มาระโก 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายพระองค์ได้เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาอีก, และที่นั่นมีคนหนึ่งมือลีบ. 2 คนทั้งหลายคอยดูว่า พระองค์จะบันดาลให้คนนั้นหายโรคในวันซะบาโตหรือไม่, เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์. 3 พระองค์ตรัสแก่คนมือลีบว่า, “จงยืนขึ้นเถิด.” 4 พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า, “ในวันซะบาโตควรจะทำการดีหรือๆ ควรจะทำการชั่ว, จะช่วยชีวิตดีหรือๆ จะผลาญชีวิตเสียดี?” ฝ่ายคนทั้งปวงก็นิ่งอยู่. 5 เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรดูรอบด้วยพระพิโรธ, มีพระทัยเป็นทุกข์เพราะใจเขาแข็งกะด้างนัก. พระองค์จึงตรัสแก่คนมือลีบนั้นว่า, “จงเหยียดมือออกเถิด.” เขาก็เหยียดออก, และมือนั้นก็หายเป็นปกติ. 6 พวกฟาริซายจึงออกไปปรึกษากับพรรคพวกของเฮโรดว่า จะทำอย่างไรจึงจะฆ่าคนนี้ได้ 7 ฝ่ายพระเยซูกับพวกศิษย์ของพระองค์ จึงออกจากที่นั่นไปยังทะเล และคนเป็นอันมากได้ตามพระองค์ไปจากฆาลิลาย. 8 เมื่อประชาชนได้ยินถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้น. เขาจึงพากันมาจากเมืองยูดาย, กรุงยะรูซาเลม, เมืองอิดูมายะ, แม่นํ้ายาระเดนฟากข้างโน้น. และแว่นแคว้นเมืองตุโรและซีโดนหาพระองค์. 9 พระองค์จึงตรัสสั่งพวกศิษย์ให้มีเรือคอยรับพระองค์. เพื่อมิให้ประชาชนเบียดเสียดพระองค์. 10 ด้วยว่าพระองค์ได้รักษาคนเป็นอันมากให้หายโรค. จนบรรดาผู้ที่มีโรคต่างๆ เบียดเสียดกันเข้ามา เพื่อจะได้ถูกต้องพระองค์. 11 และผีโสโครกที่สิงอยู่ในคนหลายคน. เมื่อได้เห็นพระองค์ก็หมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องอึงว่า. “ท่านเป็นบุตรพระเจ้า.” 12 ฝ่ายพระองค์จึงทรงกำชับห้ามมันมิให้ประกาศพระนามของพระองค์ให้ปรากฏไป ทรงตั้งศิษย์สิบสองคน 13 พระองค์จึงเสด็จขึ้นภูเขาแห่งหนึ่ง. และพอพระทัยจะเรียกผู้ใดพระองค์ก็ทรงเรียกผู้นั้น. แล้วเขาได้มาหาพระองค์. 14 พระองค์จึงทรงตั้งศิษย์สิบสองคนไว้ให้อยู่กับพระองค์, เพื่อจะใช้เขาไปประกาศสั่งสอน. 15 และให้มีอำนาจขับผีออกได้ 16 และซีโมนนั้นพระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า เปโตร. 17 และยาโกโบบุตรเซเบดายกับโยฮันน้องของยาโกโบ. ทั้งสองคนนี้พระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า โบอะเนระเฆ แปลว่า ลูกฟ้าร้อง, 18 อันดะเรอา, ฟีลิบ, บาร์โธโลมาย. มัดธาย, โธมา, ยาโกโบบุตรอาละฟาย, ธาดาย, ซีโมนพวกถืออิสสระของคะนาอัน, 19 และยูดาอิศการิโอดที่ได้มอบพระองค์นั้น พระองค์จึงเข้าไปในเรือน. แผ่นดินใดๆ แตกแยกกันก็ตั้งอยู่ไม่ได้ 20 และประชาชนก็มาประชุมกันอีก จนจะรับประทานอาหารไม่ได้. 21 เมื่อวงศ์ญาติของพระองค์ได้ยินเหตุการณ์นั้น. เขาก็ออกไปเพื่อจะจับพระองค์ไว้, ด้วยเขาว่าพระองค์เสียจริตแล้ว. 22 พวกอาลักษณ์ซึ่งได้ลงมาจากกรุงยะรูซาเลม ได้กล่าวว่า “ผู้นี้มีเบละซะบูลสิงอยู่, และที่เขาขับผีออกได้ก็เพราะใช้อำนาจนายผีนั้น.” 23 ฝ่ายพระองค์จึงเรียกคนเหล่านั้นมาตรัสแก่เขาเป็นคำเปรียบว่า, “ซาตานจะขับซาตานให้ออกอย่างไรได้? 24 ถ้าแผ่นดินใดๆ เกิดแตกแยกกันแล้ว. แผ่นดินนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้. 25 ถ้าเรือนใดๆ เกิดแตกแยกกันแล้ว. เรือนนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้. 26 และถ้าซาตานจะตั้งตัวต่อสู้กับซาตานเอง, มันก็จะตั้งอยู่ไม่ได้. มีแต่จะเสื่อมศูนย์ไป. 27 ไม่มีผู้ใดอาจเข้าไปปล้นเรือนของคนที่มีกำลังมากได้. เว้นแต่จะจับคนที่มีกำลังมากนั้นมัดไว้เสียก่อน, แล้วจึงจะปล้นทรัพย์ในเรือนนั้นได้ 28 เราบอกท่านทั้งหลายตามจริงว่า, ความผิดทุกอย่างของมนุษย์ทั้งหลายและคำหมิ่นประมาทที่เขากล่าวนั้น จะทรงโปรดยกเสียได้, 29 แต่ผู้ใดจะกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์, จะโปรดยกให้ผู้นั้นไม่ได้เลย, แต่ผู้นั้นเป็นผู้ซึ่งสมควรปรับโทษเป็นนิตย์.” 30 ที่ตรัสอย่างนั้นก็เพราะเขาว่าพระองค์มีผีโสโครก 31 เวลานั้นมารดาและพี่น้องของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก. แล้วใช้คนเข้าไปทูลเรียกพระองค์. 32 และประชาชนกำลังนั่งอยู่รอบพระองค์. เขาจึงทูลพระองค์ว่า, “นี่แน่ะ ท่าน, มารดาและพี่น้องของท่านมาหาท่านคอยอยู่ข้างนอก.” 33 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า, “ใครเป็นมารดาของเราและใครเป็นพี่น้องของเรา?” 34 พระองค์ทรงทอดพระเนตรดูคนที่นั่งล้อมรอบนั้นแล้วตรัสว่า, “นี่คือมารดาและพี่น้องของเรา 35 ด้วยว่าผู้ใดจะประพฤติตามนํ้าพระทัยพระเจ้า, ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society