เพลงสดุดี 31 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ข้าแต่พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าขอพึ่งอาศัยในพระองค์แล้ว; ขออย่าให้ข้าพเจ้าขายหน้าเลย; ขอพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดตามความยุตติธรรมของพระองค์. 2 ขอพระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพเจ้า; ขอทรงโปรดรีบมาช่วยข้าพเจ้าให้พ้น: ขอพระองค์เป็นศิลามั่นคงสำหรับข้าพเจ้า, คือเป็นป้อมที่อาศัยรักษาให้ข้าพเจ้าพ้นภัย. 3 เพราะพระองค์เป็นศิลาและเป็นป้อมของข้าพเจ้า; เหตุฉะนั้นเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์, ขอพระองค์ทรงนำและชี้ช่องทางให้ข้าพเจ้า. 4 ขอทรงฉุดข้าพเจ้าออกมาจากบ่วงแร้วที่เขาซ่อนไว้เพื่อดักข้าพเจ้า; เพราะพระองค์เป็นป้อมของข้าพเจ้า. 5 ข้าพเจ้าขอมอบจิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์: ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าแห่งความสัตย์จริง, พระองค์ทรงไถ่ข้าพเจ้าไว้แล้ว. 6 ข้าพเจ้าเกลียดชังคนทั้งหลายที่ถือพระเทียมเท็จ; ส่วนข้าพเจ้าวางใจในพระยะโฮวา. 7 ข้าพเจ้าจะชื่นใจยินดีในพระกรุณาของพระองค์; ด้วยพระองค์ได้ทรงเห็นความทุกข์ของข้าพเจ้า; และทรงทราบความยากในใจของข้าพเจ้าแล้ว; 8 พระองค์ไม่ได้ทรงกักขังข้าพเจ้าไว้ในมือศัตรู; แต่ได้ทรงโปรดให้เท้าของข้าพเจ้ายืนอยู่ในที่กว้างขวาง. 9 ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอพระองค์ทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้า, เพราะข้าพเจ้ามีความทุกข์ร้อน: ตาของข้าพเจ้าทั้งจิตต์ใจและร่างกายทุรดโทรมเสียไป เพราะความทุกข์. 10 เพราะชีวิตของข้าพเจ้าก็ทรุดโทรมไปเพราะความทุกข์, และปีเดือนของข้าพเจ้าก็ล่วงไปด้วยการถอนใจใหญ่: กำลังก็อ่อนไปเพราะบาปของข้าพเจ้า, และกะดูกของข้าพเจ้าก็เสียไปแล้ว. 11 ข้าพเจ้าเป็นที่เยาะเย้ยแก่บรรดาศัตรูแห่งข้าพเจ้า, ทั้งเป็นที่ประมาทหมิ่นอย่างยิ่งแก่เพื่อนบ้าน, และเป็นที่น่ากลัวแก่คนที่คุ้นเคยกับข้าพเจ้า. เมื่อผู้ใดเห็นข้าพเจ้าก็หนีไป. 12 เขาลืมข้าพเจ้าเสียเหมือนคนสิ้นชีวิตแล้ว: ข้าพเจ้าเป็นเหมือนเครื่องภาชนะที่แตกเสียแล้ว. 13 เพราะข้าพเจ้าได้ยินคนติฉินนินทาข้าพเจ้ามากมาย! ความหวาดหวั่นมีอยู่ล้อมรอบข้าพเจ้าทุกด้าน: ขณะเมื่อเขาปรึกษากันต่อสู้ข้าพเจ้า, เขาได้คิดอ่านจะผลาญชีวิตของข้าพเจ้าเสีย. 14 ข้าแต่พระยะโฮวา, ฝ่ายตัวข้าพเจ้าได้วางใจในพระองค์: จนได้กล่าวไว้ว่า, พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า. 15 วันเวลาของข้าพเจ้าอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์: ขอทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นมือศัตรู, และให้พ้นคนทั้งหลายที่ข่มเหงข้าพเจ้า. 16 ขอพระองค์ทรงโปรดให้พระพักตรของพระองค์ส่องรัศมีมาสู่ผู้ทาสของพระองค์: ขอทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดโดยพระกรุณาของพระองค์เถิด. 17 ข้าแต่พระยะโฮวา, ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้อับอาย; ด้วยข้าพเจ้าได้ร้องทูลต่อพระองค์แล้ว: ขอให้คนชั่วร้ายได้อับอาย, ให้เขาเงียบเสียงอยู่ในเมืองผี. 18 ให้ริมฝีปากที่พูดมุสาเป็นใบ้เสีย, คือริมฝีปากที่พูดหยาบคายอหังการต่อคนชอบธรรมและด้วยใจจองหองและดูหมิ่น. 19 พระกรุณาคุณของพระองค์มากยิ่งเท่าใด, ที่ได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับเหล่าคนที่เกรงกลัวพระองค์, ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำเพื่อคนทั้งหลายที่พึ่งอาศัยในพระองค์, ต่อหน้าพงศ์พันธุ์มนุษย์! 20 พระองค์จะทรงซ่อนเขาไว้ในที่ลับลี้ตรงพระพักตรพระองค์ไว้จากอุบายของมนุษย์: พระองค์จะทรงเก็บตัวเขาไว้ในที่เร้นลับในพลับพลาของพระองค์ให้พ้นจากลิ้นที่วิวาทกัน. 21 ความสุขสวัสดิ์มงคลจงมีแก่พระยะโฮวา; เพราะพระองค์ได้ทรงสำแดงพระกรุณาอย่างมหัศจรรย์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้าที่ในเมืองมั่นคง. 22 ส่วนข้าพเจ้า, ขณะเมื่อกำกำลังมีใจวิตกอยู่ได้กล่าวว่า, ข้าพเจ้าต้องถูกตัดขาดจากพระเนตรของพระองค์แล้ว; ถึงกระนั้นพระองค์ยังได้ทรงสดับฟังเสียงวิงวอนของข้าพเจ้า, เมื่อข้าพเจ้าได้ร้องทูลพระองค์. 23 ดูกรท่านผู้ชอบธรรมทั้งหลาย, จงรักพระยะโฮวาเถิด, พระยะโฮวาทรงรักษาคนที่สัตย์ซื่อ, แต่คนอหังการพระองค์ทรงทดแทนให้เต็มขนาด. 24 ท่านทั้งหลายที่คอยท่าพระยะโฮวา, จงตั้งข้อให้แข็ง, และทำใจไว้ให้กล้าหาญเถิด |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society