มาระโก 8 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940ขนมปังเจ็ดอันกับปลาเล็กๆ 1 คราวนั้นประชาชนมาประชุมกันมากมายอีก, และไม่มีอาหารกิน. พระเยซูจึงเรียกเหล่าสาวกตรัสแก่เขาว่า, 2 “เรามีใจเมตตาคนเหล่านี้, เพราะเขาค้างอยู่กับเราได้สามวันแล้ว, และเดี๋ยวนี้เขาจึงไม่มีอะไรกิน. 3 ถ้าเราจะให้เขากลับไปบ้านเมื่อยังอดอาหารอยู่, เขาจะหิวโหยอิดโรยตามทาง, เพราะว่าลางคนมาแต่ไกล” 4 เหล่าสาวกทูลพระองค์ว่า, “ในป่าอย่างนี้จะหาซื้ออาหารให้เขากินอิ่มที่ไหนได้?” 5 พระองค์ตรัสถามเขาว่า, “พวกท่านมีขนมปังกี่อัน?” เขาทูลว่า, “มีเจ็ดอัน.” 6 พระองค์จึงสั่งประชาชนให้นั่งลงที่ดิน, แล้วทรงรับเอาขนมปังเจ็ดอันนั้นโมทนาพระคุณ, เมื่อหักแล้วจึงส่งให้เหล่าสาวกให้เขาแจก, เหล่าสาวกจึงแจกให้ประชาชน 7 และเขามีปลาเล็กๆ อยู่บ้าง, พระองค์จึงขอพร, แล้วสั่งเหล่าสาวกให้เอาปลานั้นแจกด้วย. 8 คนทั้งปวงได้กินจนอิ่ม, และเศษอาหารที่เหลือนั้นเขาเก็บได้เต็มเจ็ดกระบุงใหญ่. 9 คนที่กินนั้นประมาณสี่พันคน. แล้วพระองค์ตรัสสั่งให้เขาไป. 10 ในทันใดนั้นพระองค์จึงเสด็จลงเรือกันเหล่าสาวกเข้าไปในแขวงเมืองดาลมะนุธา พวกฟาริซายปรารถนาจะเห็นนิมิตต์ 11 พวกฟาริซายออกมาซักถามพระองค์ ปรารถนาจะเห็นนิมิตต์ในท้องฟ้า หมายจะทดลองพระองค์. 12 พระองค์ทรงถอนพระทัยแล้วตรัสว่า, “คนยุคนี้แสวงหานิมิตต์ทำไม? เราว่าแก่เจ้าทั้งหลายตามจริงว่า, จะไม่โปรดให้มีนิมิตต์แก่คนยุคนี้.” 13 แล้วพระองค์เสด็จไปจากเขาและลงเรือข้ามฟากไปอีก 14 ฝ่ายเหล่าสาวกลืมเอาขนมปังไป, และในเรือเขามีขนมปังอยู่อันเดียวเท่านั้น. 15 ฝ่ายพระองค์ทรงกำชับเหล่าสาวกว่า, “จงสังเกตและระวังเชื้อของพวกฟาริซายและเชื้อของเฮโรดให้ดี.” 16 เหล่าสาวกจึงพูดกันและกันว่า, “เห็นจะเป็นเพราะเราไม่มีขนมปัง.” 17 เมื่อพระเยซูทรงทราบจึงตรัสแก่เขาว่า, “เหตุไฉนพวกท่านจึงพูดกันและกันถึงเรื่องไม่มีขนมปัง? ท่านยังไม่รู้และยังไม่เข้าใจอีกหรือ ใจของท่านยังแข็งกะด้างหรือ 18 มีตาแล้วยังไม่เห็นหรือ มีหูแล้วยังไม่ได้ยินหรือ ท่านทั้งหลายจำไม่ได้หรือ 19 เมื่อเราหักขนมปังห้าอันให้แก่คนห้าพันคนนั้น, ท่านทั้งหลายเก็บอาหารที่เหลือนั้นได้กี่กะบุง?” เขาทูลตอบว่า, “ได้สิบสองกะบุงใหญ่.” 20 “เมื่อเราแจกขนมปังเจ็ดอันให้แก่คนสี่พันคนนั้น, ท่านทั้งหลายเก็บอาหารที่เหลือนั้นได้กี่กะบุงใหญ่?” เขาทูลตอบว่า, “ได้เจ็ดกะบุงใหญ่” 21 พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “พวกท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ” 22 พระองค์กับสาวกจึงไปยังเมืองเบธซายะดา. เขาพาคนตาบอดคนหนึ่งมาหาพระองค์, ทูลอ้อนวอนขอพระองค์ให้โปรดถูกต้องคนนั้น. 23 พระองค์ได้จูงมือคนตาบอดพาออกไปนอกหมู่บ้านเมื่อได้ทรงบ้วนน้ำลายลงที่ตาคนนั้น, และวางพระหัตถ์บนเขาแล้ว, พระองค์จึงตรัสถามว่า, “เจ้าเห็นสิ่งใดบ้างหรือไม่?” 