สุภาษิต 1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 สุภาษิตของซะโลโมราชบุตรดาวิด, กษัตริย์ชาติยิศราเอล; 2 เพื่อจะให้คนรู้จักปัญญาและคำสั่งสอน; เพื่อจะให้เห็นแจ้งในคำทั้งหลายที่เข้าใจมาแล้ว; 3 เพื่อจะให้รับโอวาทอันเกี่ยวกับการประพฤติชอบ, ด้วยสุจริตธรรมยุตติธรรมและด้วยสิทธิธรรม. 4 เพื่อจะให้เกิดความเฉลียวฉลาดแก่คนโง่, เพื่อจะให้เกิดความรู้และสติปัญญาแก่ยุวชน; 5 เพื่อว่าคนผู้ฉลาดแล้วจะพึงฟัง, และทวีในการศึกษา; และเพื่อว่าคนผู้เข้าใจแล้วจะพึงรู้จักถือท้ายเรือแห่งชีวิตของตน; 6 เพื่อจะให้เข้าใจสุภาษิต, และคำเปรียบ, คำของเมธี, และปริศนาของเขา 7 ความยำเกรงพระยะโฮวาเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้; แต่คนโฉดชังปัญญาและคำเตือนสอน. 8 ศิษย์ของเราเอ๋ย, จงฟังโอวาทบิดาของเจ้า, และอย่าละทิ้งคำสอนของมารดาเจ้า; 9 เพราะว่าคำสั่งสอนนั้นๆ จะเป็นคุณมงคลสวมศีรษะเจ้า, และจะเป็นสร้อยคล้องคอของเจ้า. 10 ศิษย์ของเราเอ๋ย, ถ้าแม้นคนพาลชักชวนเจ้า, เจ้าอย่าได้ยอมตาม. 11 ถ้าเขากล่าวว่า, มาไปกับเราเถอะ, เราจะแอบคอยที่เอาเลือดเขา; เราจะซุ่มดักจับผู้หาความผิดมิได้โดยไม่มีสาเหตุ; 12 เราจะกลืนเขาเหล่านั้นทั้งเป็นเช่นธรณีสูบ, และกลืนผู้มีร่างกายสมบูรณ์ลงไปเช่นหลุมฝังศพ; 13 พวกเราจะพบบรรดาทรัพย์อันหาค่ามิได้; พวกเราจะบรรจุบ้านของพวกเราให้เต็มทุกหลังด้วยสิ่งของที่ปล้นได้มา; 14 เจ้าจงเข้าส่วนกับพวกเราเถิด; เราทั้งหมดจะมีถุงเงินอันเดียวกัน”, 15 ศิษย์ของเราเอ๋ย, เจ้าอย่าดำเนินในทางนั้นกับเขา; จงยั้งเท้าของเจ้าอย่าย่างเข้าไปในทางของเขา; 16 ด้วยว่าเท้าของเขาวิ่งไปสู่ความชั่วร้าย, และรีบเร่งจะไปกระทำให้เลือดตก. 17 แม้ว่าจะขึงข่ายไว้ให้นกเห็น, นั้นก็หาเป็นประโยชนแก่มันไม่; 18 และคนเหล่านี้ก็เท่ากับดักทำร้ายให้โลหิตของตนเองตก; เขาทั้งปวงเท่ากับซุ่มซ่อนทำร้ายชีวิตของเขาเอง. 19 ฉะนี้แหละคือทางของทุกคนที่โลภเอากำไร; กำไรอสัตย์อธรรมย่อมทำลายชีวิตของผู้ปล้นนั้นเสียเอง 20 พระบัญญัติส่งเสียงโกญจนาทในถนน; เปล่งพระสุรเสียงในที่กว้างทั้งหลาย; 21 พระปัญญานั้นร้องประกาศในที่มหาชนชุมนุมกัน; ณ ภายนอกประตูเมืองทั้งหลาย, และในนคร, พระปัญญาตรัสดังนี้: 22 “อีกนานสักเท่าใด, เจ้าคนโง่, ที่เจ้าจะชอบอปัญญา? และเจ้าผู้ชอบประมาทเยาะเย้ยจะชื่นชมในความประมาทเยาะเย้ย, และผู้โฉดจะชังความรู้? 23 เจ้าจงหันมาตามคำตักเตือนของเรา; นี่แน่ะ, เราจะเทวิญญาณของเราลงที่เจ้า; เราจะกระทำให้เจ้าทั้งหลายรู้ถึงถ้อยคำของเรา. 24 เพราะว่าเราได้ร้องเรียก, และเจ้าได้ปฏิเสธ; เราไห้ยื่นมือของเราออกรับ, แต่ไม่มีใครสนใจ; 25 แต่เจ้าทั้งปวงถือว่าบรรดาคำตักเตือนของเราเปล่าประโยชน์, และไม่เอาใจใส่ต่อคำตักเตือนของเรา. เราก็จะหัวเราะบ้างในวาระที่เจ้าทั้งหลายต้องอันตราย; 26 เราจะเย้ยเมื่อความกลัวของเจ้ามาสู่เจ้า; คือเมื่อความกลัวบังเกิดแก่เจ้าเหมือนลมพายุ, 27 และเมื่อภัยอันตรายมาถึงเจ้าดังลมป่วน; เมื่อความทุกข์โศกและความรำเค็ญมาถึงเจ้า. 28 ขณะนั้นเขาทั้งปวงจะเรียกร้องหาเรา, แต่เราจะไม่ขานรับ; เขาทั้งปวงจะบากบั่นแสวงหาเรา, แต่เราจะไม่ขานรับ; เขาทั้งปวงจะบากบั่นแสวงหาเรา, แต่เขาจะไม่พบเรา; 29 เพราะว่าเขาทั้งหลายได้ชังความรู้, และมิได้เลือกเอาความยำเกรงพระยะโฮวา. 30 เขาทั้งปวงไม่เอาใจใส่ต่อคำสั่งสอนของเรา, เขาได้หมิ่นประมาทต่อคำตักเตือนทั้งหมดของเรา; 31 เพราะเหตุนั้นเขาจะต้องกินผลของการประพฤติแห่งวิถีของเขาเองนั้น, และจะหนำใจด้วยทำตามความคิดของตนเอง. 32 ด้วยว่าการหลงทางไปจากคำสอนของพวกคนโง่นั้นจะเป็นเหตุประหารเขา, และความเฉยเมยของคนโฉดจะทำลายตัวเขาเอง. 33 แต่ว่าผู้ใดที่ฟังเราจะพำนักอยู่โดยปลอดภัย, และจะอยู่สงบสุขปราศจากกลัวภัยของความชั่ว.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society