เพลงสดุดี 18 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ข้าแต่พระยะโฮวา, ผู้เป็นกำลังของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้ารักพระองค์. 2 พระยะโฮวาเป็นศิลา, เป็นป้อม, และผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอด; เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า, เป็นศิลาของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะพึ่งในพระองค์; เป็นโล่ห์, และเสียงแห่งความรอด, และเป็นหอคอยอันสูงของข้าพเจ้า. 3 ข้าพเจ้าจะร้องทูลพระยะโฮวา, ผู้สมควรจะได้ความสรรเสริญ: ข้าพเจ้าจึงจะรอดพ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า 4 เชือกแห่งความตายมัดรอบข้าพเจ้าไว้, กระแสแห่งความชั่วได้กระทำให้ข้าพเจ้าสะดุ้งตกใจกลัว. 5 เชือกแห่งเมืองผีรัดรอบข้าพเจ้า; บ่วงแร้วแห่งความมรณามาคล้องข้าพเจ้าไว้. 6 ขณะมีความทุกข์ร้อน, ข้าพเจ้าได้ร้องทูลพระยะโฮวา, และได้อธิษฐานทูลพระเจ้าของข้าพเจ้า: พระองค์ทรงสดับฟังเสียงร้องของข้าพเจ้าแต่พระวิหารของพระองค์, และคำอธิษฐานของข้าพเจ้าต่อพระพักตรก็ได้เข้าพระโสต ของพระองค์. 7 ครั้งนั้นแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนหวั่นไหว; รากภูเขาก็สั่นสะท้านและหวั่นไหวเพราะพระองค์ทรงพระพิโรธ. 8 มีควันพลุ่งออกจากพระนาสิกของพระองค์, มีเปลวไฟพลุ่งออกจากพระโอษฐ์มาเผาผลาญเสีย; ถ่านหินก็ติดเปลวไฟนั้น. 9 พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลง, แล้วจึงเสด็จมา; ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์. 10 พระองค์ทรงคะรูบ, เหาะไป; พระองค์ทรงร่องลอยไปบนปีกลม. 11 พระองค์ทรงบันดาลให้ความมืดเป็นพลับพลาปกคลุมพระองค์ไว้, ดุจเมฆฝนอันทึบในท้องฟ้า. 12 เมฆของพระองค์ก็เลื่อนไปตรงรัศมีพระพักตรของพระองค์, ทั้งลูกเห็บและลูกไฟ. 13 พระยะโฮวาทรงบันดาลให้ฟ้าร้อง, พระองค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดก็ทรงเปล่งพระสุรเสียง, มีลูกเห็บลูกไฟ. 14 พระองค์ทรงปล่อยลูกธนูไป, ทำให้เขากระจัดกระจาย; ทรงปล่อยไฟฟ้า, ให้เขาพ่ายแพ้, 15 ขณะนั้นร่องน้ำก็ปรากฏแจ้ง, รากเง่าแห่งแผ่นดินโลกก็เปิดออกเห็นชัด, พระองค์เจ้าข้า, เพราะพระองค์ทรงตรัสห้ามปรามไว้โดยลมพ่นออกจากพระนาสิกของพระองค์. 16 พระองค์ทรงใช้แต่เบื้องบนมารับข้าพเจ้าไป; พระองค์ทรงพะยุงข้าพเจ้าขึ้นจากน้ำใหญ่. 17 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูอันมีกำลัง, และจากผู้ที่ชังข้าพเจ้า; ด้วยเขามีกำลังมากกว่าข้าพเจ้า. 18 เขามาต่อสู้ข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าถูกภัย; แต่พระยะโฮวาทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า. 19 พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้าออกมาถึงที่กว้างขวางด้วย; และทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด, เพราะทรงพอพระทัยในข้าพเจ้า, 20 พระยะโฮวาทรงรางวัลข้าพเจ้าตามความสัตย์ธรรมของข้าพเจ้า; และทรงตอบแทนตามมือหมดจดของข้าพเจ้า. 21 เพราะข้าพเจ้าได้รักษามรคาของพระยะโฮวา, และมิได้ทิ้งพระองค์ไปทำชั่ว. 22 ด้วยบรรดาคำพิพากษาของพระองค์อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า, และข้อกฎหมายของพระองค์นั้นข้าพเจ้าไม่ได้เปลื้องจากตัวเลย. 23 ข้าพเจ้าได้ประพฤติดีรอบคอบฉะเพาะพระองค์, และได้รักษาตัวไว้ให้ปราศจากความชั่ว. 24 เพราะเหตุฉะนั้นพระยะโฮวาจึงทรงประทานบำเหน็จตามความสัตย์ธรรมของข้าพเจ้า, และตามมือหมดจดของข้าพเจ้าต่อพระเนตรพระองค์. 25 พระองค์จะทรงแสดงพระกรุณาของพระองค์ต่อคนที่มีใจกรุณา; พระองค์จะทรงแสดงความดีรอบคอบต่อคนที่เป็นดีรอบคอบ; 26 พระองค์จะทรงแสดงพระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ต่อคนบริสุทธิ์; และคนที่ดื้อดึงพระองค์จะทรงแสดงความดื้อดึงเช่นเดียวกัน. 27 เพราะพระองค์จะทรงช่วยผู้ที่ต้องทนทุกข์ยากให้รอด; แต่ดวงตาอันเย่อหยิ่งนั้นพระองค์จะทรงบันดาลให้ตกต่ำลงไป. 