มาระโก 4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940คำอุปมาเรื่องผู้หว่านพืช 1 แล้วพระองค์ทรงกล่าวประกาศสั่งสอนที่ฝั่งทะเลอีก. ประชาชนเป็นอันมากมาประชุมกัน, เหตุฉะนั้นพระองค์จึงได้เสด็จลงไปประทับ้านเรือที่ทะเล, และประชาชนอยู่บนฝั่ง. 2 พระองค์จึงตรัสสั่งสอนเขาหลายประการเป็นคำอุปมา. ในคำสั่งสอนนั้นพระองค์ตรัสแก่เขาว่า, 3 “จงฟังเถิด, ยังมีผู้หว่านคนหนึ่งออกไปหว่านพืช, 4 และเมื่อกำลังหว่านอยู่นั้น, พืชก็ตกลงริมหนทางบ้าง, และนกก็มากินเสีย. 5 บ้างก็ตกที่มีหินมากดินน้อย, จึงงอกขึ้นโดยเร็วเพราะไม่มีดินลึก 6 แต่เมื่อแดดออกร้อนก็เหี่ยวแห้งไป, เพราะรากไม่มี. 7 บ้างก็ตกกลางหนาม, หนามก็งอกขึ้นปกคลุมเสีย, จึงไม่เกิดผล. 8 บ้างก็ตกที่ดินดี, แล้วงอกงามจำเริญขึ้นเกิดผล, สามสิบเท่าบ้าง, หกสิบเท่าบ้าง, ร้อยเท่าบ้าง.” 9 แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า, “ใครมีหูจงฟังเถิด.” 10 เมื่อว่างคนแล้ว, คนที่อยู่รอบพระองค์กับสาวกสิบสองคนได้ทูลถามพระองค์ถึงคำอุปมานั้น. 11 พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “จะให้ท่านทั้งหลายรู้ข้อความลับลึกแห่งแผ่นดินของพระเจ้า, แต่ฝ่ายคนนอกนั้นบรรดาข้อความเหล่านี้จะแจ้งให้เป็นคำอุปมาทั้งสิ้น, 12 เพื่อเมื่อเขาแลดูด้วยตาจะเห็นแต่จะไม่สังเกต, จะได้ยินกับหูแต่จะไม่เข้าใจ, เกลือกว่าเขากลับใจเสียใหม่, และความผิดของเขาจะได้ยกเสีย.” 13 พระองค์ตรัสแก่เขาว่า, “คำอุปมานั้นพวกท่านยังไม่รู้หรือถ้ากระนั้นท่านทั้งหลายจะเข้าใจคำอุปมาทั้งปวงอย่างไรได้? 14 ผู้หว่านนั้นก็ได้หว่านพระวจนะของพระเจ้า. 15 พืชซึ่งตกริมหนทางนั้นได้แก่พระวจนะที่หว่านแล้ว, และเมื่อบุคคลได้ฟัง, ในทันใดนั้นซาตานก็มาชิงเอาพระวจนะซึ่งหว่านถูกใจเขานั้นไปเสีย. 16 พืชที่ตกที่ดินมีหินมากดินน้อยนั้นได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้า. และในทันใดก็รับด้วยความชื่นชมยินดี, 17 แต่ว่าไม่มีรากในตัวจึงได้จำเริญอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง, ครั้นเกิดโพยภัยและการเคี่ยวเข็ญเพราะพระวจนะนั้นเขาจึงสะดุดกะดากไป. 18 พืชซึ่งตกที่กลางหนามนั้นได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะของพระเจ้า, 19 แล้วความปรารภปรารมภ์ด้วยโลกนี้และการล่อลวงแห่งทรัพย์สมบัติและความโลภในสิ่งอื่นๆ ก็ปกคลุมพระวจนะนั้นไว้, จึงไม่เกิดผล. 20 พืชซึ่งหว่านตกในดินดีนั้นได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้า, และรับไว้ในใจ, จึงเกิดผลสามสิบเท่าบ้าง, หกสิบเท่าบ้าง, ร้อยเท่าบ้าง.” ตะเกียงสำหรับตั้งไว้บนเชิงตะเกียง 21 แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า, “เขาเอาตะเกียงมาสำหรับตั้งไว้ใต้ถังและใต้เตียงนอนหรือ, และมิใช่สำหรับตั้งไว้บนเชิงตะเกียงหรือ 22 เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนไว้ซึ่งจะไม่ปรากฏแจ้ง, และไม่มีสิ่งใดที่บดบังไว้ซึ่งจะไม่ต้องแพร่งพราย. 