อาฤธโม 32 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แต่พวกลูกหลานตระกูลรูเบน, แลพวกลูกหลานตระกูลฆาดนั้น, เขาทั้งหลายมีฝูงวัวเป็นอันมาก, ครั้นเขาได้เห็นแผ่นดินเมืองยาอะซัร, แลเมืองคีละอาดเขาก็เห็นว่าเป็นที่สำหรับเลี้ยงฝูงวัว. 2 พวกลูกหลานตระกูลฆาด, และพวกลูกหลานตระกูลรูเบน, ก็มากล่าวแก่โมเซแลเอละอาซารผู้ปุโรหิต, แลแก่ผู้ใหญ่หัวหน้าของคนทั้งปวงว่า. 3 เมืองอะตาโรธา, แลเมืองดีโบน, แลเมืองยาอาซัร, แลเมืองนิมรา, แลเมืองเฮศะโบน, แลเมืองเอลาเล, แลเมืองซะบาม, แลเมืองนะโบ, แลเมืองบะโอน. 4 เมืองเหล่านี้ที่พระยะโฮวาได้ตีทำลายตรงหน้าพวกยิศราเอล, เป็นเมืองสำหรับเลี้ยงฝูงวัว, แลทาสของท่านมีฝูงวัวอยู่. 5 แลเขาว่าอีกว่า, เหตุฉะนี้ถ้าข้าพเจ้าทั้งหลายมีความชอบกับท่าน, ขอยกแผ่นดินเมืองเหล่านั้นให้แก่ทาสของท่าน, เป็นที่ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, แลอย่าพาข้าพเจ้าทั้งหลายข้ามแม่น้ำยาระเด็นนี้เลย. 6 แลโมเซก็ตอบแก่พวกลูกหลานตระกูลฆาด, แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบนนั้นว่า, พี่น้องทั้งหลายของท่านจะไปการศึกสงคราม, แลท่านทั้งหลายจะนั่งอยู่ที่นี่หรือ. 7 เหตุไฉนท่านทั้งหลายจะกระทำให้พวกยิศราเอลระอาอ่อนใจ. ไม่ให้เข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาประทานให้แก่เขาเล่า. 8 บิดาทั้งหลายของท่านได้กระทำดังนั้น, เมื่อเราได้ใช้เขาไปจากตำบลคาเดศบัรเอะจากตำบลคาเดชบัรเอะให้สอดแนมดูแผ่นดินนั้น. 9 ด้วยว่าเมื่อเขาทั้งหลายขึ้นไปถึงที่ตำบลเอศโคนแลเห็นแผ่นดินนั้นแล้ว, เขาได้กระทำให้พวกยิศราเดลระอาท้อถอยไม่อยากให้เขาไปในแผ่นดิน, ที่พระยะโฮวาประทานให้แก่เขา. 10 แลความพิโรธของพระยะโฮวาพลุ่งขึ้นแก่เขา, แลพระองค์ได้ตั้งสัตย์สัญญาไว้ว่า. 11 แท้จริงแต่บรรดาคนซึ่งขึ้นมาจากประเทศเมืองอายฆุบโตที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไป, ก็ไม่มีคนที่จะได้เห็นแผ่นดินซึ่งเราสัญญาว่าจะให้แก่อับราฮามแลยิศฮาคแลยาโคบ แต่สักคนหนึ่งเลย เพราะเขาทั้งหลายมิได้เชื่อฟังติดตามเรา. 12 เว้นไว้แต่คาเลบบุตรยะฟูเนพวกเคนี, แลยะโฮซูอะบุตรนูนนั้นเพราะเขาได้เชื่อฟังติดตามพระยะโฮวา. 13 แลความพิโรธของพระยะโฮวาก็พลุ่งขึ้นแก่พวกยิศราเอล, แลพระองค์ได้ให้เขาเที่ยวไปมาอยู่ในป่าสี่สิบปี, จนบรรดาคนที่ได้กระทำผิดต่อพระยะโฮวาตายเสียสิ้น. 14 นี่แลท่านทั้งหลาย, เป็นคนผิดทวีขึ้นจะให้ความพิโรธของพระยะโฮวายิ่งปรากฏมากแก่พวกยิศราเอล. 