เนหะมีย์ 13 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ในวันนั้นเขาได้อ่านหนังสือของโมเซให้ประชาชนทั้งปวงฟัง; ในหนังสือนั้นเขาได้พบคำที่เขียนไว้ว่า, ชาวเมืองอำโมนและชาวเมืองโมอาบจะมีชื่อในพวกสโมสรของพระเจ้าไม่ได้เป็นนิตย์, 2 เหตุว่าเขามิได้เอาขนมและน้ำออกมาต้อนรับพวกยิศราเอล, แต่ได้จ้างบีละอามให้กล่าวคำแช่งสาปต่อเขา: แต่ทว่าพระเจ้าของพวกข้าพเจ้าได้ทรงบันดาลให้คำแช่งสาปนั้นกลับกลายเป็นพระพร. 3 อยู่มาเมื่อคนทั้งปวงได้ยินถ้อยคำในหนังสือพระบัญญัติ, แล้วจึงแยกคนต่างประเทศทั้งหมดออกจากยิศราเอล 4 อนึ่งเอ็ลยาซิพปุโรหิต, ที่เป็นนายใหญ่กำกับการฝ่ายคลังทุกห้องในโบสถ์วิหารของพระเจ้า, ได้สัญญากับโตบิยาไว้แต่ก่อน: 5 แล้วได้จัดห้องใหญ่สำหรับเขา, เป็นห้องซึ่งแต่ก่อนเป็นที่รวมเก็บเครื่องกระยาหารบูชาถวาย, เครื่องหอม, เครื่องภาชนะ, และส่วยสิบลด, ข้าวสาลี, สิบลดหนึ่ง, น้ำองุ่นใหม่, กับน้ำมันที่กำหนดไว้สำหรับพวกเลวี, พวกขับร้อง, และพวกเฝ้าประตู; และเครื่องถวายสำหรับพวกปุโรหิต. 6 ในกาลครั้งนั้นข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ ณ กรุงยะรูซาเลม: ด้วยว่าในปีที่สามสิบสองแห่งรัชชกาลอาระธาสัศธากษัตริย์เมืองบาบูโลนนั้นข้าพเจ้าได้ขึ้นไปเฝ้าท่าน, และเป็นเวลาหลายวันกว่าท่านจะทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้าทูลลากลับไป. 7 เมื่อข้าพเจ้ามาถึงกรุงยะรูซาเลมแล้ว, จึงได้ทราบความชั่วที่เอ็ลยาซิพได้กระทำเพราะเห็นแก่โตบิยา, ในการจัดแจงห้องหนึ่งให้อาศัยอยู่ในโบสถ์วิหารของพระเจ้า. 8 ข้าพเจ้าเป็นทุกข์นัก: เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้ขนสิ่งของ ๆ โตบิยาออกไปทั้งให้พ้นบริเวณห้อง. 9 ข้าพเจ้าจึงสั่งให้ล้างชำระห้องทั้งปวงเสีย: แล้วได้ขนเครื่องภาชนะสำหรับโบสถ์วิหารของพระเจ้า, กับเครื่องกระยาหารและเครื่องหอมกลับเข้าไปไว้ในที่นั่นอีก 10 กับได้ทราบความว่า, ส่วนสำหรับพวกเลวีนั้นเขาไม่ได้ให้เลย, ดังนั้นพวกเลวีกับพวกขับร้องที่ทำการงานต่างๆ พากันหลบหนีไปยังไร่นาของตน. 11 ข้าพเจ้าจึงได้ต่อว่าเจ้านายทั้งปวงว่า, เป็นเหตุไฉนจึงได้ละทิ้งโบสถ์วิหารของพระเจ้าเสียเล่า? ข้าพเจ้าจึงสั่งให้คนทั้งปวงมาพร้อมกันแล้วตั้งทุกคนไว้ตามตำแหน่งของตน. 12 ดังนั้นบรรดาพวกยูดาได้นำส่วย, ข้าวสาลี, น้ำองุ่นใหม่, และน้ำมัน, ส่งมายังคลังทั้งปวงสำหรับไว้ทรัพย์สิ่งของ. 13 ผู้ที่ข้าพเจ้าตั้งให้เป็นนายคลังคือ, เซเลมยาปุโรหิต, ซาโดคอาลักษณ์, ในพวกเลวีคือ, ฟะดายา, และรองท่านมีฮานานบุตรชายของซะครู ๆ เป็นบุตรชายของมาธันยา: พวกเหล่านั้นเป็นคนสัตย์ซื่อ, จึงได้ตั้งให้มีหน้าที่แจกจ่ายสิ่งของแก่พวกพ้องของตน. 14 โอ้พระเจ้าข้า, ขอพระองค์ทรงโปรดระลึกถึงข้าพเจ้า, ในการนี้อย่าได้ทรงลบล้างความดีที่ข้าพเจ้าได้กระทำเพื่อโบสถ์วิหารของพระองค์, เพื่อคนทั้งปวงที่มีตำแหน่งในวิหารนั้น 15 ในกาลคราวนั้นที่แผ่นดินยูดา ข้าพเจ้าได้เห็นลางคนเหยียบย่ำลูกองุ่น, บรรทุกฟ่อนข้าวสาลี และเอาสิ่งของบรรทุกตัวลา; กับได้เอาน้ำองุ่น, และลูกองุ่น, มะเดื่อเทศ, และสินค้าต่างๆ, บรรทุกเข้ามาในกรุงยะรูซาเลมในวันซะบาโต: ข้าพเจ้าจึงได้ว่ากล่าวห้ามปรามเขาทุกวันๆ ในการที่เขาเอาเครื่องโภชนาหารมาขายในวันนั้น. 16 มีชาวเมืองตุโรซึ่งอาศัยอยู่ที่นั้น, ได้บรรทุกปลา, และสินค้าต่างๆ มาขายแก่ชาวชนที่แผ่นดินยูดา, และที่กรุงยะรูซาเลมในวันซะบาโต. 