อาฤธโม 14 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แลคนทั้งปวงในกองทัพนั้น, ได้ร้องไห้เสียงดังเขาก็ร้องไห้ตลอดคืนวันนั้น. 2 แลบรรดาพวกยิศราเอลได้บ่นติเตียนโมเซแลอาโรน, คนเหล่านั้นได้ว่าแก่เขาว่า, ถ้าพระเจ้าได้ทำให้เราตายที่ประเทศอายฆุบโตดีกว่า, ถ้าพระเจ้าจะให้เราตายในป่านี้ก็ดีกว่านี้อีก. 3 เหตุไฉนพระยะโฮวาได้พาเราออกจากประเทศนั้นมาให้ล้มตายด้วยคมกระบี่, แลลูกเมียของเราเป็นทาสชะเลยเขาเล่า, ที่เราจะกลับไปยังประเทศอายฆุบโตจะมิดีกว่าหรือ? 4 แลเขาทั้งหลายพูดแก่กันแลกันว่า, ให้เราทั้งหลายตั้งคนหนึ่งเป็นนายขึ้น, แลให้เราทั้งหลายกลับไปยังประเทศเมืองอายฆุบโต. 5 แลโมเซกับอาโรนได้ซบหน้าลงถึงดินต่อหน้าคนทั้งปวง, พวกยิศราเอลที่ประชุมกันนั้น. 6 แลยะโฮซูอะบุตรนูนกับคาเลบบุตรยะฟูเน, ที่ได้ไปสอดแนมแผ่นดินนั้นก็ฉีกเสื้อผ้าของตน. 7 แลเขาได้กล่าวแก่คนทั้งปวงในพวกยิศราเอลนั้นว่า, แผ่นดินที่เราได้เที่ยวสืบดูทั่วตลอดนั้นเป็นประเทศดียิ่งที่สุด. 8 ถ้าพระยะโฮวาชอบพระทัยในพวกเรา, พระองค์ก็จะพาเราทั้งหลายไปถึงประเทศนั้น, ยกประเทศนั้นให้พวกเราเป็นประเทศซึ่งมีน้ำนมแลน้ำผึ้งไหลเป็นบริบูรณ์. 9 แต่อย่าให้พวกเรามีใจกบฎต่อพระยะโฮวา, แลอย่าให้มีใจกลัวชนประเทศนั้น, เพราะเขาทั้งหลายเป็นอาหารของเรา, แลร่มฤทธิ์ของเขาก็ศูนย์ไปแล้ว, พระยะโฮวาก็อยู่ฝ่ายเราอย่ากลัวเขาเลย. 10 แต่คนทั้งปวงที่ประชุมนั้นพูดกันว่าให้เอาหินขว้างคนนี้เสีย. ครั้งนั้นรัศมีของพระยะโฮวาก็มาปรากฎที่พลับพลาชุมนุม, ต่อหน้าบรรดาพวกยิศราเอลนั้น. 11 แลพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “คนทั้งปวงนี้จะขัดเคืองพระทัยของเราไปนานเท่าใด? แลเขาทั้งหลายจะไม่เชื่อฟังคำของเรา, เพราะบรรดาการสำคัญที่เราได้สำแดงท่ามกลางเขาทั้งหลายนานไปเท่าใด? 12 เราจะประหารชีวิตเขาด้วยโรคร้าย, แลเราจะตัดเขาออกเสียจากมรดก, แลเราจะบันดาลให้เจ้าเป็นประเทศใหญ่แข็งแรงกว่าเขาอีก.” 13 แลโมเซทูลพระยะโฮวาว่า, ชาวอายฆุบโตจะได้ยินเพราะพระองค์ได้พาคนเหล่านี้ออกมาจากท่ามกลางเขาด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์. 14 แลชาวอายฆุบโตนั้นจะบอกเล่าความนั้นแก่ชาวประเทศนี้, เพราะเขาทั้งหลายได้ยินว่าพระองค์เป็นยะโฮวาอยู่ท่ามกลางคนทั้งปวงนี้, แลพระองค์เป็นยะโฮวาได้สำแดง พระพักตรพระองค์ให้เขาเห็น, แลเมฆของพระองค์ลอยอยู่เหนือเขาทั้งหลาย, แลพระองค์นำหน้าเขาในเวลากลางวันด้วยเสาเมฆ, แลเวลากลางคืนด้วยแสงไฟ. 