15 ด้วยว่าถ้าท่านทั้งหลายหันไปเสียจากพระองค์พระองค์จะละทิ้งท่านทั้งหลายเสียในป่าอีก, แลท่านทั้งหลายจะทำให้คนทั้งปวงนี้ฉิบหายเสียสิ้น 16 แลเขาทั้งหลายเข้ามาใกล้โมเซพูดว่า, ข้าพเจ้าทั้งหลายจะปลูกโรงที่นี่สำหรับฝูงวัวฝูงแกะ, และจะสร้างบ้านเรือนสำหรับบุตรภรรยาของข้าพเจ้าทั้งหลาย. 17 แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายนี้จะพร้อมใจไปในการสงครามกับด้วยพวกยิศราเอลนั้น. จนเขาทั้งหลายมาถึงที่อยู่ของเขาทุกคน. แต่จะให้บุตรภรรยาของข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่เมืองเหล่านี้ที่มีกำแพงล้อมรอบเพราะกลัวชาวแผ่นดินนี้. 18 พวกข้าพเจ้าจะไม่กลับมายังบ้านเรือนของข้าพเจ้านี้, จนพวกยิศราเอลได้ที่ของตนทุกคน. 19 เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เอาที่ฝังแม่น้ำยาระเด็นข้างโน้นกับด้วยเขา, เพราะที่ของข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่แม่น้ำยาระเด็นฝั่งข้างนี้ทิศตะวันออก 20 และโมเซว่าแก่เขาทั้งหลายว่า, ถ้าท่านทั้งหลายกระทำดังนั้น, ถ้าท่านทั้งหลายไปในการสงครามต่อพระพักตรพระยะโฮวา. 21 ถ้าท่านทั้งหลายถืออาวุธพร้อมแก่การรบ, ข้ามแม่น้ำยาระเด็นนี้ต่อพระพักตรพระยะโฮวา, จนพระองค์ได้ขับไล่พวกศัตรูของพระองค์ไปเสียจากพระพักตรพระองค์. 22 แลพระยะโฮวาได้ปราบปรามแผ่นดินนั้นลงเรียบแล้ว, ภายหลังท่านทั้งหลายก็กลับมา, หามีโทษต่อพระพักตรพระยะโฮวาแลพวกยิศราเอลไม่, แผ่นดินนี้จึงจะเป็นที่ของท่านทั้งหลายต่อพระพักตรพระยะโฮวา. 23 แต่ทว่าถ้าท่านทั้งหลายไม่กระทำดังนั้น, ท่านก็ได้กระทำผิดต่อพระพักตรพระยะโฮวา, แลจงรู้เป็นแน่ว่าโทษผิดของท่านจะติดตามถึงตัว. 24 ท่านทั้งหลายจงสร้างบ้านเมืองไว้สำหรับบุตรภรรยา, แลโรงสำหรับฝูงสัตว์ทั้งปวง. แลจงกระทำตามคำที่ท่านทั้งหลายได้เจรจามานั้น. 25 แลพวกลูกหลานตระกูลฆาด, แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบนกล่าวแก่โมเซว่า, ทาสของท่านจะกระทำตามคำของนายข้าพเจ้านั้น. 26 จะให้บุตรภรรยาทั้งหลายของพวกข้าพเจ้า, แลฝูงแกะแพะและฝูงวัวของพวกข้าพเจ้าอยู่ในหัวเมืองทั้งปวงแขวงฆีละอาดนี้. 