นเราจึงได้กลับเป็นไมตรีกันกับพระเจ้า ของประทานโดยพระคุณของพระเจ้าคือพระเยซู 12 เหตุฉะนั้นก็เช่นเดียวกับที่ความผิดได้เข้ามาในโลกเพราะคนๆ เดียว, และความตายก็เกิดมาเพราะความผิดนั้น อย่างนั้นแหละ ความตายจึงได้ลามไปถึงคนทั้งปวง, เพราะคนทั้งปวงเป็นคนผิดอยู่แล้ว. 13 ความผิดมีอยู่ในโลกก่อนมีพระบัญญัติก็จริง, แต่ว่าเมื่อไม่มีพระบัญญัติก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด 14 ถึงอย่างไรก็ดี ความตายก็ได้ครอบงำอยู่ตั้งแต่อาดามมาจนถึงโมเซ, คือได้ครอบงำคนทั้งปวงแม้ที่มิได้ทำผิดอย่างอาดาม ผู้เป็นแบบเล็งถึงพระองค์ที่จะเสด็จมา. 15 แต่พระคุณนั้นหาเป็นเช่นความผิดนั้นไม่. ด้วยว่าถ้าคนเป็นอันมากถึงความตายเพราะความผิดของคนๆ เดียวนั้น, ยิ่งมากกว่านั้น พระคุณของพระเจ้าและของประทานโดยพระคุณของพระองค์ผู้เดียว นั้นคือพระเยซูคริสต์ ก็มีบริบูรณ์แก่คนเป็นอันมาก. 16 และของประทานนั้นก็ไม่เหมือนผลซึ่งเกิดมาจากความผิดของคนๆ เดียวนั้น เพราะว่าการพิพากษาปรับโทษได้มีขึ้นเพราะคนๆ เดียว, แต่ของประทานนั้นเป็นเหตุให้คนทั้งหลายที่ผิดมากแล้วตั้งอยู่ในความชอบธรรม. 17 เพราะว่าถ้าโดยความผิดของคนๆ เดียว ความตายจึงได้ครอบงำอยู่โดยคนๆ เดียว, ยิ่งมากกว่านั้น คนทั้งหลายที่รับพระกรุณาอันบริบูรณ์และรับของประทานคือความชอบธรรม ก็จะครอบครองสรรพสิ่งทั้งปวงในชีวิตของตนโดยพระองค์ผู้เดียว คือพระเยซูคริสต์ 18 เหตุฉะนั้นการปรับโทษได้มาถึงคนทั้งปวงเพราะความผิดครั้งเดียวฉันใด, พระกรุณาก็มาถึงคนทั้งปวงทำให้เป็นผู้ชอบธรรมและให้มีชีวิตจำเริญเพราะการชอบธรรมครั้งเดียวฉันนั้น. 19 ด้วยว่าเหมือนหนึ่งคนเป็นอันมากได้เป็นคนผิด เพราะคนๆ เดียวที่มิได้เชื่อฟัง, เช่นนั้นแหละคนเป็นอันมากได้เป็นคนชอบธรรมเพราะพระองค์ผู้เดียวที่ได้ทรงเชื่อฟังนั้น. 20 และพระบัญญัตินั้นได้มีขึ้นด้วย. เพื่อความผิดจะได้ปรากฏมากขึ้น, แต่ว่ามีความผิดปรากฏมากที่ไหน, พระกรุณาก็ได้ปรากฏมากยิ่งขึ้นที่นั่น. 21 เพื่อว่าความผิดได้ครอบงำถึงความตายฉันใด, พระกรุณาก็จักได้ครอบงำโดยความชอบธรรมให้เกิดมีชีวิตนิรันดร์ โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลายฉันนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society