อาฤธโม 11 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แลคนทั้งปวงได้บ่นติเตียนให้เคืองพระทัยพระยะโฮวาๆ ได้ทรงฟังก็ทรงพระพิโรธยิ่งนัก, แลมีไฟพระยะโฮวามาไหม้ ท่ามกลางเขา, ได้เผาผลาญคนที่อยู่ในกองค่ายรอบนอก. 2 แลคนทั้งหลายก็ร้องถึงโมเซ, แลเมื่อโมเซได้อ้อนวอนแก่พระยะโฮวาไฟนั้นก็ดับไป 3 แลเขาทั้งหลายได้เรียกชื่อตำบลนั้นว่า, ตับเอรา, เพราะไฟพระยะโฮวามาเผาไหม้ท่ามกลางเขาทั้งหลาย 4 แลฝูงคนที่ติดปนกันมากับเขาทั้งหลาย, ก็หลงโลภอาหารเป็นกำลัง, แลพวกยิศราเอลก็กลับร้องไห้ว่าผู้ใดจะเอาเนื้อมาให้เรากินอีกเล่า, 5 เราระลึกถึงปลาที่เราเคยกินเป็นบริบูรณ์ในเมืองอายฆุบโต, แลแตงกวาแตงโม แลใบกะเทียม แลหัวกะเทียม. 6 บัดนี้จิตต์ใจเราแห้งห่อไปไม่มีสิ่งใดตรงหน้าเราเลยเว้นแต่มานานี้. 7 ฝ่ายมานานั้นดุจดังเม็ดผักชี, แลสีนั้นดุจดังสีพลอยบะโดเล็ก. 8 แลคนทั้งปวงก็เที่ยวไปเก็บเอามาโม่ในหินโม่, แลตำในครกบ้างต้มในหม้อทำเป็นขนมบ้าง, แลรสมานานั้นดุจดังรสน้ำมันใหม่. 9 แลในเวลากลางคืนเมื่อนํ้าค้างตกนั้น, เมื่อน้ำค้างตกลงที่เขาหยุดพักมานาก็ตกลงมาด้วย. 10 แลโมเซได้ยินคนทั้งปวงทั่วตลอดครอบครัวเรือนของเขา, ร้องไห้ทุกคนอยู่ประตูเรือนของตน, แลพระยะโฮวาทรงพระพิโรธเป็นอันมาก, แลโมเซก็ไม่สบายใจด้วย. 11 โมเซก็กราบทูลพระยะโฮวาว่า, เหตุไฉนพระองค์บันดาลให้ความทุกข์บังเกิดแก่ทาสของพระองค์เล่า? เหตุอันใดข้าพเจ้าไม่ได้ความชอบในคลองพระเนตรของพระองค์ ที่พระองค์จะวางความหนักของคนเหล่านี้ลงเหนือข้าพเจ้า? 12 ข้าพเจ้าเป็นบิดาแก่คนเหล่านี้ทั้งหมดหรือ? ข้าพเจ้าได้ยังคนเหล่านี้ให้เกิดมาหรือ, ที่พระองค์จะสั่งข้าพเจ้าไว้ว่า, เจ้าจงอุ้มเขาไว้ที่อกของเจ้าพามาถึงแผ่นดินซึ่งพระองค์สัญญาไว้แก่ปู่ย่าตายายของเขา, ดุจดังบิดาอุ้มบุตรของตนที่กินนม. 13 ข้าพเจ้าจะเอาเนื้อมาแต่ไหนให้คนเหล่านี้ทั้งหมดกินเพราะเขาทั้งหลายร้องไห้ต่อข้าพเจ้าว่า, ขอเนื้อสัตว์ให้เราทั้งหลายกินเถิด, 14 ข้าพเจ้าจะทนการคนเหล่านี้คนเดียวไม่ได้, เพราะเป็นการหนักนักแก่ข้าพเจ้า. 15 ถ้าพระองค์จะกระทำดังนี้แก่ข้าพเจ้า, ขอพระองค์จงประหารชีวิตข้าพเจ้าเสียทีเดียว, ถ้าข้าพเจ้ามีความชอบในคลองพระเนตรของพระองค์, ก็อย่าให้ข้าพเจ้าเห็นซึ่งความทุกข์ลำบากของข้าพเจ้าเลย 16 แลพระยะโฮวา ตรัสสั่งแก่โมเซว่า, “เจ้าจงเรียกเจ็ดสิบคนในพวกยิศราเอลที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่, ผู้ดูแลเหนือคนทั้งปวงให้มาถึงเราที่ประตูพลับพลาชุมนุม, ให้เขาทั้งหลายมายืนอยู่ที่นั่นกับด้วยเจ้า. 17 แลเราจะลงมาสนทนากับด้วยเจ้าในที่นั่น, แลเราจะเอาแต่วิญญาณที่อยู่กับเจ้าใส่ให้แก่เขา, แลจะให้เขาทั้งหลายทนการหนักของคนเหล่านี้กับด้วยเจ้า, เพื่อเจ้าจะไม่ทนทานคนเดียว. 18 เจ้าจงว่าแก่คนทั้งปวงว่าท่านทั้งหลายจะเตรียมตัวไว้ต่อพรุ่งนี้, แลท่านทั้งหลายจะกินเนื้อสัตว์เพราะท่านทั้งหลายได้ร้องไห้ในพระกรรณพระยะโฮวาว่า, ใครจะเอาเนื้อมาให้เรากินอีกเล่า, เมื่อเราอยู่ในเมืองอายฆุบโต