17 ข้าพเจ้าได้ว่ากล่าวห้ามปรามเจ้านายแล้วแผ่นดินยูดาทั้งปวงว่า, ทำไมท่านทั้งหลายกระทำความชั่วเช่นนี้, ปล่อยให้วันซะบาโตเป็นมลทินไป? 18 เชื้อวงศ์บิดาทั้งหลายของพวกเจ้าได้กระทำเช่นนั้น, จนพระองค์ได้ทรงบันดาลให้บรรดาความทุกข์ยากสวมทับพวกข้าพเจ้ากับเมืองนี้มิใช่หรือ? แต่พวกเจ้ายังซ้ำนำความพิโรธให้มาสวมทับพวกยิศราเอลอีกโดยเหตุที่ปล่อยวันซะบาโตให้เป็นมลทินไป 19 อยู่มาครั้นเกือบมืดลงที่ประตูกรุงยะรูซาเลมนั้น, ในเวลาพลบค่ำก่อนวันซะบาโตนั้น, ข้าพเจ้าได้สั่งให้เขาปิดประตูเสีย, กับได้ห้ามมิให้เปิดประตูนั้นจนวันซะบาโตพ้นไปแล้ว: ทั้งได้จัดคนใช้ให้เฝ้าอยู่ที่ประตูทั้งปวง, คอยห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดบรรทุกของเข้ามาในวันซะบาโต. 20 เหตุฉะนั้นบรรดาพวกพ่อค้าและคนขายของต่างๆ ได้พักอาศัยอยู่ข้างนอกกรุงยะรูซาเลมครั้งหนึ่งหรือสองครั้ง. 21 แล้วข้าพเจ้าได้ว่ากล่าวห้ามปรามเขาว่า, พวกเจ้าตั้งพักอาศัยอยู่รอบกำแพงเมืองนี้ทำไม? ถ้าทำเช่นนั้นอีกจะปรับโทษแก่พวกเจ้า. ตั้งแต่นั้นต่อไปเขาไม่ได้มาในวันซะบาโตอีก. 22 ข้าพเจ้าได้กำชับพวกเลวีให้ชำระตัวและเป็นธุระเฝ้ารักษาประตูทั้งปวง, รักษาวันซะบาโตให้เป็นวันบริสุทธิ์. โอ้พระเจ้าข้า, ขอทรงโปรดระลึกถึงข้าพเจ้าในการนี้ด้วย, และทรงโปรดแก่ข้าพเจ้าตามพระเมตตากรุณาอันใหญ่หลวงของพระองค์ 23 ในกาลคราวนั้นข้าพเจ้าได้เห็นว่าลางคนในตระกูลยูดาได้รับผู้หญิงชาติอัศโดด, ชาติอำโมน, และชาติโมอาบมาเป็นภรรยา: 24 และลูกของเขาค่อนข้างจะพูดภาษาอัศโดด, พูดภาษายูดาไม่ได้, ต่างคนก็ต่างพูดตามภาษาพื้นเมืองของตน. 25 ข้าพเจ้าได้ห้ามปรามว่ากล่าว: แช่งสาป, และโบยตีเขาบางคน, และได้ถอนผมเขา, ให้เขาทั้งปวงสาบานด้วยออกพระนามของพระเจ้าว่า, จะไม่ยกบุตรีให้เป็นภรรยาบุตรชายของเขา, และจะไม่รับบุตรีของเขาให้เป็นภรรยาบุตรชายของตน, หรือรับบุตรีของเขาเป็นภรรยาของตน, 26 ท่านซะโลโมกษัตริย์พวกยิศราเอลได้หลงผิดโดยเหตุนี้มิใช่หรือ? แต่ถึงกระนั้นกษัตริย์ในประเทศทั้งปวงที่จะเหมือนท่านก็ไม่มีเลย, ด้วยพระเจ้าของท่านได้ทรงพระเมตตากรุณาแก่ท่าน, จึงทรงตั้งให้ท่านเป็นกษัตริย์เหนือบรรดาพวกยิศราเอล: แต่ถึงกระนั้นหญิงชาวต่างประเทศยังได้พาท่านให้หลงกระทำผิด. 27 เช่นนั้นและพวกข้าพเจ้าจะยอมฟังปล่อยให้พวกเจ้าทำชั่วเช่นนี้, ที่เป็นการผิดต่อพระพักตรพระเจ้าของพวกข้าพเจ้าโดยรับหญิงต่างประเทศมาเป็นภรรยานั้นควรแล้วหรือ? 28 โยนาดาบุตรชายของเอ็ลยาซิพผู้ปุโรหิต, มีบุตรชายคนหนึ่งเป็นบุตรเขยของซันบาลาตชาวเมืองโฮโรน: เพราะเหตุฉะนั้นจึงได้ขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า. 29 โอ้พระเจ้าข้า, ขอพระองค์ทรงระลึกถึงโทษของเขาที่ทำให้ตำแหน่งปุโรหิต, และคำสัญญาของพวกปุโรหิตและพวกเลวีให้เป็นมลทินเศร้าหมองไป 30 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้ชำระเขาให้ปราศจากคนต่างด้าว, กับได้จัดตั้งพวกปุโรหิตและพวกเลวี, ให้เป็นเวรตามกิจธุระของตนทุกคน; 31 และให้กำกับฟืนและผลใหม่ให้ส่งมาตามเวลากำหนด. โอ้พระเจ้าข้า, ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพเจ้า, และทรงสำแดงความเมตตากรุณาแก่ข้าพเจ้า. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society