15 บัดนี้พระองค์จะประหารชีวิตคนทั้งปวงดุจดังคนเดียว, ชนประเทศทั้งปวงที่ได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์จะพูดกันว่า. 16 เพราะพระยะโฮวาจะพาคนเหล่านี้ไปถึงแผ่นดินที่พระองค์สัญญาแก่เขานั้นไม่ได้, พระองค์จึงได้ประหารชีวิตเขาเสียที่ป่า. 17 บัดนี้ข้าพเจ้าขอพระองค์จงบันดาลฤทธิ์เดชของพระองค์เจ้าของข้าพเจ้าให้เป็นใหญ่ปรากฎตามคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า. 18 พระยะโฮวาอดทนไว้นานประกอบด้วยความเมตตาทรงโปรดยกโทษความบาปแลความผิดของเขา, แต่ผู้ประพฤติชั่วนั้นจะโปรดให้พ้นโทษก็หามิได้, พระองค์ทรงปรับโทษบิดาถึงลูกหลานต่อๆ ลงมาจนถึงสามชั่วสี่ชั่ว. 19 ข้าพเจ้าอ้อนวอนขอพระองค์ได้ทรงโปรดยกโทษการบาปของคนเหล่านี้, ตามความเมตตากรุณาอันใหญ่ของพระองค์, เหมือนอย่างพระองค์ได้ทรงโปรดแก่เขาทั้งหลาย, ตั้งแต่ออกมาจากประเทศอายฆุบโตจนถึงบัดนี้. 20 แลพระยะโฮวาตรัสว่า, “เราได้ยกโทษนั้นตามคำของเจ้า. 21 แท้จริงเรามีชีวิตอยู่ฉันใด, ทั้งแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยรัศมีพระยะโฮวาฉันนั้น. 22 เพราะคนทั้งหลายนั้นที่ได้เห็นรัศมีของเรา แลได้เห็นการอัศจรรย์สำคัญที่เราได้กระทำที่แผ่นดินอายฆุบโตก็ดี, แลที่ป่าก็ดี, ได้ทดลองเรามาสิบครั้งดังนี้, แลไม่ฟังคำของเรา. 23 แท้จริงเขาจะไม่ได้เห็นแผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับปู่ย่าตายายของเขา, คนทั้งปวงที่ได้ขัดเคืองพระทัยของเราจะไม่เห็นแผ่นดินนั้นเลย. 24 แต่คาเลบทาสของเราเขามีใจอย่างหนึ่งอยู่ในเขา, แลได้เชื่อฟังคำของเราๆ จะพาเขาให้มาถึง แผ่นดินที่เขาไปดู, แลเผ่าพันธ์ของเขาจะอยู่เมืองนั้น.” 25 คราวนั้นพวกอาเมเล็กและพวกคะนาอันนั้นอยู่ที่ราบ, พรุ่งนี้เจ้าทั้งหลายจงกลับเข้าไปในป่าตามทางทะเลแดง 26 แลพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซแลอาโรนว่า, 27 “เราจะทนพวกคนชั่วนี้ที่พูดกะทบกะเทียบเรานานเท่าใด? เราได้ยินคำติของพวกยิศราเอลที่เขาได้พูดกะทบกะเทียบต่อเรา. 28 เจ้าจงกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า. พระยะโฮวาตรัสว่าเรามีชีวิตฉันใดเจ้าทั้งหลายได้กล่าวไว้ในกรรณของเราอย่างไร, เราจะกระทำแก่เจ้าทั้งหลายอย่างนั้นเป็นแท้ฉันนั้น. 29 ศพของเจ้าทั้งหลายจะตกเสียในป่านี้, แลบรรดาคนในพวกของเจ้าที่ต้องนับนั้น, บรรดาที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปที่ได้พูดจากะทบกะเทียบต่อเรา. 