23 ถ้าใครมีหูจงฟังเถิด.” 24 พระองค์ตรัสแก่เขาว่า, “จะฟังอะไรก็จงระวังให้ดี, ท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด, เขาจะตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น, ทั้งจะเพิ่มเติมให้อีก. 25 ด้วยว่าผู้ใดมีอยู่แล้วจะเพิ่มเติมให้ผู้นั้นอีก, แต่ผู้ใดไม่มี, แม้ว่าซึ่งเขามีอยู่นั้นจะต้องเอาไปจากเขา.” 26 พระองค์ตรัสว่า, “แผ่นดินของพระเจ้าอุปมาเหมือนเช่นนี้, คือคนหนึ่งหว่านพืชลงในดิน, 27 แล้วกลางคืนก็นอนหลับ และกลางวันก็ตื่นขึ้น, ฝ่ายพืชนั้นจะงอกจำเริญขึ้นอย่างไรเขาก็ไม่รู้, 28 เพราะแผ่นดินเองทำให้พืชงอกจำเริญขึ้นเป็นลำต้นก่อน, ภายหลังก็ออกรวง, แล้วก็มีเมล็ดข้าวเต็มในรวงนั้น. 29 ครั้นสุกแล้วเขาก็ใช้คนไปเกี่ยวเก็บ, เพราะว่าถึงฤดูเกี่ยวแล้ว.” 30 พระองค์ตรัสว่า, “แผ่นดินของพระเจ้าเป็นเหมือนสิ่งใด, หรือจะสำแดงด้วยคำอุปมาอย่างไร? 31 ก็อุปมาเหมือนพันธุ์ผักกาดเมล็ดหนึ่ง, เวลาเพาะลงในดินนั้นก็เล็กกว่าเมล็ดทั้งปวงทั่วทั้งแผ่นดิน, 32 แต่เมื่อเพาะแล้วจึงงอกขึ้นจำเริญโตใหญ่กว่าผักทั้งปวง, และแตกกิ่งก้านใหญ่พอให้นกในอากาศมาอาศัยในร่มนั้นได้.” 33 พระองค์ได้ตรัสสั่งสอนเขาเป็นคำอุปมาอย่างนั้นเป็นหลายประการตมที่เขาจะฟังเข้าใจได้, 34 และนอกจากคำเปรียบ พระองค์มิได้ตรัสแก่เขาเลย. แต่เมื่อว่างคน พระองค์จึงทรงอธิบายสิ่งสารพัตรแก่เหล่าสาวกให้แจ้ง ทรงห้ามลมและทะเล 35 เย็นวันนั้นพระองค์ใต้ตรัสแก่สาวกทั้งหลายว่า, “ให้พวกเราข้ามไปฝั่งฟากข้างโน้นเถิด.” 36 เมื่อทรงลาประชาชนแล้ว, เขาจึงเชิญพระองค์เสด็จไปในเรือที่พระองค์ประทับอยู่นั้น, และมีเรืออื่นหลายลำไปด้วย. 37 และลมพายุใหญ่ได้บังเกิดขึ้น, และคลื่นก็ชัดเข้าไปในเรือจนจวนจะเต็มอยู่แล้ว. 38 ฝ่ายพระองค์บรรทมหนุนหมอนหลับอยู่ที่ท้ายเรือ. เหล่าสาวกจึงมาปลูกพระองค์ทูลว่า, “อาจารย์เจ้าข้า, ข้าพเจ้าทั้งหลายจวนจะพินาศอยู่แล้ว, พระองค์ไม่ทรงเป็นห่วงบ้างหรือ” 39 พระองค์จึงทรงลุกขึ้นห้ามลมและตรัสแก่ทะเลว่า, “จงสงบเงียบเถิด.” แล้วลมก็หยุด, คลื่นก็สงบเงียบ. 40 พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “ทำไมจึงขลาดดังนี้, ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ” 41 ฝ่ายเขาก็เกรงกลัวนักหนาและพูดกันว่า, “ท่านนี้เป็นผู้ใด, ลมและทะเลจึงเชื่อฟังท่าน?” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society