หนังสือโรม 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ถ้าอย่างนั้นพวกยูดายได้เปรียบกว่าคนทั้งปวงประการใด? และพิธีสุนัดนั้นเป็นประโยชน์อะไรเล่า? 2 มีอยู่มากทุกอย่าง เป็นต้นว่า เขาได้เป็นผู้รับมอบพระคัมภีร์โอวาทของพระเจ้าให้รักษา. 3 ถึงแม้ว่ามีบางคนที่ไม่เชื่อ, ซึ่งเขาไม่เชื่อนั้นจะทำให้ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าไร้ประโยชน์หรือ 4 จะเป็นอย่างนั้นก็หามิได้ แม้ทุกคนจะเป็นคนพูดมุสา, ก็ขอให้ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าปรากฏเด่นขึ้นเถิด เหมือนมีคำเขียนไว้แล้วว่า, ท่านจะได้ปรากฏว่าเป็นผู้สัตย์ซื่อในถ้อยคำทั้งหลายของท่าน, และท่านจะได้มีชัยชะนะขณะเมื่อเขาจะพิพากษาท่าน. 5 แต่ถ้าอธรรมของเราเป็นเหตุให้ความชอบธรรมของพระเจ้าเป็นที่น่าชมเชย, เราจะว่าอะไร? พระเจ้าผู้ทรงลงอาชญาจะเป็นอธรรมหรือ (ข้าพเจ้าพูดตามธรรมดามนุษย์). 6 ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วพระเจ้าจะทรงพิพากษาโลกอย่างไรได้? 7 แต่ถ้าความสัตย์ซื่อของพระเจ้าปรากฏมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ให้เกิดเกียรติยศแก่พระองค์ เพราะเหตุความอสัตย์ของข้าพเจ้า, เขายังปรับโทษข้าพเจ้าว่าเป็นคนผิดทำไม? 8 และไฉนเราจะไม่ทำชั่ว เพื่อความดีจะเกิดขึ้นจากความชั่วนั้นเล่า? ตามที่บางคนเล่าลือและนินทาหาว่าเราได้กล่าวอย่างนั้น. โทษซึ่งคนเหล่านั้นได้รับก็ยุตติธรรมอยู่แล้ว ไม่มีคนชอบธรรมสักคนหนึ่ง 9 ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะได้เปรียบกว่าพวกเขาหรือก็หามิได้. ด้วยว่าเราได้ชี้แจงให้เห็นแล้วว่าทั้งพวกยูดายกับพวกต่างประเทศด้วยก็อยู่ได้อำนาจความผิดทุกคน 10 เหมือนมีคำเขียนไว้แล้วว่า, ไม่มีคนชอบธรรมสักคนหนึ่ง, ไม่มีเลย 11 ไม่มีคนที่เข้าใจ, ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า 12 คนทั้งหลายได้หลงทางไปแล้ว, ต่างก็ขาดประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดประพฤติดีแม้สักคนเดียว, ไม่มีเลย 13 ลำคอของเขาเหมือนหลุมฝังศพที่เปิด อยู่เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง. พิษงูร้ายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา 14 ปากของเขาเต็มด้วยคำแช่งด่าและคำขมขื่น 15 เท้าของเขารวดเร็วในการกระทำเลือดคนให้ตก 16 ความพินาศและความทุกข์มีอยู่ในทางเดินทั้งหลายของเขา 17 และทางแห่งความสุขเขาไม่รู้จักเลย 18 ในแววตาของเขาไม่มีความเกรงกลัวพระเจ้า. 19 ฝ่ายเราทั้งหลายรู้อยู่ว่า สิ่งสารพัตรซึ่งพระบัญญัติได้กล่าวไว้ ก็ได้กล่าวแก่คนเหล่านั้นที่อยู่ใต้พระบัญญัติ เพื่อปิดปากทุกคน, และเพื่อคนทั้งปวงทั่วพิภพจะได้อยู่ใต้การพิพากษาของพระเจ้า 20 เหตุว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะเป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระพักตรพระเจ้า โดยการประพฤติตามพระบัญญัติก็หามิได้ เพราะว่าเรารู้จักความผิดได้ก็โดยพระบัญญัตินั้น 21 แต่เดี๋ยวนี้ ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ทรงปรากฏนอกจากการประพฤติตามพระบัญญัติ, พระบัญญัติกับเหล่าศาสดาพยากรณ์ก็เป็นพะยานอยู่, 22 คือความชอบธรรมของพระเจ้าซึ่งประทานแก่คนทั้งปวงโดยความเชื่อที่เขาได้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เพราะว่าไม่ทรงเห็นว่าคนทั้งหลายต่างกัน 23 เหตุว่าคนทั้งปวงได้ทำผิดทุกคน, และขาดการถวายเกียรติยศแก่พระเจ้า, 24 แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดค่า เพราะพระเยซูทรงไถ่เขาให้พ้นแล้ว. 25 พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูนั้นไว้ให้ปรากฏเป็นที่ระงับพระพิโรธ เพราะความเชื่อโดยพระโลหิตของพระองค์, เพื่อจะได้สำแดงความชอบธรรมของพระองค์ ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ และได้ทรงยกความผิดที่ล่วงไปแล้วนั้น, 26 และจะได้สำแดงความชอบธรรมของพระองค์ในปัจจุบันนี้, เพื่อจะได้ปรากฎว่าพระองค์เป็นผู้ชอบธรรม, และยังทรงโปรดแก่คนที่เชื่อพระเยซูให้เป็นผู้ชอบธรรมด้วย พระเจ้าทรงโปรดยกโทษเพราะความเชื่อ 27 เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะเอาอะไรมาอวด? ก็หมดหนทาง. อ้างกฎอะไรว่าหมดหนทาง? กฎการประพฤติตามบัญญัติหรือ มิใช่, แต่อ้างกฎความเชื่อต่างหาก. 28 เหตุฉะนั้นเราทั้งหลายเห็นว่า, คนหนึ่งคนใดจะเป็นคนชอบธรรมได้ก็โดยอาศัยความเชื่อนอกจากการประพฤติตามพระบัญญัติ. 29 อ้อ พระเจ้านั้นเป็นพระเจ้าของพวกยูดายพวกเดียวหรือ พระองค์มิได้เป็นพระเจ้าของพวกต่างประเทศด้วยหรือ เออ เป็นพระเจ้าของพวกต่างประเทศด้วย. 30 เหตุว่าพระองค์เป็นพระเจ้าองค์เดียว, ผู้จะทรงโปรดยกโทษของคนที่รับพิธีสุนัดโดยความเชื่อ, และจะทรงโปรดยกโทษของคนที่ไม่ได้รับพิธีสุนัดเพราะความเชื่อดุจกัน. 31 ถ้าเช่นนั้นแล้ว เราจะเอาความเชื่อมาทำลายพระบัญญัติหรือ ก็หามิได้ แต่ว่าเรากลับกระทำพระบัญญัติให้มั่นคงยิ่งขึ้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society