สุภาษิต 27 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อย่าอ้างว่าจะกระทำสิ่งใดในวันพรุ่งนี้, เพราะเจ้าไม่ผู้ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นในวันหนึ่งวันใด. 2 จงให้คนอื่นสรรเสริญเจ้าเถิด, อย่าให้ออกมาจากปากของเจ้าเลย; จงให้คนนอกบ้านสรรเสริญเจ้า, และไม่ใช่ริมฝีปากของเจ้าเอง. 3 ก้อนหินนั้นเป็นของหนัก, และทรายเป็นของหนักด้วย, แต่ความรำคาญก็เกิดมาจากคนโฉดก็หนักกว่าทั้งสองสิ่งนั้น. 4 ความโกรธเป็นของร้ายกาจ, และโทโสเปรียบเหมือนกระแสน้ำไหลเชี่ยว; แต่ใครอาจจะต้านทานความอิจฉาได้? 5 คำต่อว่ากันต่อหน้าก็ดีกว่าความรักที่ไม่แสดงออกมา. 6 บาดแผลที่เพื่อนเขาทำแก่เรานั้นเป็นการสุจริต; แต่จุบของศัตรูนั้นเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น. 7 คนที่อิ่มแปล้แล้ว, ถึงรวงผึ้งก็เบื่อหน่าย; แต่ฝ่ายคนหิวนั้น, ถึงของขมก็เป็นหวานไป. 8 คนที่เที่ยวเตลิดไปจากบ้านของตนก็ดุจนกที่บินเตลิดไปจากรังของตน. 9 น้ำมันและน้ำหอมเป็นของที่ทำให้ชื่นใจฉันใด, คำเตือนสติอันอ่อนหวานของเพื่อนก็เป็นที่ให้ชื่นใจฉันนั้น. 10 เพื่อนที่รักของตนและเพื่อนที่รักของบิดานั้นอย่าเหินห่างเสียเลย; และในคราวทุกข์ยากของเจ้าอย่าเจาะจงไปที่บ้านพี่น้องของตน: เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ก็ยังดีกว่าพี่น้องที่อยู่ห่างไกล. 11 ศิษย์ของเราเอ๋ย, จงมีปัญญาขึ้น, และกระทำให้ใจของเรามีความยินดี; เพื่อเราจะมีคำตอบคนที่ตำหนิเราได้. 12 คนฉลาดมองเห็นภัยแล้วหนีไปซ่อนตัว; แต่คนโง่เดินเซ่อไปและก็จะเป็นอันตราย. 13 จงเอาเสื้อของผู้ค้ำประกันคนอื่นไว้เถิด, และยึดเขาเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค้ำประกันหญิงแพศยา. 14 ผู้ที่มักตื่นแต่เช้ามืดไปกล่าวพรแก่มิตรสหายด้วยเสียงดัง, คนทั้งปวงจะกลับเห็นว่าพรนั้นเป็นคำแช่งไป. 15 ฝนที่ตกพรำๆ ตลอดวัน, และผู้หญิงที่บ่นพร่ำเพรื่อ, ทั้งสองอย่างนี้ก็เช่นกัน: 16 ใครที่จงใจจะห้ามนางนั้นก็เท่ากับจงใจจะห้ามลม, หรือจงใจใช้มืดขวาจับน้ำมันไว้ให้ได้. 17 เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด, คนเราก็ลับเพื่อนของเราให้เฉียบแหลมขึ้นได้ฉันนั้น. 18 คนที่ดูแลรักษาต้นมะเดื่อเทศคงจะได้กินผล, และคนที่ดูแลรับใช้นายของตนคงจะได้รับความชอบ. 19 เมื่อมองดูในน้ำก็เห็นภาพหน้าของตนฉันใด, เมื่อมองดูใจคนก็เห็นภาพแห่งใจคนฉันนั้น. 20 เมืองผีและนายผีนั้นไม่รู้จักอิ่มฉันใด, ตาของมนุษย์ไม่รู้จักอิ่มฉันนั้น. 21 เขาใช้เบ้าสำหรับพิสูจน์เงิน, และใช้เตาสำหรับพิสูจน์ทองคำฉันใด, คำสรรเสริญของคนใดก็เป็นที่พิสูจน์ใจของคนนั้นฉันนั้น, 22 ถ้าจะเอาคนโฉดใส่ลงในครกตำด้วยสากพร้อมกันไปกับข้าว, ความโฉดนั้นก็ยังไม่ศูนย์ไปจากเขาเลย. 23 จงหมั่นพิจารณาดูความเป็นไปแห่งฝูงแกะของตน, และจงรักษาฝูงวัวของตนไว้ให้ดีเถิด; 24 เพราะว่าทรัพย์สินนั้นจะไม่ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์และสมบัตินั้นจะไม่ถาวรชั่วลูกชั่วหลาน. 25 เมื่อได้ขนหญ้าแห้ง, เก็บไว้แล้ว, และหญ้าอ่อนก็ได้งอกขึ้นมาอีก. และเมื่อได้เก็บผักหญ้าบนเนินเขาไว้แล้ว, 26 เวลานั้นลูกแกะทั้งหลายจะยังผลให้เกิดเป็นเสื้อผ้าของเจ้า, และค่าของฝูงแพะนั้นจะพอซื้อไร่นา, 27 และจะมีน้ำนมแพะบริบูรณ์เป็นอาหารสำหรับเจ้า, เป็นอาหารสำหรับครอบครัวของตัว, และสำหรับพวกนางสาวของเจ้าด้วย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society