มาระโก 6 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายพระองค์ได้เสด็จจากที่นั่นไปยังเมืองของพระองค์, และเหล่าสาวกก็ตามพระองค์ไป. 2 เมื่อถึงวันซะบาโตแล้วพระองค์ทรงสั่งสอนในธรรมศาลา, และคนเป็นอันมากเมื่อได้ยินพระองค์ก็ประหลาดใจนักพูดกันว่า, “สิ่งเหล่านี้เกิดมาแต่ไหน, สติปัญญาที่ได้ประทานแก่ผู้นี้เป็นปัญญาอย่างใด, จึงทำการอิทธิฤทธิ์อย่างนี้สำเร็จได้ด้วยมือของเขา? 3 คนนี้เป็นช่างไม้บุตรนางมาเรียมิใช่หรือ ยาโกโบ, โยเซ, ยูดา, และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวของเขาอยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ” เขาทั้งหลายจึงพากันแหนึ่งใจในพระองค์. 4 ฝ่ายพระเยซูตรัสแก่เขาว่า, “ศาสดาพยากรณ์ไม่ขาดความนับถือเว้นแต่ในเมืองของตน, ท่ามกลางญาติพี่น้องของตน, และในเรือนของตน.’ 5 พระองค์จะกระทำการอิทธิฤทธิ์ที่นั่นหามิได้, เว้นแต่ได้วางพระหัตถ์ถูกต้องคนเจ็บลางคนให้หายโรค. 6 พระองค์ก็ประหลาดพระทัยเพราะคนเหล่านั้นไม่ใคร่จะเชื่อ. แล้วพระองค์จึงเสด็จไปเทศนาสั่งสอนทั่วบ้านทั่วเมือง ทรงใช้สาวกไปสั่งสอน 7 พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมา, แล้วใช้เขาให้ไปสั่งสอนพวกละสองคน, ทรงโปรดให้เขามีอำนาจขับผีโสโครกออกเสียได้, 8 และตรัสกำชับเขาไม่ให้เอาอะไรไปใช้ตามทางเว้นแต่ไม้เท้าสิ่งเดียว, ห้ามมิให้เอาอาหารหรือย่าม, หรือสตางค์ใส่ไถ้ไป, 9 แต่สวมรองเท้าและเสื้อตัวเดียวได้. 10 แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า, “ถ้าไปแห่งใด, เมื่อเข้าอาศัยในเรือนไหน, ก็อาศัยในเรือนนั้นกว่าจะไปจากที่นั่น. 11 และถ้าแห่งไหนไม่ต้อนรับไม่ฟังท่าน. เมื่อจะไปจากที่นั่น จงสะบัดผงคลีใต้ฝ่าเท้าของท่านออกเป็นพะยานต่อเขา.” 12 ฝ่ายเหล่าสาวกก็ออกไปเทศนาประกาศให้กลับใจเสียใหม่. 13 เขาได้ขับผีให้ออกเสียหลายผี, และได้เอาน้ำมันทาคนเจ็บให้หายโรคหลายคน โยฮันบัพติศโตถูกตัดศีรษะ 14 ฝ่ายกษัตริย์เฮโรดได้ยินถึงพระองค์, เพราะว่าชื่อเสียงของพระองค์ได้เลื่องลือไป. บางคนพูดว่า, “โยฮันบัพติศโตเป็นขึ้นมาจากตายแล้ว, เหตุฉะนั้นจึงทำการอิทธิฤทธิ์ได้.” 15 แต่คนอื่นๆ ว่าเป็นเอลียา, และคนอื่นๆ ว่าเป็นศาสดาพยากรณ์คนหนึ่ง, หรือเหมือนคนหนึ่งในพวกศาสดาพยากรณ์. 16 ฝ่ายเฮโรดเมื่อทรงฟังแล้วจึงตรัสว่า, “คือโยฮันนั้นเองที่เราได้ตัดศีรษะเสีย, ท่านได้เป็นขึ้นมาจากตาย.” 17 ด้วยว่ากษัตริย์เฮโรดได้ใช้คนไปจับโยฮันล่ามโซ่ขังไว้ในคุก, เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียภรรยาฟีลิปน้องชาย, ด้วยเฮโรดได้รับนางนั้นเป็นภรรยาของตน. 