ลูกา 6 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940บุตรมนุษย์เป็นเจ้าแห่งวันซะบาโต 1 ในวันซะบาโตวันหนึ่งพระองค์กำลังเสด็จออกไปที่กลางทุ่งนา, และพวกศิษย์ของพระองค์ก็เด็ดรวงข้าวขยี้กิน. 2 ลางคนในพวกฟาริซายจึงกล่าวว่า, “ทำไมพวกท่านจึงทำการที่ผิดกฎของวันซะบาโต?” 3 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า, “ท่านทั้งหลายยังไม่ได้อ่านถึงเรื่องนี้อีกหรือ, ที่ดาวิดได้กระทำเมื่อท่านกับพรรคพวกอยากอาหาร, 4 คือท่านได้เข้าไปในโบสถ์ของพระเจ้าและกินขนมปังที่ตั้งถวาย, ทั้งให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ด้วยกัน, ซึ่งกฎหมายห้ามไม่ให้ใครกินเว้นแต่พวกปุโรหิตเท่านั้น?” 5 พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “บุตรมนุษย์เป็นเจ้าแห่งวันซะบาโต.” 6 ในวันซะบาโตอีกวันหนึ่งพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาและสั่งสอน. ที่นั่นมีคนมือขวาลีบคนหนึ่ง. 7 ฝ่ายพวกอาลักษณ์และพวกฟาริซายคอยดูพระองค์ว่าพระองค์จะรักษาเขาในวันซะบาโตหรือไม่, เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์. 8 แต่พระองค์ทรงทราบความคิดของเขา, จึงตรัสแก่คนมือลีบนั้นว่า, “จงลุกขึ้นยืนท่ามกลางที่ประชุม,” เขาก็ลุกขึ้นยืน. 9 แล้วพระเยซูตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า, “เราจะถามท่านทั้งหลายว่า, ควรจะทำการดีในวันซะบาโตหรือจะทำการชั่ว, จะช่วยชีวิตให้รอดหรือจะทำลายชีวิตเสีย?” 10 พระองค์จึงทอดพระเนตรดูทุกคนที่อยู่รอบนั้น, แล้วตรัสแก่คนนั้นว่า, “เหยียดมือของเจ้าออกเถิด.” เขาก็กระทำตาม, และมือของเขาก็หายเป็นปกติ. 11 ฝ่ายคนทั้งหลายต่างมีความเดือดดาล, และปรึกษากันว่าจะกระทำอย่างไรแก่พระเยซูได้ ทรงเลือกอัครสาวกสิบสองคน 12 คราวนั้นพระองค์เสด็จขึ้นภูเขาเพื่อจะอธิษฐาน, และได้อธิษฐานต่อพระเจ้าตลอดคืนยังรุ่ง. 13 ครั้นรุ่งเช้าแล้วพระองค์ทรงเรียกหมู่ศิษย์ของพระองค์, แล้วทรงเลือกสิบสองคนออกจากหมู่ศิษย์นั้น ที่พระองค์ทรงให้ชื่อว่าอัครสาวก 14 คือซีโมนที่พระองค์ให้ชื่ออีกว่าเปโตร, อันดะเรอาน้องชายของเปโตร, ยาโกโบและโยฮัน, ฟีลิบและบาร์โธโลมาย, 15 มัดธายและโธมา, ยาโกโบบุตรของอาละฟาย, ซีโมนที่เรียกว่าเซโลเต, 16 ยูดาบุตรของยาโกโบ, และยูดาอิศการิโอดที่เป็นผู้มอบพระองค์ไว้. 17 แล้วพระองค์กับอัครสาวกก็ลงมายืนที่ราบเตียนแห่งหนึ่ง. พร้อมด้วยเหล่าศิษย์ของพระองค์และคนเป็นอันมาก. ซึ่งมาจากทุกตำบลในมณฑลยูดาย, กรุงยะรูซาเลม, และจากตำบลต่างๆ ริมฝั่งทะเลในเขตต์เมืองตุโรและเมืองซีโดน. เพื่อจะฟังพระองค์และให้พระองค์รักษาโรคของเขา. 18 และบรรดาคนที่ต้องทนทุกข์เพราะผีโสโครก พระองค์ก็ทรงรักษาให้หายด้วย. 19 ประชาชนก็ต่างพยายามที่จะถูกต้องพระองค์. เพราะว่ามีฤทธิ์ซ่านออกจากพระองค์ รักษาเขาให้หายทุกคน ผู้ที่เป็นสุขและผู้ที่รับวิบัติ 20 พระองค์ทรงทอดพระเนตรแลดูเหล่าสาวกของพระองค์ตรัสว่า, ท่านทั้งหลายที่เป็นคนยากจนก็เป็นสุข. เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของท่าน. 21 ท่านทั้งหลายที่อดอยากเดี๋ยวนี้เป็นสุข, เพราะว่าท่านจะได้อิ่มหนำ. ท่านทั้งหลายที่ร้องไห้เดี๋ยวนี้ก็เป็นสุข. เพราะว่าท่านจะได้หัวเราะ. 22 ท่านทั้งหลายจะเป็นสุขเมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน. และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา. และจะนินทาท่าน. และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า. เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์. 23 ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม. และเต้นโลดด้วยความยินดี. เพราะนี่แน่ะ บำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาได้กระทำแก่พวกศาสดาพยากรณ์เหมือนกัน. 24 แต่วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่มั่งมี. เพราะว่าเจ้าได้รับความสุขของเจ้าแล้ว. 25 วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่อิ่มหนาเดี๋ยวนี้. เพราะว่าเจ้าจะอดอยาก. วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่บัวเราะเดี๋ยวนี้. เพราะว่าเจ้าจะพิลาปร้องไห้. 