30 เจ้าทั้งหลายจะไม่มาถึงแผ่นดินที่เราตรัสสัญญาไว้จะให้นั้น, เว้นไว้แต่คาเลบบุตรยะฟูเนแลยะโฮซูอะบุตรนูน. 31 แต่ลูกเล็กที่เจ้าทั้งหลายว่าจะเป็นทาสชะเลยนั้น เราจะพาเขาทั้งหลายมาถึงแผ่นดิน, แลเขาจะรู้จักแผ่นดินที่เจ้าทั้งหลายได้ประมาทดูหมิ่นนั้น. 32 แต่ฝ่ายเจ้าทั้งหลายศพของเจ้าจะตกเสียในป่านี้. 33 แลลูกเจ้าทั้งหลายจะเดินเที่ยวไปมาในป่าถึงสี่สิบปีแลทนโทษแห่งการล่วงประเวณีของเจ้า, จนศพเจ้าทั้งหลายเสียไปในป่า. 34 ตามวันทั้งหลายที่เจ้าได้ไปสอดแนมแผ่นดินนั้น, คือสี่สิบวัน เอาวันเป็นปีเจ้าทั้งหลายจะทนโทษแห่งการผิดของเจ้า นานถึงสี่สิบปีนั้น, แลเจ้าทั้งหลายจะรู้ว่าเราปราศจากคำสัญญาของเรา. 35 เรายะโฮวาได้ตรัสแล้วเราจะกระทำได้นั้นแก่บรรดาพวกคนชั่วนี้ที่ประชุมต่อสู้เราเป็นมั่นคง, เขาทั้งหลายจะตายสูนย์เสียในป่านี้.” 36 แลเหล่าคนที่โมเซได้ใช้ไปสอดแนมแผ่นดินนั้น, ที่กลับมาเล่าความร้ายด้วยประเทศนั้น, กระทำให้คนทั้งปวงติเตียนโมเซ. 37 คือเหล่าคนที่ได้นำข่าวร้ายถึงแผ่นดินนั้นก็ได้ตายเสียด้วยอาญาต่อพระพักตรพระยะโฮวา. 38 แต่ยะโฮซูอะบุตรนูน, แลคาเลบบุตรยะฟูเนสองคนที่ได้ไปสืบดูแผ่นดินนั้นด้วยก็มิได้ต้องอาญา. 39 แลโมเซบอกเล่าข้อความเหล่านี้ให้พวกยิศราเอลฟัง, แลคนทั้งปวงนั้นได้ร้องไห้เป็นทุกข์โศกนัก. 40 ครั้นรุ่งเช้าแล้วคนทั้งปวงนั้นก็ขึ้นไปสู่ยอดภูเขาพูดกันว่า, นี่แหละเราจะขึ้นไปสู่ที่พระยะโฮวาได้สัญญาไว้นั้น เพราะเราทั้งหลายได้ทำผิดแล้ว. 41 แลโมเซก็ว่าเหตุไฉนเจ้าทั้งหลายนี้ขืนทำผิดจากคำสั่งของพระยะโฮวา, การนี้จะไม่เจริญ. 42 อย่าขึ้นไปเลยเพราะพระยะโฮวาไม่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้าแล้ว, กลัวเกลือกว่าเจ้าทั้งหลายจะล้มตายต่อหน้าสัตรูนั้น. 43 เพราะพวกอาเมเล็กแลพวกคะนาอันอยู่ข้างหน้าเจ้าในที่นั้น, แลเจ้าทั้งหลายจะล้มตายด้วยคมกระบี่, เพราะเจ้าทั้งหลายได้หันกลับไปเสียจากพระยะโฮวาแล้ว, เหตุฉะนี้พระยะโฮวาไม่อยู่ด้วยเจ้าทั้งหลาย. 44 แต่เขาทั้งหลายได้ขืนขึ้นไปสู่ที่ยอดภูเขา, แต่หีบไมตรีโอวาทพระยะโฮวากับโมเซหาได้ออกไปจากที่หยุดพักนั้นไม่. 45 ครั้งนั้นพวกอาเมเล็กกับพวกคะนาอันที่อยู่กับเขานั้น, กรูลงมาจากภูเขาตีเอาชัยชะนะแก่เขาทั้งหลายมาจนลงตำบลฮัลมา. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society