18 เพราะโยฮันได้เคยทูลเฮโรดว่า. “ท่านไม่ควรรับภรรยาของน้องมาเป็นภรรยาของตน.” 19 นางเฮโรเดียจึงผูกพยาบาทโยฮันและปรารถนาจะฆ่าเสีย แต่ฆ่าไม่ได้, 20 เพราะเฮโรดยำเกรงโยฮันด้วยรู้ว่าท่านเป็นคนสัตย์ซื่อและบริสุทธิ์, เฮโรดจึงได้ป้องกันไว้. เมื่อเฮโรดได้ยินคำสั่งสอนของท่านก็ทำให้ฉงนสนเท่ห์นัก, แต่ก็ยังยินดีอยากฟัง. 21 ครั้นอยู่มาวันหนึ่งเป็นโอกาสดี คือเป็นวันกำเนิดของเฮโรด, เฮโรดให้จัดการเลี้ยงขุนนางกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และคนสำคัญๆ ทั้งปวงในแขวงฆาลิลาย. 22 เมื่อบุตรีของนางเฮโรเดียเข้ามาเต้นรำทำให้กษัตริย์เฮโรดและขุนนางทั้งปวงซึ่งนั่งรับประทานอยู่ด้วยกันนั้นชอบใจ, กษัตริย์จึงตรัสกับหญิงสาวนั้นว่า, “เจ้าจะขอสิ่งใดเราจะให้สิ่งนั้น.” 23 และกษัตริย์จึงปฏิญาณตัวไว้ว่า, “เจ้าจะขอสิ่งใดจากเรา, เราจะให้สิ่งนั้นจนถึงกิ่งราชสมบัติ.” 24 หญิงสาวนั้นจึงออกไปถามมารดาว่า, “ฉันจะขอสิ่งใดดี?” มารดาจึงบอกว่า, “จงขอศีรษะโยฮันบัพติศโตเถิด.” 25 ในทันใดนั้นหญิงสาวก็รีบเข้าไปเฝ้ากษัตริย์ทูลว่า, “หม่อมฉันขอประทานศีรษะโยฮันบัพติศโตใส่ถาดเข้ามาให้หม่อมฉันเดี๋ยวนี้.” 26 กษัตริย์เป็นทุกข์นัก, แต่เพราะเหตุได้ปฏิญาณตัวไว้ และเพราะเห็นแก่หน้าคนทั้งปวงซึ่งนั่งอยู่พร้อมกันนั้นก็ขัดไม่ได้. 27 ในขณะนั้นกษัตริย์จึงสั่งเพ็ชฌฆาตให้ไปตัดศีรษะโยฮันมา, เพ็ชฌฆาตก็ไปตัดศีรษะโยฮันในคุก 28 ใส่ถาดมาให้แก่หญิงสาวนั้น, หญิงสาวนั้นก็เอาไปให้แก่มารดา. 29 เมื่อศิษย์ของโยฮันรู้เหตุแล้ว ก็พากันมายกศพของท่านไปฝังไว้ในอุโมงค์ ขนมปังห้าอันกับปลาสองตัว 30 ฝ่ายอัครสาวกมาหาพระเยซูพร้อมกัน, และได้ทูลถึงบรรดาการซึ่งเขาได้กระทำและได้สั่งสอน. 31 แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า, “ท่านทั้งหลายจงไปหาที่สงัดหยุดพักหายเหนื่อยสักหน่อยหนึ่ง, “เพราะว่ามีคนไปมาเป็นอันมากจนไม่มีเวลาว่างจะรับประทานอาหารได้. 32 พระองค์จึงเสด็จลงเรือกับสาวกพวกเดียวไปยังที่สงัด. 33 เมื่อคนทั้งปวงได้เห็นพระองค์กับสาวกไปนั้น, มีหลายคนรู้จักพระองค์. จึงพากันออกจากบ้านเมืองทั้งปวงไปถึงก่อน. 34 ครั้นพระเยซูเสด็จมาถึงแล้ว, ก็ได้เห็นประชาชนหมู่ใหญ่, พระองค์ก็ทรงพระกรุณาแก่เขา, เพราะว่าเขาเป็นเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยงพระองค์จึงสั่งสอนเขาเป็นหลายข้อหลายประการ. 35 เมื่อเวลาล่วงไปเกือบจะหมดวันแล้วเหล่าสาวกมาทูลว่า, “ที่นี่กันดารอาหารนัก, และบัดนี้เวลาก็ล่วงไปเกือบจะหมดวันแล้ว, 36 ขอพระองค์ให้ประชาชนไปเสียเถิด, เพื่อเขาจะได้ไปซื้ออาหารกินตามบ้านไร่บ้านนาที่อยู่แถบนี้.” 