นาฮูม 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 น่าเวทนานครอันแปดเปื้อนไปด้วยโลหิต, อันเต็มไปด้วยการเท็จทุจจริตและโจรกรรม, ไม่ว่างเว้นจากการปล้นสดมภ์เสียเลย. 2 นั่นแน่ะ, เสยีงหวาดของแซ่, เสียงครึกโครมแห่งล้อ, เสียงม้าห้อ, และเสียงกะดอนของรถรบ. 3 เออแน่ะ, ทหารม้าห้อรุกเข้ามา, ควงดาบอยู่วับวาบ, ชูหอกเป็นแสงแปลบปลาบ; คนก็ล้มตายเป็นก่ายกอง, ซากศพสุมกันเป็นกองใหญ่! จะไปทางไหนก็ไม่พ้นร่างศพเสียเลย, ต่างก็พากันสะดุดศพล้มลง! 4 เพราะว่าหญิงแพศยาอันมีรูปโฉมสะคราญผู้นี้ได้ประพฤติตัวเป็นแพศยามาแล้วมากมายนัก, ทั้งเป็นแม่มดตัวยง, เป็นผู้ได้ขายเหล่าประเทศด้วยการแพศยาของนางนั้นเอง, และขายเหล่าวงศ์ตระกูลด้วยกลมารยาของนาง. 5 พระยะโฮวาเจ้าแห่งพลโยธาตรัสว่า, “เออ, เรานี่แหละเป็นผู้ต่อสู้เจ้า; เราจะแก้ผ้าของเจ้าออกต่อหน้าเจ้า, และจะให้ประชาชาติเห็นกายอันเปลือยเปล่าของเจ้า, และประจาร เจ้าต่อหน้าบรรดาราชอาณาจักร. 6 เราจะถมทับเจ้าด้วยของโสโครก, ทำให้เจ้าเป็นที่เหยียดหยาม, และจะประจารเจ้าไว้ให้คนเย้ยหยัน. 7 ต่อไปใครๆ ที่มองเห็นเจ้าจะพากันหลีกลี้หนีไป, และกล่าวว่า, “นีนะเวเป็นนครที่ร้างเปล่าเสียแล้ว. ใครเล่าจะคร่ำครวญสงสารเขา? จะหาใครจากไหนมาเล้าโลมเขาได้เล่า?” 8 เจ้านะวิเศษกว่านครโนแห่งพระอาโมนหรือ, ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ ณ อ้อมแม่น้ำ, ที่มีน้ำไหลรอบนคร? เป็นเมืองที่มี ห้วงน้ำใหญ่กั้นเป็นกำแพง, และกำแพงของเมืองนั้นก็คือห้วงน้ำใหญ่นั่นเอง. 9 ประเทศอายธิโอบและประเทศอายฆุบโตเคยได้เป็นกำลังของเมืองนั้น, และเป็นกำลังอันถาวร; ประเทศฟูบและประเทศลูบีมก็ได้เป็นผู้ช่วยเหลือของนครนั้นด้วย. 10 ถึงกระนั้นก็ดี, นครนั้นยังต้องถูกกวาดเอาไปเป็นชะเลย; ลูกเด็กเล็กแดงถูกจับฟาดหัวแหลกเหลวตามแพร่งถนนต่างๆ; พวกเจ้านายก็ถูกแบ่งว่าเป็นของใครด้วยการจับฉลาก, และคนสำคัญๆ ก็ถูกล่ามโซ่เอาไปเป็นพวง. 11 นครนีนะเว, เจ้าก็จะซึมเซอะไปเช่นเดียวกันนั้นแหละ; เจ้าจะหมดสติมัวหาที่พึ่งเพื่อให้พ้นจากศัตรูเท่านั้น. 12 บรรดาป้อมอันมั่นคงของเจ้าก็เปรียบได้กับต้นมะเดื่อเทศอันมีผลแรกสุกในฤดูเมื่อมันถูกเขย่า เข้าผลไม้ก็ตกลงเข้าปากของผู้กิน. 13 ดูเถอะ, พลเมืองที่อยู่ท่ามกลางเจ้าก็กลายเป็นผู้หญิงไปหมด, ประตูทางเข้าประเทศของเจ้าก็เปิดกว้างไว้รับศัตรู, ด้วยไฟได้เผาดานประตูให้พินาศไปหมดแล้ว 14 จงขังน้ำไว้กินสำหรับเวลาที่ข้าศึกมาล้อมเมือง; จงซ่อมแซมป้อมปราการไว้ให้เข้มแข็ง; จงไปขนดินมาทำอิฐ, ไปย่ำปูนให้ผสมเข้ากัน; และไปขนเอาแม่พิมพ์อิฐมา. 15 ขณะนั้นไฟก็มาไหม้เจ้า, ดาบก็มาฟาดฟันเจ้า; มันจะทำลายเจ้าเสียเช่นเดียวกับตัวด้วงทำลายพืช, จงเพาะพลเมืองของเจ้าให้มากมายดุจดังจำนวนตัวด้วงนั้น, จงเพาะพลเมืองของเจ้าให้มากมายดุจดังจำนวนตัวตั๊กแตน. 16 จงเพาะพ่อค้าให้มากมายเท่ากับจำนวนดาวในท้องฟ้า; ต่อมาตัวด้วงก็ลอกคราบแผ่ปีกบินไปเสียฉันใด. 17 บรรดาเจ้าใหญ่นายโตของเจ้าก็เปรียบเหมือนตั๊กแตน, และบรรดาแม่ทัพนายกองของเจ้าก็เปรียบเหมือนฝูงตั๊กแตนนี่แหละ, ซึ่งมั่วสุมอยู่ตามรั้วไม้หนามในยามหนาวของวัน, แต่ครั้นดวงอาทิตย์ขึ้นต่างก็บินหายไปเสียฉันนั้น; และที่ๆ มันพักอาศัยอยู่นั้นก็ไม่รู้ว่ามันหายไปเสียไหน 18 โอ้กษัตริย์แห่งประเทศอาซูเรีย, เมษบาลทั้งหลายของท่านก็หลบไหลไปหมดแล้ว; ข้าราชการทั้งปวงของท่านต่างก็นอนแผ่; ประชาราษฎร์ของท่านกระจัดกระจายไปตามภูเขาทั่วไป, และไม่มีใครสามารถที่จะต้อนเขาให้มารวมเป็นพวกเป็นหมู่ได้. 19 อาการเจ็บของท่านครั้งนี้ไม่มีอะไรจะรักษาได้; แผลของท่านก็สาหัสยิ่งนัก; ใครๆ ที่ได้ยินกิตติศัพท์ของท่านก็พากันตบมือเย้ยหยัน; ด้วยว่าใครเล่าที่ไม่ได้ถูกท่านทำร้ายเป็นเนืองนิตย์? |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society