27 แต่พวกทาสของท่านจะข้ามไปทุกคนพร้อมด้วยศาสตราวุธสำหรับการสงคราม, ต่อพระพักตรพระยะโฮวาตามคำที่นายกล่าวนั้น. 28 โมเซจึงได้สั่งเอละอาซารผู้ปุโรหิต. แลยะโฮซูอะบุตรนูน, แลผู้ใหญ่หัวหน้าทั้งปวงในพวกยิศราเอลด้วยเรื่องของเขานั้น. 29 โมเซก็สั่งเขาว่า, ถ้าพวกลูกหลานตระกูลฆาด, แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบนจะข้ามแม่น้ำยาระเด็นกับด้วยท่านทั้งหลายทุกคนถืออาวุธพร้อมแก่การรบ, 30 แลท่านทั้งหลายปราบปรามแผ่นดินนั้นลงเรียบแล้ว, ท่านทั้งหลายจงให้แผ่นดินเมืองฆีละอาดนี้เป็นที่ของเขา. แต่ทว่าถ้าเขาไม่ข้ามไปถืออาวุธพร้อมด้วยท่านทั้งหลายแล้ว, เขาทั้งหลายต้องเอาที่กับด้วยท่านในแผ่นดินเมืองคะนาอัน. 31 แลพวกลูกหลานตระกูลฆาด, แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบนก็ตอบว่า, พระยะโฮวาตรัสสั่งแก่พวกทาสของท่านอย่างไร, เขาจะกระทำอย่างนั้น. 32 ข้าพเจ้าทั้งหลายจะข้ามไปถึงแผ่นดินเมืองคะนาอัน, ถืออาวุธพร้อมต่อพระพักตรพระยะโฮวา, เพื่อข้าพเจ้าจะได้ที่ฝั่งแม่น้ำยาระเด็นข้างนี้เป็นของข้าพเจ้าทั้งหลาย. 33 แลโมเซได้ให้แก่พวกลูกหลานตระกูลฆาด, แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบน, แลแก่พวกมะนาเซผู้ลูกโยเซฟกึ่งตระกูลซึ่งเมืองของซีโฮนกษัตริย์พวกอะโมรี, แลเมืองของโอมกษัตริย์เมืองบาซารทั้งเขตต์แดนเหล่านั้นเป็นของเขาสิ้น. 34 แลพวกลูกหลานตระกูลฆาดได้สร้างเมืองดีโบน, แลเมืองอะตาโรธา, แลเมืองอะโรเอล. 35 แลเมืองอัตโรธ, แลเมืองโซฟาย. แลเมืองยาเซร, เมืองยัฆบะฮา. 36 แลเมืองเบธะนิมรา, แลเมืองเบธฮาราน, เป็นเมืองมีกำแพงล้อมรอบ, แลเขาปลูกโรงไว้สำหรับเลี้ยงฝูงแกะด้วย. 37 แลพวกลูกหลานตระกูลรูเบนได้สร้างเมืองเฮ็ศโบน, แลเมืองเอลาเล, แลเมืองคีรยาธายิม, แลเมืองนะโบ. 38 แลเมืองบาละมะโอนเมืองเหล่านี้มีชื่อใหม่, แลสร้างเมืองซิบมา, แลหัวเมืองอื่นที่เขาสร้างขึ้นเขาก็ให้ชื่อใหม่ทั้งนั้น. 39 แลพวกลูกหลานมาคีรๆ ผู้บุตรมะนาเซ. ก็ขึ้นไปตีเอาเมืองฆีละอาดประหารชีวิตพวกอะโมรีที่อยู่เมืองนั้น 40 แลโมเซก็ได้ให้เมืองฆีละอาคนั้นแก่มาคีรบุตรมะนาเซ, แลเขาก็อยู่เมืองนั้น. 41 แลยาอีรบุตรมะนาเซก็ขึ้นไปตีเอาเมืองเล็กๆ แขวงฆีละอาดนั้น, แลเรียกชื่อเมืองนั้นว่าฮาโวธยาอีร. 42 แลโนบาก็ขึ้นไปตีเมืองคะนัธ, แลบ้านเล็กเมืองน้อยเหล่านั้น, แลเรียกชื่อว่าโนบาตามชื่อของตน. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society