สุภาษิต 24 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อย่าอิจฉาคนชั่ว; อย่าพึงใจร่วมที่อยู่กับเขาเลย: 2 ด้วยว่าใจของเขาหมกมุ่นอยู่แต่การโจรกรรม, และริมฝีปากของเขาพูดถึงการประทุษร้าย. 3 เมื่อจะก่อตึกต้องอาศัยปัญญา, และเมื่อจะสร้างบ้านก็ต้องอาศัยความเข้าใจ; 4 และอาศัยความรู้ ห้องทั้งหลายนั้นจะเต็มไปด้วยของมีค่าและที่ชื่นตา. 5 คนที่มีปัญญาก็ดีกว่าคนมีกำลังกายแข็งแรง, เออ คนที่มีความรู้คนกำยำล่ำสัน; 6 ด้วยว่าในการสงครามก็ยังต้องใช้ยุทธวิธีอันประกอบด้วยปัญญา, และที่จะได้ชัยชะนะก็อาศัยมีที่ปรึกษามาก. 7 ปัญญานั้นเป็นของสูงเกินจนคนโฉดจะเทียบถึง; เหตุฉะนั้นเขาก็ไม่เปิดปากพูดที่ประตูเมือง. 8 คนที่คิดอ่านทำการประทุษร้ายจะได้ชื่อว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์. 9 ความบาปคือเล่ห์เหลี่ยมแห่งคนโฉดเขลา, และคนประมาทเยาะเย้ยก็เป็นที่น่าสะอิดสะเอียนแก่คนทั้งปวง. 10 ถ้าเจ้าป้อแป้ในวันที่มีความทุกข์ยากก็เห็นได้ว่ากำลังของเจ้านั้นน้อย. 11 เจ้าจงช่วยชีวิตเหล่าคนที่กำลังถูกนำไปประหาร, และจงช่วยคนทั้งหลายที่จวนจะถูกฆ่าให้รอดตาย. 12 ถ้าเจ้าจะแก้ตัวว่า, “นี่แหละเราไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย,” ท่านผู้ทรงชั่งใจมนุษย์จะไม่ทรงพิเคราะห์เรื่องนั้นทีเดียวหรือ? และท่านผู้ทรงคุ้มครองดวงจิตต์ของเจ้าจะไม่ทรงทราบหรือ? และท่านจะไม่ทรงทดแทนให้ทุกคนตามทางการกระทำของเขาหรือ? 13 ศิษย์ของเราเอ๋ย, จงกินน้ำผึ้งเถิด, เพราะเป็นของดี; และจงกินรวงผึ้งซึ่งมีรสหวานนั้น. 14 เช่นนั้นแหละเจ้าก็จะรู้ว่าปัญญาก็เป็นเช่นเดียวกันต่อวิญญาณจิตต์ของเจ้า: ถ้าเจ้าประสพแล้วเวลาภายหลังจะมีแน่, และความหวังใจของเจ้าจะไม่เสียเปล่า. 15 แน่ะ คนชั่วอย่าจ้องคอยทำร้ายแก่บ้านเรือนของคนชอบธรรม; อย่าทำลายที่พักอาศัยของเขาเลย: 16 ด้วยแม้ว่าคนชอบธรรมล้มลงถึงเจ็ดหนเขาคงลุกขึ้นได้อีก; แต่เมื่อคนชั่วล้มลงก็ถึงความหายนะ. 17 อย่าชื่นชมยินดีขณะเมื่อศัตรูของเจ้าล้มลง, และอย่าให้ใจของเจ้ายินดีเมื่อเขาถูกล้างผลาญ: 18 เกรงว่าพระยะโฮวาทรงเห็นแล้วจะไม่พอพระทัย, แล้วหันพระพิโรธจากศัตรูมายังเจ้า. 19 อย่าให้ใจรำคาญเพราะเหตุคนกระทำบาป; และอย่าอิจฉาคนชั่ว: 20 ด้วยว่าผู้กระทำบาปนั้นไม่มีหวังในภายหน้า, และโคมของคนชั่วจะดับเสีย. 21 ศิษย์ของเราเอ๋ย, จงยำเกรงพระยะโฮวาและกษัตริย์ด้วย: อย่าทำให้เป็นที่ขัดเคืองทั้งสองท่าน: 22 ด้วยว่าภัยพิบัติจะบังเกิดมีขึ้นโดยฉับพลัน; และใครจะรู้ได้ว่าพระอาชญาจะมาจากท่านเวลาใด 23 ถ้อยคำของผู้มีสติปัญญาได้กล่าวไว้อีกดังต่อไปนี้: ที่จะเห็นแก่หน้าคนในการพิพากษาไม่ดีเลย. 24 คนที่กล่าวแก่คนผิดว่า, “เจ้าเป็นฝ่ายถูก,” ประชาชนจะด่าแช่งคนนั้น, และประชาชนจะเกลียดชังคนนั้น: 25 แต่เขาที่กล่าวโทษคนชั่วนั้นจะเป็นที่จุใจของตน, และเขาจะได้รับสุพร. 26 ผู้ที่ให้การตามตรงเปรียบเหมือนคนที่จุบกันด้วยริบฝีปาก. 27 จงเตรียมการงานภายนอกของเจ้า, และจงเตรียมทุ่งนาไว้ให้พร้อม, แล้วภายหลังจึงมีเย่ามีเรือน. 28 อย่าอ้างพะยานปรักปรำเพื่อนบ้านโดยไม่มีหลักฐาน, และอย่าให้ริมฝีปากพูดหลอกลวง. 29 อย่าพูดว่า, “เขาทำแก่ข้าฯ อย่างไร, ข้าฯ ก็จะทำแก่เขาอย่างนั้น: ข้าฯ จะทดแทนให้ตามที่เขาได้ทำแก่ข้าฯ”. 30 เราได้เดินผ่านไร่นาของคนเกียจคร้าน, และได้เดินผ่านไร่องุ่นของคนผู้อปัญญา; 31 และนี่แน่ะ, มีต้นหนามขึ้นรกเต็มไป, และพื้นที่นั้นดาดไปด้วยผักขมหนาม, และรั้วกำแพงนั้นก็สลักหักพังลง. 32 เมื่อนั้นข้าฯ ได้มองดูและพิจารณาโดยละเอียด: ข้าฯ ได้เห็นและได้รับคติสอนใจ: 33 คือว่า, “นอนอีกสักหน่อย, หลับอีกสักนิดหนึ่ง, และเอามือกอดอกหลับไปอีกประเดี๋ยวหนึ่ง”: 34 อย่างนั้นแหละการยากจนของเจ้าจะมาเหมือนกับโจร, และการขัดสนของเจ้าจะมาดั่งคนถือเครื่องอาวุธครบมือ. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society