26 วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายเมื่อคนทั้งหลายจะยอว่าเจ้าดี. เพราะบรรพบุรุษของเขาได้ทำอย่างนั้นแก่ผู้พยากรณ์เท็จเหมือนกัน.” อย่ากล่าวโทษผู้อื่นจงยกโทษให้เขา 27 “แต่เราบอกท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า, จงรักศัตรูของท่าน, จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน. 28 จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน. จงอธิษฐานขอเพื่อคนที่เคี่ยวเข็ญท่าน. 29 ผู้ใดตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง. จงหันอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย และผู้ใดริบเอาเสื้อคลุมของท่านไป, ถ้าเขาจะเอาเสื้อด้วยก็อย่าหวงห้าม. 30 จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน และถ้าใครได้เอาของๆ ท่านไป, อย่าทวงเอาคืน. 31 ท่านทั้งหลายปรารถนาจะให้เขาทำแก่ท่านอย่างไร. ท่านทั้งหลายจงกระทำอย่างนั้นแก่เขาเหมือนกัน. 32 แม้ว่าท่านทั้งหลายรักผู้ที่รักท่าน, จะได้บุญคุณอะไร? ถึงแม้คนชั่วก็ยังรักผู้ที่รักเขาเหมือนกัน. 33 ถ้าท่านทั้งหลายทำดีแก่ผู้ที่ทำดีแก่ท่าน, จะได้บุญคุณอะไร? เพราะว่าคนชั่วก็กระทำเหมือนกัน. 34 ถ้าท่านทั้งหลายให้ยืมฉะเพาะแต่ผู้ที่ท่านหวังจะได้คืนจากเขาอีก, ก็จะได้บุญคุณอะไร? ถึงแม้คนชั่วก็ยังให้คนชั่วยืมโดยหวังว่าจะได้รับคืนจากเขาเท่ากัน. 35 แต่จงรักศัตรูของท่านทั้งหลาย, และทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่พะวงที่จะได้คืนอีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมีบริบูรณ์, และท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของผู้ที่สูงสุด เพราะว่าพระองค์ยังทรงโปรดแก่คนอกตัญญูและคนชั่ว. 36 ท่านทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตาปราณี. 37 อย่ากล่าวโทษเขา, และเขาจะไม่กล่าวโทษท่าน อย่าลงโทษเขา, และเขาจะไม่ลงโทษท่าน จงยกโทษให้เขา, และเขาจะยกโทษให้ท่าน 38 จงแจกปันให้เขา, และเขาจะแจกปันให้ท่านด้วย เขาจะตวงด้วยทะนานถ้วนยัดสั่นแน่นพูนล้นใส่ในตักของท่าน. เพราะว่าท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด, เขาจะตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น.” 39 พระองค์ตรัสแก่เขาทั้งหลายเป็นคำอุปมาด้วยว่า, “คนตาบอดจะจูงคนตาบอดได้หรือ ทั้งสองจะไม่ตกบ่อหรือ 40 ศิษย์จะเป็นใหญ่กว่าครูก็หามิได้แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนดีแล้วก็จะเสมอกับครูของตน. 41 เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน, แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่านๆ ไม่รู้สึก? 42 หรือเหตุไฉนท่านจึงจะพูดกับพี่น้องของท่านได้ว่า. ‘พี่น้องเอ๋ย, ขอให้ฉันเขี่ยผงออกจากตาของท่าน,’ แต่ที่จริงท่านเองก็ยังไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน? โอ คนหน้าซื่อใจคด, จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของตนก่อน, แล้วเจ้าจะเห็นได้ถนัดจึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของเจ้าได้. 43 ด้วยว่าต้นไม้ดีย่อมไม่เกิดผลชั่ว หรือต้นไม้ชั่วย่อมไม่เกิดผลดี. 44 เพราะว่าจะรู้จักต้นไม้ทุกต้นได้ก็เพราะผลของมัน. เพราะว่าเขาย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อเทศจากต้นไม้มีหนาม, หรือย่อมไม่เก็บผลองุ่นจากต้นระกำ. 45 คนดีก็ย่อมเอาของดีออกจากคลังดีแห่งใจของตน, และคนชั่วก็ย่อมเอาของชั่วออกจากคลังชั่วแห่งใจของตน เพราะว่าใจเต็มบริบูรณ์อย่างไรปากก็พูดออกอย่างนั้น.” คำเปรียบเรื่องคนสร้างตึก 46 “เหตุไฉนท่านทั้งหลายเรียกเราว่า. ‘พระองค์เจ้าข้า, พระองค์เจ้าข้า.’ และยังไม่ประพฤติตามสิ่งที่เราสอนนั้น? 47 ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา, และประพฤติตามคำนั้น, เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด 48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไป, แล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อนํ้ามาท่วม, กระแสนํ้าไหลเชี่ยวกะทบกะทั่ง, ตึกนั้นมิได้หวั่นไหว, เพราะได้สร้างไว้มั่นคง. 49 แต่คนที่ได้ยินและมิได้ประพฤติตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่ได้สร้างตกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกะทบกะทั่งตึกนั้นตึกนั้น ก็พังทำลายลงทันที, และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society