มัทธิว 10 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940อัครสาวกสิบสองคน 1 ครั้นพระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์มาแล้ว, ก็ทรงโปรดให้เขามีอำนาจขับผีร้ายออกได้และให้รักษาโรคและความเจ็บป่วยทุกอย่างให้หายได้ 2 อัครสาวกสิบสองคนนั้นมีชื่อดังนี้คนแรกคือซีโมนที่เรียกว่าเปโตรกับอันดะเรอาน้องของเขา, ยาโกโบบุตรเซเบดายกับโยฮันนองของเขา, 3 ฟีลิปและบาร์โธโลมาย. โธมาและมัดธายคนเก็บภาษี, ยาโกโบบุตรอาละฟาย, และเล็บบายผู้ที่มีชื่ออีกว่าธาดาย, 4 ซีโมนชาวคะนาอันและยูดาอิศการิโอดที่ได้มอบพระองค์ไว้นั้น อัครสาวกออกประกาศ 5 อัครสาวกสิบสองคนนี้พระเยซูทรงใช้ให้ออกไปและสั่งเขาว่า, “อย่าไปทางพวกต่างประเทศและอย่าเข้าไปในบ้านของชาวซะมาเรีย, 6 แต่ว่าจงไปหาแกะชาติยิศราเอลที่หายไปนั้นก็ดีกว่า. 7 ในเวลาที่ไปนั้นจงประกาศว่า, ‘แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว’. 8 จงรักษาคนเจ็บให้หาย. คนตายแล้วให้เป็นขึ้น, คนโรคเรื้อนให้หายสะอาดบริสุทธิ์, และจงขับผีให้ออกเสียท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ จงให้เปล่าๆ. 9 อย่าคิดหาทองคำ, หรือเงิน, หรือทองเหลืองไว้ในไถ้ของท่าน. 10 หรือย่ามใช้ตามทาง, หรือเสื้อสองตัว. หรือรองเท้า. หรือไม้เท้า. เพราะว่าผู้ทำการควรจะได้อาหารกิน. 11 ท่านจะเข้าไปในบ้านใดหรือเมืองใดจงสืบหาดูว่า. ใครเป็นคนเหมาะที่จะอาศัยอยู่ด้วยได้. แล้วจงไปอาศัยกับผู้นั้นกว่าจะไปจากที่นั่น. 12 ขณะเมื่อขึ้นเรือนจงให้พรแก่เรือนนั้น. 13 ถ้าเรือนนั้นสมควรรับพรก็ให้ความสุขสำราญของท่านอยู่กับเรือนนั้น. แต่ถ้าเรือนนั้นไม่สมควรรับพรก็ให้ความสุขสำราญนั้นกลับคืนมาสู่ท่านอีก. 14 ถ้าผู้ใดไม่ต้อนรับท่านและไม่ฟังคำของท่าน. เมื่อจะออกจากเรือนนั้นเมืองนั้นจงสะบัดผงคลีที่ติดเท้าของท่านออกเสีย. 15 เราบอกท่านตามจริงว่า, ในวันพิพากษาโทษของเมืองซะโดมและเมืองอะโมราจะเบากว่าโทษเมืองนั้น 16 “นี่แหละ, เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่าเหตุฉะนั้นจงเป็นคนฉลาดเหมือนงูและเป็นคนสุภาพเหมือนนกพิลาป. 17 แต่จงระวังมนุษย์เพราะเขาจะอายัดท่านไว้ที่ศาล, และจะเฆี่ยนท่านในธรรมศาลาของเขา. 18 และจะส่งท่านไปต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์เพราะเรา. เพื่อท่านจะได้เป็นพะยานต่อผู้เหล่านั้นและต่อพวกต่างประเทศ. 19 แต่เมื่อเขาจะอายัดท่านไว้นั้น. อย่าคิดกะวนกะวายในใจว่าจะพูดอย่างไรหรือจะกล่าวอะไร, เพราะว่าคำที่ท่านจะพูดนั้นจะทรงประทานแก่ท่านในเวลาโมงนั้น. 20 ด้วยมิใช่ท่านพูดเอง. แต่พระวิญญาณแห่งพระบิดาเป็นผู้ตรัสแทนท่าน. 21 แม้ว่าพี่ก็จะมอบน้อง. พ่อก็จะมอบลูก, และลูกจะทรยศต่อพ่อแม่ให้ถึงแก่ความตาย. 22 และคนทั้งปวงจะเกลียดชังท่านเพราะนามของเราแต่ผู้ใดที่จะทนเอาจนถึงที่สุดปลาย, ผู้นั้นจะรอด. 