อาฤธโม 30 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แลโมเซก็กล่าวแก่ผู้ใหญ่หัวหน้าทุกตระกูลในพวกยิศราเอลว่าพระยะโฮวาตรัสสั่งดังนี้. 2 “ถ้าชายผู้หนึ่งผู้ใดกล่าวคำปฏิญาณแก่พระยะโฮวา หรือได้สาบาน ตัวก็อย่าให้ผู้นั้นเสียวาจา, เขาต้องกระทำตามคำที่ออกมาจากปากของเขา. 3 ถ้าหญิงผู้หนึ่งผู้ใดกล่าวคำปฏิญาณแก่พระยะโฮวา, เมื่อเขายังสาวอยู่ในเรือนของบิดา. 4 แลบิดาของเขาได้ยินคำปฏิญาณที่เขาตั้งสัตย์ไว้นั้น, แลบิดาของเขานิ่งอยู่ก็บรรดาคำปฏิญาณของเขายืนมั่นคงอยู่, เขาต้องกระทำตามคำที่ได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณดังนั้นไว้. 5 แต่ทว่าถ้าบิดาของเขาได้ห้ามปรามเขาในวันที่ได้ยิน, ก็คำที่เขาปฏิญาณไว้นั้นจะหายืนมั่นคงไม่, แลพระยะโฮวาจะทรงโปรดยกโทษเขา, เพราะบิดาของเขาได้ห้ามปรามไว้. 6 ถ้าหญิงนั้นมีผัวแลออกปากกล่าวคำปฏิญาณตัว. 7 แลผัวได้ยินคำนั้นนิ่งอยู่ในวันที่ได้ยิน, ก็คำของหญิงนั้นที่ได้ปฏิญาณตัวไว้จะยืนมั่นคงอยู่. 8 แต่ทว่าถ้าผัวห้ามปรามไว้ในวันที่ ได้ยิน, ก็คำที่หญิงนั้นออกปากกล่าวปฏิญาณจะหายืนมั่นคงไม่, แลพระยะโฮวาจะทรงโปรดยกโทษเขา. 9 แต่หญิงหม้ายแลหญิงที่อย่าผัวไป, แลได้กล่าวคำปฏิญาณตัวอย่างไร, คำนั้นจะยืนมั่นคงอยู่ แก่เขา. 10 ถ้าหญิงนั้นได้กล่าวคำปฏิญาณอยู่ในเรือนของผัวหรือตั้งสัตย์ด้วยคำสาบาน. 11 แลผัวนั้นได้ยินแลนิ่งอยู่ไม่ห้ามปรามแล้ว, ก็ถ้อยคำเขาปฏิญาณนั้นจะยืนมั่นคงอยู่ทุกคำ. 12 แต่ทว่าถ้าผัวได้ห้ามปรามเสียในวันที่ได้ยินฟังคำนั้น, ก็คำที่เขาออกปากกล่าวปฏิญาณตัวนั้นจะหายืนมั่นคงไม่, เพราะผัวได้ห้ามปรามเสียแล้ว, แลพระยะโฮวาจะโปรดยกโทษเขา. 13 บรรดาถ้อยคำที่หญิงนั้นกล่าวปฏิญาณตัวไว้, ผัวของเขาจะทำให้ยั่งยืนมั่นคงก็ได้หรือจะทำลายเสียไม่ให้ยืนมั่นคงก็ได้. 14 แต่ทว่าถ้าผัวนั้นนิ่งอยู่ไม่ห้ามปรามคำปฏิญาณนั้นก็ยืนมั่นคงอยู่, เพราะเขานิ่งอยู่ไม่ห้ามปรามในวันที่ได้ยินคำนั้น. 15 แต่ทว่าถ้าผัวจะทำลายคำปฏิญาณของหญิงนั้น, ต่อภายหลังวันที่ได้ยินคำนั้น, เขาก็จะต้องทนโทษการผิดของหญิงนั้น.” 16 นี่แหละเป็นบัญญัติทั้งหลายที่พระยะโฮวาตรัสสั่งแก่โมเซ, ด้วยสามีภรรยาของเขา, แลด้วยบิดากับบุตรหญิงที่ยังอยู่ในเรือนของบิดานั้น. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society