เพลงสดุดี 104 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวา. ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของข้าพเจ้า, พระองค์เป็นใหญ่ยิ่งนัก; ทรงฉลองพระองค์ด้วยยศศักดิ์และเดชานุภาพ: 2 พระองค์ทรงคลุมพระองค์ด้วยแสงสว่างดุจห่มพระภูษา; และทรงคลี่ท้องฟ้าออกดุจคลี่ผ้าม่าน; 3 พระองค์ทรงวางขื่อพลับพลาของพระองค์ไว้ในน้ำ; ทรงกระทำเมฆให้เป็นราชรถของพระองค์; และเสด็จดำเนินไปบนปีกลม; 4 ทรงกระทำให้ลมเป็นผู้ส่งข่าวของพระองค์; และให้เปลวไฟเป็นทูตของพระองค์; 5 พระองค์ทรงประดิษฐานรากแผ่นดินโลกไว้, เพื่อจะให้มั่นคงเป็นนิตย์. 6 พระองค์ได้ทรงคลุมโลกไว้ด้วยน้ำลึกดุจคลุมด้วยเสื้อ; น้ำจึงได้นูนอยู่สูงเหนือภูเขา. 7 ครั้นเมื่อพระองค์ทรงห้ามปรามน้ำนั้นก็หนีไป; รีบเร่งหนีไปเพราะเสียงฟ้าร้องของพระองค์. 8 ภูเขาก็สูงขึ้น, หว่างเขาก็ซุดลงไปยังตำแหน่งซึ่งพระองค์ทรงจัดไว้ให้มัน. 9 พระองค์ได้ทรงตั้งเขื่อนไว้เพื่อไม่ให้น้ำข้ามพ้นไป; เพื่อไม่ให้กลับมาท่วมแผ่นดินโลกอีก. 10 พระองค์ส่งน้ำพุให้ไหลลงไปในหุบเขา; มันไหลลงไปท่ามกลางภูเขา. 11 ให้สัตว์ทั้งปวงที่ทุ่งนากินน้ำนั้น; ลาเถื่อนได้ดับความกระหายของมัน. 12 ฝูงนกในอากาศได้อาศัยอยู่ที่ริมน้ำนั้น; แล้วร้องเพลงอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้. 13 พระองค์ประทานน้ำแต่ที่สถิตของพระองค์มารดภูเขา: แผ่นดินโลกเต็มบริบูรณ์ด้วยผลแห่งราชกิจของพระองค์. 14 ทรงบันดาลให้ต้นหญ้างอกขึ้นสำหรับสัตว์เดียรัจฉาน, กับต้นผักเพื่อประโยชน์ของมนุษย์; เพื่อพระองค์จะให้อาหารเกิดขึ้นจากพื้นแผ่นดิน, 15 และน้ำองุ่นซึ่งทำให้ใจมนุษย์ชื่นบาน, และน้ำมันทำให้หน้าเขาผ่องใส, กันขนมชูกำลังใจมนุษย์. 16 ต้นไม้ของพระยะโฮวาอิ่มชุ่มชื่น, คือต้นสนที่ภูเขาละบาโนนซึ่งพระองค์ทรงปลูกไว้; 17 นกได้ทำรังอยู่ที่ต้นไม้นั้น: ฝ่ายนกตะกรุม, ได้ต้นสนใหญ่เป็นที่อาศัย. 18 ภูเขาสูงเป็นที่อาศัยของแพะเถื่อน; ช่องศิลาเป็นที่พึ่งพำนักของตัวตุ่น. 19 พระองค์ทรงตั้งดวงจันทร์ไว้เป็นที่กำหนดฤดู: ฝ่ายดวงอาทิตย์ก็รู้เวลาตก. 20 พระองค์ได้สร้างความมืด, นั้นแหละคือกลางคืน, ในเวลานั้นสัตว์ป่าทั้งปวงย่อมคลานออกมา. 21 สิงห์โตหนุ่มๆ ร้องคำรามหาจับสัตว์กิน, และเสาะหาอาหารของมันที่พระเจ้าทรงประทานให้. 22 เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว, มันก็หนีไป, แล้วนอนหมอบอยู่ในถ้ำ. 23 ฝ่ายมนุษย์ก็ออกไปทำกิจธุระกระทำการงานของตนจนเวลาเย็น. 24 ข้าแต่พระยะโฮวา, พระราชกิจของพระองค์มีเป็นเอนกประการจริง! พระองค์ได้ทรงกระทำการนั้นทั้งสิ้นโดยพระสติปัญญา: แผ่นดินโลกเต็มบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์อันมั่งคั่งของพระองค์. 25 ข้างหน้าโน้นคือมหาสมุทร, กว้างและใหญ่, ในมหาสมุทรนั้นมีสัตว์เลื้อยคลานนับไม่ถ้วน, ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่. 26 ที่นั่นมีกำปั่นแล่นไปมา; มีทั้งจรเข้ใหญ่, ที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้ว่ายคะนองเล่นอยู่. 27 บรรดาสัตว์เหล่านั้นคอยท่าพระองค์, เพื่อพระองค์จะทรงประทานอาหารตามเวลา. 28 สัตว์เหล่านั้นได้รับ, ตามที่พระองค์ทรงประทาน; เมื่อพระองค์ทรงแบพระหัตถ์. มันก็อิ่มด้วยของดี. 29 ขณะพระองค์ทรงเมินพระพักตร, มันก็เดือดร้อน; ขณะพระองค์ทรงดับลมหายใจ, มันก็ตาย, แล้วกลับเป็นผงคลีดินอีก. 30 พระองค์ทรงประทานพระวิญญาณของพระองค์สร้าง, แล้วสัตว์ก็เป็นขึ้น; และพระองค์ทรงกระทำพื้นแผ่นดินโลกขึ้นใหม่. 31 ขอให้พระรัศมีของพระยะโฮวาดำรงอยู่เป็นนิตย์; ขอให้พระยะโฮวาทรงยินดีด้วยราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์: 32 พระองค์ทรงทอดพระเนตรดูโลก, โลกจึงหวั่นไหวไป; พระองค์ทรงแตะต้องภูเขา, ภูเขาจึงมีควันพลุ่งขึ้น. 33 ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่นานเพียงใด จะร้องเพลงถวายพระยะโฮวานานเพียงนั้น: ขณะเมื่อข้าพเจ้ายังเป็นอยู่ ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของข้าพเจ้า. 34 ขอให้การภาวนาของข้าพเจ้าเป็นที่หวานหูพระองค์: ข้าพเจ้าจะยินดีในพระยะโฮวา. 35 ขอให้คนที่กระทำผิดเสื่อมศูนย์ไปจากแผ่นดินโลก. และอย่าให้มีคนชั่วอยู่ต่อไปอีก. จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย, จงสรรเสริญพระยะโฮวา. ท่านทั้งหลายจงสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society