23 แต่เมื่อเขาเคี่ยวเข็ญพวกท่านในเมืองนี้, จงหนีไปยังเมืองโน้นเพราะเราบอกท่านตามจริงว่า, จะไม่ทันไปทั่วเมืองทั้งหลายแห่งประเทศยิศราเอลกว่าบุตรมนุษย์จะมา ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู 24 “ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู, หรือทาสไม่ใหญ่กว่านายของตน. 25 ซึ่งศิษย์จะเสมอครูและทาสจะเสมอนายของตนก็พออยู่แล้ว. ถ้าเขาได้เรียกเจ้าบ้านว่าเบละซะบูล. ลูกบ้านของเขาจะถูกเรียกมากยิ่งกว่านั้นเท่าใด 26 เหตุฉะนั้นอย่ากลัวเขาเลย เพราะว่าไม่มีสิ่งใดบดบังไว้ที่จะไม่ต้องเปิดออก. หรือการลับที่จะไม่ปรากฏแจ้ง. 27 ซึ่งเรากล่าวแก่พวกท่านในที่มืด, ท่านจงกล่าวในที่สว่าง และซึ่งท่านได้ยินกะซิบที่หูจงประกาศบนดาดฟ้าหลังคาตึก. 28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย, แต่ไม่มีอำนาจที่จะฆ่าจิตต์วิญญาณแต่จงกลัวท่านผู้มีฤทธิ์ที่จะให้ทั้งจิตต์ทั้งกายพินาศในนรกได้. 29 นกกระจาบสองตัวเขาขายสามสตางค์มิใช่หรือและนกนั้นแม้สักตัวเดียวจะตกลงถึงดินนอกจากพระบิดาของท่านพอพระทัยก็มิได้. 30 ถึงผมของท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น. 31 เหตุฉะนั้นอย่ากลัวเลยท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว. 32 เหตุดังนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์, เราจะรับผู้นั้นฉะเพาะพระพักตรพระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์. 33 แต่ผู้ใดจะปฏิเสธเราต่อหน้ามนุษย์, เราจะปฏิเสธผู้นั้นฉะเพาะพระพักตรพระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์ด้วย ผู้ที่สู้เสียชีวิตจะได้ชีวิตรอด 34 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะให้เกิดความสงบสุขที่แผ่นดินโลกเรามิได้มาเพื่อจะให้เกิดความสงบสุข, แต่เพื่อจะใช้ดาพ. 35 เพราะว่าเรามาเพื่อจะให้ลูกชายหมางใจกับบิดาของตน, และลูกสาวหมางใจกัมมารดา, และลูกสะใภ้หมางใจกับแม่ผัว 36 และผู้ที่อยู่ร่วมเรือนเดียวกันก็จะเป็นศัตรูต่อกัน. 37 ผู้ใดที่รักบิดามารดาหรือรักบุตรชายหญิงยิ่งกว่ารักเรา, ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา. 38 หรือผู้ใดที่ไม่รับเอากางเขนของตนตามเราไป, ผู้นั้นก็ไม่สมกับเรา. 39 ผู้ที่พยายามจะให้ชีวิตของตนรอดจะกลับเสียชีวิต, แต่ผู้ที่สู้เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราก็จะได้ชีวิตรอด 40 “ผู้ที่รับท่านก็รับเรา, ผู้ที่รับเราก็รับพระองค์ที่ทรงใช้เรามา. 41 ผู้ที่รับศาสดาพยากรณ์เพราะเป็นศาสดาพยากรณ์ก็จะได้บำเหน็จอย่างศาสดาพยากรณ์, และผู้ที่รับผู้ชอบธรรมเพราะเป็นผู้ชอบธรรมก็จะได้บำเหน็จอย่างผู้ชอบธรรม. 42 ผู้ที่ให้นํ้าเย็นสักจอกหนึ่งแก่คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งกินเพราะเป็นศิษย์, เราบอกท่านทั้งหลายตามจริงว่า, คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society