มีคาห์ 7 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 วิบัติก็เกิดแก่ตัวข้าฯ! เพราะข้าเป็นเหมือนต้นไม้ในคราวที่เขาเก็บผลไม้ฤดูร้อนเสร็จแล้ว, และเป็นเถาองุ่นในคราวอันมีแต่เดนผลองุ่นเหลืออยู่. ไม่มีพวงองุ่นให้ใครกิน; ไม่มีผลมะเดื่อเทศแรกสุกให้กินสมดวงจิตต์ของข้าฯปรารถนา. 2 คนนับถือพระเจ้าศูนย์หายไปจากแผ่นดินโลก, และไม่มีคนซื่อตรงในหมู่ท่ามกลางมนุษย์, ต่างก็ซุ่มคอยจะทำให้เลือดตก; เขาคอยดักพี่น้องของเขาทุกคนด้วยข่าย. 3 มือของเขากระทำการชั่วอย่างทะมัดทะแมง; เจ้านายก็เรียกร้องเอา, และตุลาการก็พร้อมที่จะรับสินบนเสมอ; คนใหญ่คนโตได้สำแดงความประสงค์อันชั่วร้ายออกมาจากดวงจิตต์ของเขา: ต่างคนก็สานประสมเข้าเป็นเช่นนั้น. 4 คนที่ดีที่สุดของเขาก็เปรียบเหมือนอย่างกอระกำ, และคนซื่อตรงที่สุดของเขาก็ร้ายเสียยิ่งกว่ารั้วหนาม, วันที่นายยามของเจ้าคอยอยู่, คือวันแห่งการลงโทษของเจ้ามาถึงแล้ว, เวลานั้นทำให้เกิดกาหลอลหม่านแก่เขา 5 อย่าไว้ใจเพื่อนบ้าน, อย่าเชื่อมิตรสหาย; แม้นแต่ผู้ร่วมนอนแนบทรวงของเจ้า. จงรักษาประตูปากของเจ้าไว้. 6 ด้วย ว่าลูกชายก็ดูถูกพ่อ, ลูกหญิงก็ขึ้นเสียงขัดขืนแม่, ลูกสะใภ้ต่อสู้แม่ผัว; ศัตรูของใครๆ ก็อยู่ร่วมเรือนของเขาเอง 7 แต่ฝ่ายข้าฯ, ข้าฯจะแสวงหาพระยะโฮวาข้าฯคอยท่าพระเจ้าแห่งความรอดของข้าฯ; พระเจ้าของข้าฯจะทรงฟังข้าฯ. 8 เออ, ศัตรูของข้าฯอย่ากระหยิ่มใจเยาะข้าฯไปนักเลย. เมื่อข้าฯล้มลง, ข้าฯก็จะลุกขึ้นอีก; เมื่อข้าฯนั่งในที่มืด, พระยะโฮวาจะไปเป็นแสงสว่างให้ข้าฯ. 9 เพราะข้าฯได้กระทำผิดต่อพระองค์, ข้าฯจะทนรับพระพิโรธของพระยะโฮวา, จนถึงพระองค์จะทรงว่าความต่อข้าฯ, และทรงตัดสินคดีของข้าฯอย่างยุตติธรรม; แล้วพระองค์จะทรงนำข้าฯออกมาให้เห็นแจ้งกระจ่าง, และข้าฯจะเห็นความชอบธรรมของพระองค์ 10 แล้วศัตรูของข้าฯจะเห็นเหตุการณ์นั้น, และจะได้รับความอาย, คือผู้ที่ได้เคยกล่าวแก่ข้าฯว่า, “พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?” ตาของข้าฯจะมองดูเขาอย่างสะใจ. ด้วยว่าเขาจะถูกเหยียบย่ำเช่นกับเลนกลางถนน 11 วันนั้นจะเป็นโอกาสสำหรับสร้างกำแพงเมืองของเจ้า. วันนั้นอาณาเขตต์จะถูกขยายให้ไกลออกไป. 12 ในวันนั้นเขาจะพากันกลับมาหาเจ้าจากประเทศอาซูเรียจากเมืองทั้งหลายของประเทศอายฆุบโต, คือจากประเทศอายฆุบโตจนถึงแม่น้ำนั้น, จากทะเลข้างนี้ถึงทะเลข้างโนน, จากทิวเขานี้ถึงทิวเขาโน้น. 13 แต่แผ่นดินนั้นก็รกร้างว่างเปล่าอยู่, เนื่องจากผลการกระทำผิดของผู้ที่ได้อาศัยอยู่ ณ ที่นั้น. 14 ขอทรงโปรดเลี้ยงรักษาพลเมืองของพระองค์ด้วยไม้คู่พระกรของพระองค์, คือฝูงแกะอันเป็นสมบัติตกทอดของพระองค์, ซึ่งกำลังอยู่ในดินแดนอันเปลี่ยวเปล่า, ในป่าท่ามกลาง สวนอุดม, ขอให้เหล่าแกะของพระองค์อาศัยหากินที่ตำบลเบซานและตำบลฆีละอาด, เหมือนดังในกาลโน้น. 15 ขอพระองค์ทรงสำแดงให้เห็นการมหัศจรรย์ต่างๆ, เหมือนในคราวเมื่อทรงนำเอาเขาออกมาจากประเทศอายฆุบโต. 16 ประชาชาติทั้งหลายจะได้รู้เห็นและจะได้อายเนื่องด้วยพลานุภาพของพวกตน. เขาจะใช้มือปิดปากของเขาไว้, และหูของเขาจะอื้อดับไป. 17 เขาจะเลียฝุ่นเหมือนกับงู; เขาจะสั่นสะทกสะท้านออกมาจากที่ซ่อนมิดชิดเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานแห่งแผ่นดิน. เขาจะออกมายังพระยะโฮวาพระเจ้าของเราด้วยความตระหนกตกใจ, และเขาจะหวาดกลัวต่อพระองค์ยิ่งนัก 18 “ใครเล่าเป็นพระเจ้าเสมอเหมือนกับพระองค์, ผู้ทรงยกโทษโปรดบาป, และทรงมองเลยความผิดบาปของหน่วยเดนเลือกแห่งสมบัติตกทอดของพระองค์? พระองค์ไม่ทรงถือโกรธไว้เสมอไป, เพราะพระองค์ทรงปลื้มพระทัยในความเมตตากรุณา.” 19 พระองค์จะทรงหวลกลับมีพระทัยสงสารเราทั้งหลาย; พระองค์จะทรงเหยียบความผิดบาปของเราไว้ใต้พระบาทของพระองค์. และพระองค์จะทรงโยนบาปผิดของเราลงไปเสียในทะเลลึก. 20 พระองค์จะทรงสำแดงความสัตย์ซื่อให้ประจักษ์แก่ยาโคบ, และสำแดงความเมตตาให้ประจักษ์แก่อับราฮาม, ซึ่งพระองค์ได้ทรงปฏิญาณไว้ต่อบรรพบุรุษของเราในกาลโบราณนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society