เราทั้งหลายก็เป็นสุขสบายแล้ว, เหตุฉะนี้พระยะโฮวาจะประทานเนื้อสัตว์ให้ท่านทั้งหลายกิน. 19 ท่านทั้งหลายจะไม่ได้กินวันหนึ่งหรือสองวันหรือห้าวันหรือสิบวันหรือยี่สิบวัน, 20 แต่จะได้กินครบเดือนหนึ่งจนเนื้อนั้นไหลออกจมูก, จนเป็นที่เบื่อแก่ท่านทั้งหลาย, เพราะว่าท่านทั้งหลายได้ประมาทแก่พระยะโฮวา, ซึ่งอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลาย แลร้องไห้ต่อพระองค์ว่า, เหตุไฉนเราได้ออกจากแผ่นดินเมืองอายฆุบโตเล่า?” 21 แลโมเซทูลว่า คนทั้งหลายที่อยู่กับข้าพเจ้าเป็นทหารได้หกแสนคน, แลพระ-องค์ได้ว่าเราจะประทานเนื้อให้เขาทั้งหลายกินครบเดือนหนึ่ง. 22 ซึ่งจะเอาฝูงโคฝูงแกะแพะมาฆ่าเสีย, จะพอให้เขากินหรือๆ จะรวบรวมฝูงปลาทั้งปวงในทะเลมาจะพอเขากินหรือ? 23 แลพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, “พระหัตถ์ของยะโฮวาอ่อนถอยกำลังลงหรือ? บัดนี้เจ้าคงจะเห็นว่าคำของเราจะสำเร็จแก่เจ้าหรือไม่.” 24 แลโมเซก็ออกไปบอกแก่คนทั้งปวงซึ่งคำของพระยะโฮวานั้น, แลได้เรียกเจ็ดสิบคนซึ่งเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ของคนทั้งปวงนั้นมา, ตั้งเขาทั้งหลายไว้ล้อมรอบพลับพลา. 25 แลพระยะโฮวาได้เสด็จลงมาในเมฆทรงตรัสแก่เขา, แลเอาวิญญาณที่อยู่ในโมเซใส่ให้ผู้เฒ่าผู้แก่เจ็ดสิบคนนั้น, ครั้นอยู่มาเมื่อวิญญาณนั้นอยู่บนเขา, เขาทั้งหลายก็ได้ทำนายไปไม่หยุด. 26 ยังมีสองคนในกองทัพที่ได้ตั้งไว้นั้น, คนหนึ่งชื่อเอลดาด, แลคนหนึ่งชื่อเมดาด, ที่ไม่ได้มาถึงพลับพลา, พระวิญญาณได้อยู่บนเขา, แลเขาได้ทำนายในกองทัพ. 27 มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาบอกโมเซว่า, เอลดาด เมดาด นั้นทำนายอยู่ในกองทัพ. 28 แลยะโฮซูอะบุตรนูนผู้ทาสของโมเซคนหนุ่มตอบว่า, โมเซนายข้าพเจ้าเจ้าข้าจงห้ามปรามเขาเสีย. 29 แลโมเซได้ว่าแก่เขาว่า, เจ้าเป็นใจเจ็บร้อนเพราะเราหรือ? ข้าจะใคร่ให้คนทั้งปวงของยะโฮวานั้นเป็นคนทำนาย, แลจะใคร่ให้พระองค์ประทานวิญญาณของพระองค์ให้แก่เขาทั้งหลาย. 30 แลโมเซกับผู้เฒ่าผู้แก่ของพวกยิศราเอลนั้นได้ออกไปกลางค่าย 31 แลมีลมพัดมาแต่พระยะโฮวาพาฝูงนกกะทามาจากทะเล, ให้มาจับลงที่ค่ายนั้นรอบทุกทิศไกลออกไปสิ้นทางวันหนึ่ง, อยู่ที่พื้นดินสูงประมาณสองศอก. 32 แลวันนั้นคนทั้งปวงก็เที่ยวจับนกกะทาเป็นธุระอยู่ทั้งวันนั้นคืนวันนั้น, แลวันพรุ่งนี้คนที่เก็บได้นกน้อยนั้นก็ได้ฉิบหาย, แลเขาเอานกนั้นมาตากล้อมรอบค่าย. 33 แลเมื่อเนื้อนั้นยังติดฟันของเขากำลังเคี้ยว, พระยะโฮวาก็ทรงพระพิโรธแก่เขาเป็นอันมาก, แลพระยะโฮวาให้บังเกิดโรคแก่คนทั้งปวงนั้นร้ายนัก. 34 แลเขาเรียกชื่อตำบลนั้นว่าคิบโรธฮัธอะวา, เพราะที่นั้นเขาฝังศพคนทั้งปวงที่โลภอาหาร. 35 แลพลโยธานั้น, ก็ได้ยกเดินไปจากตำบลคิบโรธฮัธอะวามาถึงฮะเซโรธยับยั้งที่นั้น. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society