เพลงสดุดี 89 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระกรุณาคุณของพระยะโฮวาเป็นนิตย์: ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวความสัตย์ซื่อของพระองค์แก่ชนทุกๆ ชั่วอายุ. 2 ด้วยข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วว่า, ความเมตตาจะต้องเจริญขึ้นเป็นนิตย์; พระองค์จะทรงตั้งความสัตย์ซื่อของพระองค์ไว้ในสวรรค์ชั้นฟ้าทีเดียว 3 เราได้ตั้งคำสัญญาไว้กับผู้เลือกสรรของเรา, เราได้ปฏิญาณแก่ดาวิดผู้ทาสของเราว่า: 4 เราจะตั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าไว้เป็นนิตย์, และจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าขึ้นไว้ให้ถาวรทุกชั่วอายุ. 5 ข้าแต่พระยะโฮวา, ฟ้าสวรรค์ก็สรรเสริญการอัศจรรย์และความสัตย์ซื่อของพระองค์ในที่ชุมนุมแห่งพวกบริสุทธิ์, 6 เพราะในฟ้าสวรรค์มีผู้ใดเล่าที่จะเปรียบกับพระยะโฮวาได้? และในท่ามกลางเผ่าพันธุ์ของผู้มีฤทธิ์ใหญ่มีผู้ใดเล่าจะเสมอกับพระยะโฮวา? 7 เป็นพระเจ้าที่ต้องเกรงกลัวมากในที่ประชุมหารือแห่งพวกบริสุทธิ์, และเป็นที่ยำเกรงยิ่งกว่าบริวารทั้งปวงที่ล้อมรอบพระองค์. 8 ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพลโยธา, ผู้ใดเล่ามีฤทธิ์เสมอกับพระองค์, ผู้ทรงพระนามว่าพระยะโฮวา? และความสัตย์ซื่อของพระองค์อยู่ล้อมรอบพระองค์. 9 พระองค์ทรงครอบครองความคะนองของทะเล: เมื่อคลื่นทะเลกำเริบขึ้น, พระองค์ทรงปราบปรามให้เงียบไป. 10 พระองค์ได้ทรงขยี้ชาวราฮาบให้ยับเยิน, ดุจคนที่ถูกประหารแล้ว; พระองค์ได้ทรงกระทำให้พวกศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไปด้วยพระกรอันทรงฤทธิ์ของพระองค์. 11 ฟ้าสวรรค์ก็เป็นของพระองค์, ทั้งแผ่นดินโลกด้วย; พระองค์ได้ทรงสร้างพิภพ, กับสรรพสิ่งที่มีอยู่ทั่วพิภพ. 12 พระองค์ได้ทรงเนรมิตทิศเหนือทิศใต้: ภูเขาธาโบรกับภูเขาเฮระโมนก็ชื่นชมยินดีในพระนามของพระองค์. 13 พระองค์มีพระกรทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง; พระหัตถ์ของพระองค์ทรงฤทธิ์ใหญ่, พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ทรงเหยียดให้สูง. 14 ความซื่อตรงและความยุตติธรรมเป็นรากพระที่นั่งของพระองค์: พระกรุณาคุณและความสัตย์จริงตั้งอยู่ฉะเพาะพระองค์. 15 ความสุขย่อมมีแก่พลไพร่ที่รู้จักเสียงชื่นใจนั้น: ข้าแต่พระยะโฮวา, เขาดำเนินไปในแสงสว่างแห่งพระพักตรของพระองค์. 16 เขาทั้งหลายชื่นใจยินดีในพระนามของพระองค์ตลอดวัน; และเขาถูกสถาปนาขึ้นในความชอบธรรมของพระองค์. 17 เพราะพระองค์เป็นสง่าราศีแห่งกำลังของเขา; และสิงค์ของพวกข้าพเจ้าจะถูกสถาปนาขึ้นในพระเดชพระคุณของพระองค์. 18 ด้วยโล่ห์ของเขาเป็นของพระยะโฮวา; และผู้บริสุทธิ์แห่งชนชาติยิศราเอลเป็นพระบรมมหากษัตริย์ของข้าพเจ้า 19 เมื่อนั้นพระองค์จะทรงตรัสแก่ผู้ชอบธรรมของพระองค์ทางนิมิตต์ว่า, เราได้ตั้งผู้ซึ่งมีฤทธิ์ไว้แล้วให้เป็นผู้อุปถัมภ์; เราได้เลือกเอาคนหนึ่งมาจากพลไพร่และได้สถาปนาขึ้นไว้แล้ว. 20 เราได้พบดาวิดผู้ทาสของเรา; เราได้เจิมท่านไว้แล้วด้วยน้ำมันอันบริสุทธิ์ของเรา: 21 มือของเราจะประคับประคองท่านเป็นเนืองนิตย์; และแขนของเราจะชูกำลังของท่านไว้ด้วย. 22 พวกศัตรูจะไม่ทำร้ายท่าน, หรือคนอสัตย์อธรรมจะไม่เบียดเบียฬ. 23 เราจะตีพวกศัตรูให้ล้มลงตรงหน้าท่าน และจะประหารคนทั้งปวงที่เกลียดชังท่าน. 24 แต่ความสัตย์ซื่อและพระกรุณาคุณของเราจะดำรงอยู่กับท่าน; และสิงค์ของท่านจะถูกสถาปนาขึ้นในนามของเรา. 