Biblia Todo Logo
Bìoball air-loidhne

- Sanasan -

มัทธิว 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940


บุตร​มนุษย์​ยก​ความผิด​ได้

1 ฝ่าย​พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​ลง​เรือ​ข้าม​ฟาก​ไป​ยัง​เมือง​ของ​พระ​องค์.

2 เขา​หาม​คน​ง่อย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​นอน​อยู่​บน​ที่​นอน​มา​หา​พระ​องค์. เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​เห็น​ความ​เชื่อ​ของ​เขา, จึง​ตรัส​แก่​คน​ง่อย​ว่า “ลูก​เอ๋ย, จง​ชื่น​ใจ​เถิด, ความผิด​ของ​เจ้า​ทรง​โปรด​ยก​เสีย​แล้ว.”

3 พวก​อาลักษณ์​บาง​คน​คิด​ใน​ใจ​ว่า, “ผู้​นี้​พูด​หยาบ​ช้า.”

4 ฝ่าย​พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ความคิด​ของ​เขา​จึง​ตรัส​ว่า, “เหตุ​ไฉน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​ความ​ชั่ว​ใน​ใจ​เล่า?

5 ซึ่ง​จะ​ว่า. ‘ความผิด​ของ​เจ้า​ยก​เสีย​แล้ว.’ หรือ​จะ​ว่า. ‘จง​ลุก​ขึ้น​เดิน​ไป​เถิด.’ ข้าง​ไหน​จะ​ง่าย​กว่า​กัน?

6 ที่​กล่าว​ดังนี้​ก็​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รู้​ว่า​บุตร​มนุษย์​มี​อำนาจ​ใน​โลก​ที่​จะ​ยก​ความ​ผิด​ได้.” พระ​องค์​จึง​ตรัส​สั่ง​คน​ง่อย​ว่า, “จง​ลุก​ขึ้น​ยก​ที่​นอน, ไป​บ้าน​เถิด.”

7 เขา​จึง​ลุก​ขึ้น​ไป​บ้าน​ของ​ตน.

8 แต่​เมื่อ​ประชาชน​เห็น​ดัง​นั้น​ก็​อัศจรรย์​ใจ, แล้ว​ได้​ยก​ยอ​สรรเสริญ​พระ​เจ้า​ผู้​ได้​ทรง​ประทาน​ฤทธิ์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ดังนั้น​แก่​มนุษย์

9 ครั้น​พระ​เยซู​เสด็จ​เลย​ตำบล​นั้น​ไป, ก็​เห็น​คน​หนึ่ง​ชื่อ​มัดธาย​นั่ง​อยู่​ที่​ด่าน​ภาษี, จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า, “จง​ตาม​เรา​มา​เถิด.” เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ตาม​พระ​องค์​ไป

10 เมื่อ​พระ​องค์​ประทับ​เสวย​พระ​กระยาหาร​อยู่​ใน​เรือน, มี​พวก​เก็บ​ภาษี​และ​เหล่า​คน​บาป​เป็น​อัน​มาก​เข้า​มา​นั่ง​รับประทาน​กับ​พระ​องค์​และ​พวก​ศิษย์​ของ​พระ​องค์.

11 เมื่อ​พวกฟา​ริ​ซาย​เห็น​แล้ว​ก็​กล่าว​แก่​ศิษย์​ของ​พระ​องค์​ว่า, “เหตุ​ไฉน​อาจารย์​ของ​ท่าน​จึง​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​กัน​กับ​คน​เก็บ​ภาษี​และ​พวก​คน​บาป​เล่า?”

12 แต่​เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​ยิน​ดังนั้น​แล้ว, จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า, “คน​ปกติ​ไม่​ต้องการ​หมอ, แต่​คน​เจ็บ​ต้องการ​หมอ

13 ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​ไป​เรียน​ข้อ​นี้​ให้​เข้าใจ​ซึ่ง​ว่า, เรา​ประสงค์​ความ​เมตตา, และ​เครื่อง​บูชา​เรา​ไม่​ประสงค์. ด้วย​ว่า​เรา​มิได้​มา​เพื่อ​จะ​เรียก​คน​ชอบ​ธรรม, แต่​มา​เรียก​คน​บาป.”

