เพลงสดุดี 35 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอพระองค์ทรงผจญคนที่ต่อสู้ข้าพเจ้า: และขอทรงหักหาญคนทั้งปวงที่สู้รบข้าพเจ้า. 2 ขอพระองค์ทรงถือโล่ห์และดั้ง, แล้วยืนขึ้นช่วยข้าพเจ้า. 3 ขอทรงชักทวนกั้นทางคนทั้งปวงที่ไล่ตามข้าพเจ้า: และขอให้ตรัสแก่จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าว่า, เราเป็นความรอดของเจ้า. 4 ขอให้คนทั้งปวงที่ปองร้ายต่อชีวิตของข้าพเจ้าได้อับอายและอัปยศไป: ขอให้คนทั้งหลายที่คิดประทุษร้ายแก่ข้าพเจ้าพ่ายแพ้ถึงแก่อับอาย. 5 โปรดให้เขาเป็นเหมือนแกลบถูกลมปลิวไป, และให้ทูตของพระยะโฮวาผลักไล่เขาไป. 6 ขอให้ทางของเขามืดและลื่น, และให้ทูตของพระยะโฮวาไล่ติดตามเขาไป. 7 เพราะเขาได้ซ่อนบ่วงแร้วไว้ดักข้าพเจ้าโดยใช่เหตุ; เขาขุดบ่อดักชีวิตของข้าพเจ้าโดยหาเหตุไม่ได้. 8 ขอให้ความพินาศมาถึงเขาโดยไม่ทันรู้ตัว; และขอให้บ่วงแร้วที่เขาดักซ่อนไว้นั้นติดตัวเขาเอง: ขอให้เขาติดในบ่วงแร้วนั้นถึงแก่ความพินาศ. 9 ฝ่ายจิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าจะโสมนัสส์ชื่นชมในพระยะโฮวา. จะมีความยินดีในความรอดของพระองค์. 10 กะดูกทั้งหลายของข้าพเจ้าจะกล่าวว่า, ข้าแต่พระยะโฮวา, ผู้ทรงช่วยคนที่อ่อนกำลังให้พ้นจากคนที่มีกำลังมากกว่าตน, และทรงช่วยคนยากไร้อนาถาให้พ้นจากผู้ร้าย. มีผู้ใดจะเสมอเหมือนพระองค์? 11 มีพะยานเท็จยืนขึ้น; เขาซักถามข้าพเจ้าด้วยข้อความที่ข้าพเจ้าไม่รู้เลย. 12 เขาเอาความร้ายสนองคุณของข้าพเจ้า, เพื่อให้จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้านิราศไปจากความสุข. 13 แต่ฝ่ายข้าพเจ้า, เมื่อเขาป่วยนั้น, ข้าพเจ้าได้นุ่งผ้าเนื้อหยาบ: ได้แสดงความทุกข์ด้วยอดอาหาร; และคำอธิษฐานของข้าพเจ้าก็กลับคืนเข้าในอกของตนเอง. 14 ข้าพเจ้าได้แสดงกิริยาต่อเขาเหมือนเขาเป็นมิตรสหายหรือพี่น้องของข้าพเจ้า: ข้าพเจ้าได้น้อมกายลงมีใจเศร้าหมองเหมือนคนที่ไว้ทุกข์ให้มารดาของตน. 15 แต่เมื่อข้าพเจ้าโศกเศร้าเขาก็พากันชื่นใจ, คนพาลได้ประชุมกันต่อสู้ข้าพเจ้าและข้าพเจ้าไม่ทันรู้ตัว; พวกเขาได้ฉีกข้าพเจ้าไม่หยุด: 16 ดุจพวกหมิ่นประมาททำหยาบช้าเยาะเย้ยเล่นในการเลี้ยง, เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ข้าพเจ้า. 17 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, พระองค์จะทรงดูไปนานสักเท่าใด? ขอพระองค์ทรงช่วยชีวิตของข้าพเจ้าให้พ้นจากการร้ายกาจของเขา, ขอทรงช่วยชีวิตดวงเดียวของข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากสิงห์โตเถิด. 18 ข้าพเจ้าจะขอบพระเดชพระคุณพระองค์ในมหาสันนิบาต: จะถวายความสรรเสริญแก่พระองค์ท่ามกลางมหาชน. 19 ขอพระองค์อย่าให้ศัตรูของข้าพเจ้ายินดีเย้ยต่อข้าพเจ้า; อย่าให้คนทั้งหลายที่ชังข้าพเจ้าโดยไม่มีเหตุขยิบตาได้เลย. 20 เพราะเขาไม่พูดถึงความไมตรี; เขาคิดอ่านกันพูดแต่คำอุบายต่อคนที่อยู่อย่างสงบในแผ่นดิน. 21 เขาได้อ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า; และได้กล่าวว่า, ชิๆ, ตาของพวกเราได้เห็นแล้ว. 22 ข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์ทรงเห็นแล้ว; ขออย่าทรงนิ่งอยู่เลย: ข้าแต่องค์พระผู้ทรงเห็น, ขออย่าทรงประทับอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเลย. 23 ข้าแต่พระเจ้า, องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าขอพระองค์ทรงร้อนพระทัยตัดสินความของข้าพเจ้า. 24 ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าของข้าพเจ้า, ขอทรงพิพากษาข้าพเจ้าโดยความยุตติธรรมของพระองค์; อย่าให้เขาทั้งปวงยินดีเย้ยต่อข้าพเจ้าเลย. 25 อย่าให้เขานึกในใจว่า, ชิๆ, สมความปรารถนาของเราแล้ว: อย่าให้เขาว่า, เรากลืนเขาเสียแล้ว. 26 ขอให้คนเหล่านั้นที่มีใจยินดีเพราะความอันตรายของข้าพเจ้าพากันอับอายขายหน้า: ขอให้พวกที่คุยโตต่อข้าพเจ้าได้หุ้มห่อด้วยความละอายและอัปยศ. 27 ขอให้คนทั้งหลายที่เห็นชอบในความสัตย์ธรรมของข้าพเจ้าได้โห่ร้องแสดงความยินดี: ขอให้เขากล่าวร่ำไปว่า, พระยะโฮวาเป็นที่สรรเสริญ, พระผู้ทรงพอพระทัยด้วยความสุขแห่งผู้ทาสของพระองค์. 28 แล้วลิ้นของข้าพเจ้าจะกล่าวถึงความยุตติธรรมของพระองค์และจะถวายคำสรรเสริญแก่พระองค์ตลอดวัน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society