24 คนนั้นเงยหน้าดูแล้วทูลว่า, “ข้าพเจ้าแลเห็นคนเหมือนต้นไม้เดินไปเดินมา.” 25 พระองค์จึงวางพระหัตถ์บนตาเขาอีก, แล้วเขาก็เพ่งดู. และตาก็หายเป็นปกติแลเห็นสิ่งทั้งหลายได้ชัด. 26 พระองค์จึงตรัสสั่งคนนั้นให้กลับุตรึงไปยังบ้านของตน แล้วกำชับว่า, “อย่าเข้าไปในหมู่บ้านนั้นเลย.” เปโตรว่า “พระเยซูเป็นพระคริสต์” 27 พระเยซูได้เสด็จกับเหล่าสาวกออกไปยังหมู่บ้านแขวงเมืองกายซาไรอาฟิลิปปอย เมื่ออยู่ตามทางนั้นพระองค์ตรัสถามเหล่าสาวกว่า, “คนทั้งหลายพูดกันว่าเราเป็นผู้ใด?” 28 เขาทูลตอบว่า, “เขาว่าเป็นโยฮันบัพติศโต, แต่บางคนว่าเป็นเอลียา, และบางคนว่าเป็นคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์.” 29 พระองค์จึงตรัสถามเขาว่า. “ฝ่ายพวกท่านนี้ว่าเราเป็นผู้ใดเล่า?” เปโตรทูลตอบว่า. “พระองค์เป็นพระคริสต์.” 30 แล้วพระองค์ทรงกำชับห้ามเหล่าสาวกไม่ให้เขาบอกผู้ใดให้รู้ 31 แต่นั้นมาพระองค์กล่าวสอนเหล่าสาวกว่า, บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ, และผู้เฒ่าผู้แก่, พวกปุโรหิต, และพวกอาลักษณ์จะละทิ้งและฆ่าพระองค์เสีย, แล้วเมื่อล่วงไปได้สามวันพระองค์จะเป็นขึ้นมาใหม่. 32 คำเหล่านี้พระองค์ตรัสโดยเปิดเผย. ฝ่ายเปโตรเอามือจับพระองค์แล้วทูลห้ามพระองค์. 33 พระองค์จึงทันพระพักตรดูเหล่าสาวกแล้วติเปโตรว่า. “อ้ายซาตาน, จงถอยไปข้างหลังเรา, เพราะเจ้ามิได้คิดตามพระดำริของพระเจ้า, แต่ตามความคิดของมนุษย์.” 34 พระองค์จึงร้องเรียกประชาชนกับเหล่าสาวกให้เข้ามา, แล้วตรัสแก่เขาว่า, “ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา, ให้ผู้นั้นเอาชะนะตัวเอง, และรับกางเขนของตนแบกตามเรามา. 35 เพราะว่าผู้ใดจะใคร่เอาชีวิตของตนรอด, ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่กิตติคุณของเรา, ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด. 36 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก, แต่ต้องเสียชีวิตของตน, ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร? 37 เพราะใครจะเอาอะไรมาแลกกับชีวิตของตน? 38 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดมีความอายเพราะเราและถ้อยคำของเรา ในชั่วอายุนี้ซึ่งประกอบด้วยการชั่วคิดคดทรยศ, บุตรมนุษย์ก็จะมีความอายเพราะผู้นั้น, ในเวลาเมื่อพระองค์จะเสด็จมาด้วยสง่าราศีแห่งพระบิดาและด้วยเหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society