14 ขณะนั้น​พวก​ศิษย์​ของ​โยฮัน​มา​หา​พระ​เยซู​ทูล​ว่า, “เหตุ​ไฉน​พวก​ข้าพ​เจ้า​และ​พวกฟา​ริ​ซาย​ถือ​ศีล​อด​อาหาร​บ่อยๆ, แต่​พวก​ศิษย์​ของ​พระ​องค์​ไม่​ถือ?”

15 พระ​เยซู​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า, “สหาย​ของ​เจ้าบ่าว​จะ​เป็น​ทุกข์​โศกเศร้า​เมื่อ​เจ้าบ่าว​ยัง​อยู่​กับ​เขา​ได้​หรือ? แต่​ใน​เวลา​เมื่อ​เจ้าบ่าว​จะต้อง​ไป​จาก​เขา, เวลา​นั้น​เขา​จะ​อด​อาหาร.

16 ไม่​มี​ผู้ใด​เอา​ท่อน​ผ้า​ทอ​ใหม่​มา​ปะ​เสื้อ​เก่า​เพราะว่า​ที่​ปะ​ไว้​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เสื้อ​เก่า​ขาด​ออก​มากกว่า​แต่​ก่อน.

17 ไม่​มี​ผู้ใด​เอา​นํ้า​องุ่น​ใหม่​มา​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​เก่า​ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​ถุง​หนัง​จะ​ขาด, น้ำ​องุ่น​จะ​รั่ว, ทั้ง​ถุง​ก็​จะ​เสีย​ไป​ด้วย. แต่​เขา​ย่อม​เอา​น้ำ​องุ่น​ใหม่​ใส่​ใน​ถุง​หนัง​ใหม่​แล้ว​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​คง​ดี​อยู่​ด้วย​กัน.”


ทรง​รักษา​ผู้หญิง

18 เมื่อ​พระ​องค์​กำลัง​ตรัส​คำ​เหล่านี้​แก่​เขา, ก็​มี​นาย​ธรรม​ศาลา​คน​หนึ่ง​มา​ไหว้​พระ​องค์​ทูล​ว่า, “ลูก​สาว​ของ​ข้าพ​เจ้า​พึ่ง​ตาย​เสีย​แต่​ขอ​พระ​องค์​เสด็จ​ไป​วาง​พระ​หัตถ์​บน​เขา, แล้ว​เขา​จะ​ฟื้น​ขึ้น​อีก.”

19 ฝ่าย​พระ​เยซู​จึง​ทรง​ลุก​ขึ้น​เสด็จ​ตาม​เขา​ไป​และ​พวก​สาวก​ของ​พระ​องค์​ก็​ตาม​ไป​ด้วย.

20 ขณะนั้น​มี​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​เป็น​โรค​โลหิต​ตก​สิบ​สอง​ปี​มาแล้ว​แอบ​มา​ถูกต้อง​พู่​ห้อย​เสื้อ​ของ​พระ​องค์​ข้าง​หลัง

21 เพราะ​เขา​คิด​ใน​ใจ​ว่า, ถ้า​ได้​ถูก​ต้อง​เสื้อ​ของ​พระ​องค์​เท่านั้น​ก็​จะ​หาย​โรค.

22 ฝ่าย​พระ​เยซู​ทรง​เหลียว​หลัง​ทอดพระเนตร​เห็น​เข้า​จึง​ตรัส​ว่า, “ลูก​หญิง​เอ๋ย, จง​ชื่น​ใจ​เถิด​ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​กระทำ​ให้​หาย​ปกติ.” ตั้งแต่​โมง​นั้น​โรค​ของ​ผู้หญิง​นั้น​ก็​หาย.


หญิง​สาว​ฟื้น​จาก​ตาย

23 ครั้น​พระ​เยซู​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เรือน​นาย​ธรรม​ศาลา​นั้น, ทรง​ทอดพระเนตร​เห็น​พวก​เป่า​ปี่​และ​คน​เป็น​อัน​มาก​ชุลมุน​กัน​อยู่,

24 พระ​องค์​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า, “จง​ถอย​ออกไป​เถิด, ด้วย​ว่า​หญิง​สาว​นี้​ไม่​ตาย, เป็น​แต่​นอน​หลับ​อยู่.” เขา​ก็​พา​กัน​หัวเราะ​เยาะ​พระ​องค์.