37 แต่พระองค์ตรัสตอบแก่เหล่าสาวกว่า, “พวกท่านจงเลี้ยงเขาเถิด.” เขาทูลพระองค์ว่า, “จะให้พวกข้าพเจ้าไปซื้ออาหารสักสองร้อยบาทให้เขากินหรือ” 38 พระองค์ตรัสถามเขาว่า, “พวกท่านมีขนมปังอยู่กี่อัน? ไปดูเถิด.” เมื่อรู้แล้วเขาทูลว่า มีขนมปังห้าอันกับปลาสองตัว. 39 พระองค์จึงสั่งเหล่าสาวกให้จัดคนทั้งปวงให้นั่งรวมกันที่หญ้าสดเป็นหมู่ๆ. 40 ประชาชนก็ได้นั่งรวมกันเป็นหมู่ๆ, หมู่ละร้อยบ้าง, ห้าสิบบ้าง. 41 พระองค์จึงทรงรับขนมปังห้าอันกับปลาสองตัว, เงยพระพักตรดูท้องฟ้าขอพร, แล้วหักขนมปังนั้นส่งให้เหล่าสาวกให้เขาแจกแก่คนทั้งปวง, และปลาสองตัวนั้น พระองค์ก็ทรงแบ่งให้ทั่วกันด้วย. 42 เขาก็กินอิ่มทุกคน. 43 ฝ่ายเศษขนมปังและปลาที่เหลือนั้น เขาเก็บได้สิบสองกะบุงเต็ม. 44 จำนวนคนที่กินขนมปังนั้นนับแต่ผู้ชายประมาณได้ห้าพันคน พระองค์เสด็จดำเนินบนน้ำทะเล 45 ในทันใดนั้นเมื่อพระองค์กำลังให้ประชาชนไป, พระองค์ได้ให้เหล่าสาวกลงเรือข้ามไปยังเมืองเบธซายะดาก่อน. เมื่อให้ประชาชนไปหมดแล้ว, 46 พระองค์ได้เสด็จขึ้นภูเขาเพื่อจะอธิษฐานที่นั่น. 47 เมื่อค่ำลงแล้วเรือของเหล่าสาวกอยู่กลางทะเล ส่วนพระองค์อยู่บนฝั่งแต่ผู้เดียว. 48 แล้วพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเหล่าสาวกตีกระเชียงลำบากเพราะทวนลมอยู่ ครั้นเวลาสามยามเศษพระองค์จึงเสด็จดำเนินบนน้ำทะเลไปหาเหล่าสาวก. และพระองค์ทรงตั้งพระทัยว่าจะดำเนินพ้นเขาไป, 49 แต่เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินบนทะเลเขาสำคัญว่าผี, แล้วพากันร้องอึงไป 50 เพราะว่าทุกคนเห็นแล้วก็ตกใจ. แต่ในทันใดนั้นพระองค์ออกพระโอษฐ์ตรัสแก่เขาว่า, “จงชื่นใจเถิด, คือเราเอง, อย่ากลัวเลย.” 51 พระองค์จึงเสด็จขึ้นไปหาเขาบนเรือ, แล้วลมก็สงบเงียบลง. 52 เหล่าสาวกก็ประหลาดอัศจรรย์ใจเหลือประมาณ, เพราะว่าเรื่องขนมปังนั้นเขายังไม่เข้าใจ, แต่ใจเขายังแข็งกะด้างอยู่ 53 ครั้นข้ามฟากไปแล้ว, เขาจอดเรือที่แขวงเฆ็นเนซาเร็ต. 54 เมื่อขึ้นจากเรือแล้วคนทั้งปวงก็รู้จักพระองค์กันที, 55 และเขารีบไปทั่วตลอดแว่นแคว้นล้อมรอบ เอาคนเจ็บใส่เตียงหามมายังตำบลที่เขาได้ยินข่าวว่าพระองค์อยู่นั้น. 56 แล้วพระองค์เสด็จไปในบ้านเมืองไร่นาใดๆ, เขาก็เอาคนเจ็บมาวางตามถนนหนทาง, ทูลขอพระองค์โปรดให้คนเจ็บถูกต้องแต่ชายเสื้อของพระองค์, และผู้ใดได้ถูกต้องแล้วก็หายโรคสิ้นทุกคน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society