28 ด้วยพระองค์จะทรงจุดประทีปของข้าพเจ้า: พระยะโฮวาพระเจ้าของข้าพเจ้าจะกระทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่างไป. 29 โดยฤทธิ์ของพระองค์ข้าพเจ้าอาจฝ่าเข้าไปในกองทัพ; เพราะพระเจ้าของข้าพเจ้าๆ กะโดดข้ามกำแพงได้. 30 ฝ่ายพระเจ้า, มรคาของพระองค์ก็ดีรอบคอบ: คำโอวาทของพระยะโฮวาก็ชันสูตรดูแล้ว; พระองค์เป็นโล่ห์ของคนทั้งปวงที่พึ่งอาศัยในพระองค์. 31 ด้วยผู้ใดเล่าเป็นพระเจ้า? นอกจากพระยะโฮวา, และใครเป็นภูเขาศิลาเล่านอกจากพระเจ้าของพวกเรา. 32 พระเจ้าทรงบันดาลให้มีกำลังรัดรอบตัวข้าพเจ้าไว้, และทรงกระทำให้มรคาของข้าพเจ้าดีรอบคอบ. 33 พระองค์ทรงยังเท้าของข้าพเจ้าให้เร็วคล้ายเท้าแม่เนื้อ: และทรงตั้งข้าพเจ้าไว้บนที่สูงของข้าพเจ้า. 34 พระองค์ทรงฝึกหัดมือของข้าพเจ้าให้ชำนาญในการสงคราม; จนแขนของข้าพเจ้าโก่งคันธนูทองเหลืองได้. 35 พระองค์ได้ทรงประทานความรอดของพระองค์ให้เป็นโล่ห์แก่ข้าพเจ้าด้วย; พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ทรงประคองข้าพเจ้าไว้, และซึ่งพระองค์ทรงน้อมพระทัยลงนั้นกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นใหญ่ขึ้นแล้ว. 36 พระองค์ทรงบันดาลให้ก้าวเท้าของข้าพเจ้ากว้างออกไป, และเท้าของข้าพเจ้าไม่ลื่นพลาดเลย. 37 ข้าพเจ้าจะไล่ตามพวกศัตรูให้ทัน, ข้าพเจ้าจะไม่หันกลับมาจนกว่าเขาจะพินาศ. 38 ข้าพเจ้าจะตีผลาญเขาจนเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้; เขาจะล้มลงใต้เท้าของข้าพเจ้า. 39 เพราะพระองค์ได้ทรงรัดรอบข้าพเจ้าไว้ให้มีกำลังทำการศึก: และทรงกระทำให้ศัตรูที่ต่อสู้ข้าพเจ้านั้นหมอบราบอยู่ใต้ข้าพเจ้า. 40 พระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าศึกกลับหลังให้ข้าพเจ้า, เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประหารพวกที่ชังข้าพเจ้านั้นเสีย. 41 เขาร้องอธิษฐาน, แต่หามีผู้ใดช่วยเขาให้รอดไม่; แม้แต่พระยะโฮวาเขาก็ได้ร้องทูล, แต่พระองค์ไม่ทรงตอบเขา. 42 ข้าพเจ้าจึงได้ทุบตีเขา ให้แหลกเหลวเหมือนผงคลีดินที่ลมพัดไป; ข้าพเจ้าเททิ้งเขาเสียดุจโคลนที่ถนน. 43 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าแล้วให้พ้นจากการยื้อแย่งแห่งชนชาติต่างๆ: และทรงตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นหัวหน้าของชนต่างประเทศ: ชนชาติที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้จักก็มาปฏิบัติข้าพเจ้า. 44 พอหูเขาได้ยินเขาเชื่อฟังข้าพเจ้าในทันใดนั้น; ชนต่างชาติก็ยอมตัวลงนอบน้อมต่อข้าพเจ้า. 45 ชนต่างชาติก็ย่อยยับไป, และตัวเนื้อสั่นเทิ้มออกมาจากค่ายของเขา. 46 พระยะโฮวาทรงพระชนม์อยู่; ศิลาของข้าพเจ้าก็เป็นที่รับพร; จงให้พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้าสูงยิ่งขึ้นไป. 47 คือพระเจ้าทรงแก้แค้นให้ข้าพเจ้า, และทรงปราบชนชาติต่างๆ ให้หมอบราบอยู่ใต้ข้าพเจ้า. 48 พระองค์ทรงช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า; แท้จริง, พระองค์ทรงยกข้าพเจ้าขึ้นเหนือศัตรูที่ต่อสู้ข้าพเจ้า; พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนร้าย. 49 เหตุฉะนั้น, ข้าแต่พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าจะขอบพระเดชพระคุณของพระองค์ในท่ามกลางนานาประเทศ, และจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์. 50 พระองค์ทรงประทานความรอดอันใหญ่ยิ่งแก่กษัตริย์ของพระองค์, และทรงแสดงพระกรุณาแก่ผู้ถูกเจิมของพระองค์, คือดาวิดและพงศ์พันธุ์ของท่านสืบๆ ไปเป็นนิตย์ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society