25 แต่​เมื่อ​ทรง​ขับ​ฝูง​คน​ออกไป​แล้ว, พระ​องค์​ได้​เสด็จ​เข้า​ไป​จับ​มือ​หญิง​สาว, และ​หญิง​สาว​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น.

26 แล้ว​กิตติศัพท์​นั้น​ลือ​ไป​ตลอด​ทั่ว​ประเทศ​นั้น


คน​ตา​บอด​เห็น​ได้

27 ครั้น​พระ​เยซู​ได้​เสด็จ​ไป​จาก​ที่​นั่น, ก็​มี​คน​ตา​บอด​สอง​คน​ร้อง​ตาม​พระ​องค์​มา​ว่า, “บุตร​ดาวิด​เจ้า​ข้า, ขอ​ได้​เอ็นดู​ข้าพ​เจ้า​เถิด.”

28 และ​เมื่อ​พระ​องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เรือน​แห่ง​หนึ่ง, คน​ตา​บอด​ทั้ง​สอง​นั้น​ก็​เข้า​มา​หา​พระ​องค์, พระ​เยซู​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า, “เจ้า​เชื่อ​หรือ​ว่า​เรา​จะ​กระทำ​การ​นี้​ได้?” เขา​ทูล​พระ​องค์​ว่า, “ข้าพ​เจ้า​เชื่อ, พระ​องค์​เจ้า​ข้า.”

29 แล้ว​พระ​องค์​ถูกต้อง​ตา​เขา​ตรัส​ว่า, “ให้​เป็น​ตาม​ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​เถิด.”

30 แล้ว​ตา​เขา​ก็​เห็น​ได้. พระ​เยซู​ได้​ทรง​กำชับ​เขา​แข็งแรง​ว่า, “จง​ระวัง, อย่า​บอก​ผู้ใด​ให้​รู้​เลย.”

31 แต่​เมื่อ​เขา​ไป​จาก​ที่​นั่น​แล้ว, ก็​ประกาศ​กิตติศัพท์​ของ​พระ​องค์​ตลอด​ทั่ว​เมือง​นั้น

32 ขณะ​เมื่อ​กำลัง​ออกไป, ก็​มี​ผู้​พา​คน​ใบ้​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ผี​ประจำ, ตัว​อยู่​มา​หา​พระ​องค์.

33 เมื่อ​ทรง​ขับ​ผี​ออก​แล้ว​คน​ใบ้​นั้น​ก็​พูด​ได้. ประชาชน​ก็​อัศจรรย์​ใจ​พูด​กัน​ว่า, “ไม่​เคย​เห็น​มี​เช่นนี้​ใน​ประ​เทศยิศรา​เอล​เลย.”

34 แต่​พวกฟา​ริ​ซา​ยก​ล่าว​ว่า, “คน​นี้​ขับ​ผี​ออก​ด้วย​ฤทธิ์​ของ​นาย​ผี.”

35 พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​ดำเนิน​ไป​รอบ​บ้าน​รอบ​เมือง​ทรง​สั่ง​สอน​ใน​ธรรม​ศาลา​ของ​เขา, ประกาศ​กิตติ​คุณ​แห่ง​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า, และ​ได้​ทรง​รักษา​โรค​และ​ความ​ป่วย​ไข้​ของ​พล​เมือง​ให้​หาย.

36 แต่​เมื่อ​พระ​องค์​ทอดพระเนตร​เห็น​ประชาชน​ก็​ทรง​พระ​กรุณา​เขา, ด้วย​เขา​อิด​โรย​กระจัด​กระจาย​ไป​ดุจ​ฝูง​แกะ​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง.

37 แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​แก่​พวก​ศิษย์​ของ​พระ​องค์​ว่า, “การ​เกี่ยว​นั้น​เป็น​การ​ใหญ่​นักหนา, แต่​คน​ทำ​การ​ยัง​น้อย​อยู่.

38 เหตุ​ฉะนั้น​จง​อธิษฐาน​ขอ​ต่อ​เจ้าของ​ของ​การ​เกี่ยว​นั้น, ให้​ใช้​คน​ทำ​การ​หลาย​คน​ไป​ใน​การ​เกี่ยว​ข้อง​พระ​องค์.”

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society

Thailand Bible Society
Lean sinn:



Sanasan