25 เราจะตั้งมือของท่านไว้เหนือทะเล, และมือขวาของท่านไว้เหนือแม่น้ำต่างๆ. 26 ท่านจะร้องทูลเราว่า, พระองค์เป็นพระบิดาของข้าพเจ้า, เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า, และเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าได้ความรอด. 27 เราจะตั้งท่านให้เป็นบุตรหัวปีของเรา, ให้เป็นพระมหากษัตริย์องค์สูงสุดของแผ่นดินโลก. 28 เราจะประทานพระกรุณาคุณของเราให้ดำรงอยู่กับท่านเป็นนิตย์; และคำสัญญาของเราจะมั่นคงอยู่กับท่าน. 29 เราจะให้พงศ์พันธุ์ของท่านคงอยู่ชั่วนิรันดร์, และพระที่นั่งของท่าน เราจะให้ดำรงอยู่นานเช่นฟ้าสวรรค์. 30 ถ้าแม้นลูกหลานของท่านจะละทิ้งกฎหมายของเรา, และไม่ประพฤติตามข้อบัญญัติของเรา; 31 ถ้าเขาทั้งปวงจะหักข้อปฏิบัติของเรา, และจะไม่รักษาข้อบัญญัติของเราไว้; 32 ขณะนั้นเราจะชำระการล่วงละเมิดของเขาด้วยไม้เรียว, และจะชำระการชั่วของเขาด้วยเฆี่ยนให้เป็นริ้วรอย. 33 แต่ว่าความกรุณาคุณของเราจะไม่งดจากท่านเสียทีเดียว และความสัตย์ซื่อของเรา ๆ จะไม่ให้ขาดไป. 34 เราจะไม่หักคำสัญญาของเรา, หรือวจนะที่ออกจากริมฝีปากของเราแล้วเราจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย. 35 เราปฏิญาณไว้โดยความบริสุทธิ์ของเราครั้งหนึ่งแล้ว: เราจะไม่กล่าวคำมุสาแก่ดาวิด: 36 พงศ์พันธุ์ของท่านจะดำรงอยู่เป็นนิตย์, และพระที่นั่งของท่านจะดำรงอยู่ตรงหน้าเราเหมือนดวงอาทิตย์. 37 จะตั้งอยู่ดุจดวงจันทร์เป็นนิจกาล, เป็นพะยานแน่นอนดังในท้องฟ้า 38 แต่ถึงกระนั้นแล้ว พระองค์ยังทรงสละทิ้งและเบื่อหน่ายเสียได้และทรงพระพิโรธต่อผู้ถูกเจิมของพระองค์. 39 พระองค์ได้ทรงเกลียดคำสัญญาแห่งผู้ทาสของพระองค์: และทรงดูหมิ่นมงกุฎของท่านโดยทิ้งลงที่พื้นดิน. 40 พระองค์ได้ทรงหักทำลายรั้วของท่านลงเสียหมดแล้ว; และทรงกระทำป้อมของท่านให้ย่อยยับไป. 41 คนทั้งปวงที่ผ่านไปตามทางก็ปล้นท่าน: ท่านกลายเป็นที่ดูถูกดูหมิ่นแก่เพื่อนบ้านแล้ว. 42 พระองค์ได้ทรงชูมือขวาแห่งพวกศัตรูของท่านขึ้น; ให้บรรดาพวกปัจจามิตรของท่านมีความชื่นใจ. 43 พระองค์ทรงกระทำให้คมกระบี่ของท่านเสียไปแล้วนะพระเจ้าค่ะ, ไม่ให้ท่านยั่งยืนในการศึก, 44 พระองค์ได้ทรงกระทำให้ความเฉียบแหลมของท่านเสื่อมศูนย์ไป, และทรงโค่นพระที่นั่งของท่านลงเสียที่ดิน. 45 วัยหนุ่มของท่าน พระองค์ได้ทรงบันดาลให้สั้นเข้า: และทรงปกคลุมท่านไว้ด้วยความอดสู. 46 ข้าแต่พระยะโฮวา, จะทรงซ่อนพระองค์ไว้นานเป็นนิตย์หรือ? ความพิโรธของพระองค์จะลุกเหมือนไฟไปนานสักเท่าใด? 47 ขอทรงระลึกว่าอายุของข้าพเจ้าก็สั้นจริง: พระองค์ได้ทรงสร้างบรรดามนุษย์ชาติให้เป็นอนิจจังอะไรอย่างนี้! 48 ใครผู้ใดจะอยู่ค้ำฟ้าไม่เห็นความตาย, เพื่อจะช่วยชีวิตของตนให้พ้นจากอำนาจของเมืองผี? 49 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระกรุณาคุณของพระองค์ครั้งก่อนๆ, ที่พระองค์ทรงปฏิญาณไว้แก่ดาวิดโดยความสัตย์ซื่อนั้น, บัดนี้ความกรุณาคุณนั้นอยู่ที่ไหน? 50 องค์พระผู้เป็นเจ้า, ขอทรงระลึกถึงความอัปยศแห่งพวกทาสของพระองค์; ซึ่งอกข้าพเจ้าต้องทนความอัปยศจากชนหลายประเทศ, 51 โอ้ พระยะโฮวา, นั่นแหละพวกศัตรูของพระองค์ได้ติเตียน, และได้กล่าวหยาบช้าต่อรอยพระบาทแห่งผู้ถูกเจิมของพระองค์, 52 ความบรมสุขจงมีแก่พระยะโฮวาตลอดอนาคตกาล อาเมนและอาเมน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society