ลูกา 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940เขาจับปลาได้มาก 1 ครั้งหนึ่งเมื่อประชาชนกำลังเบียดเสียดพระองค์เพื่อฟังคำของพระเจ้า, พระองค์ทรงยืนอยู่ที่ฝั่งทะเลสาบเฆ็นเนซาเร็ต. 2 ทรงเห็นเรือสองลำจอดอยู่ริมฝั่งทะเลสาบนั้น, แต่ชาวประโมงขึ้นจากเรือแล้วกำลังซักอวนอยู่. 3 พระองค์จึงเสด็จลงเรือลำหนึ่ง, เป็นเรือของซีโมน, และขอให้เขาถอยไปจากฝั่งสักหน่อยหนึ่ง. แล้วพระองค์ทรงนั่งลงสอนประชาชนจากเรือนั้น 4 เมื่อพระองค์ตรัสสอนเสร็จแล้วจึงตรัสแก่ซีโมนว่า, “จงถอยออกไปที่น้ำลึกหย่อนอวนลงจับปลา.” 5 ซีโมนทูลตอบพระองค์ว่า, “อาจารย์เจ้าข้า, ข้าพเจ้าทั้งหลายทอดอวนคืนยังรุ่งไม่ได้อะไรเลย แต่ข้าพเจ้าจะหย่อนอวนลงตามคำของพระองค์.” 6 เมื่อเขาหย่อนลงแล้วก็ล้อมปลาไว้เป็นอันมาก, จนอวนของเขากำลังขาดอยู่. 7 เขาจึงทำสำคัญแก่เพื่อนที่อยู่ในเรืออีกลำหนึ่งให้มาช่วย. เขาก็มาช่วย แล้วได้ปลาเต็มลำเรือสองลำ, จนเรือเกือบจะจมลง. 8 ฝ่ายซีโมนเปโตรเมื่อเห็นดังนั้น, ก็กราบลงที่พระชานุของพระเยซูทูลว่า, “พระองค์เจ้าข้า, ขอเสด็จไปให้ห่างจากข้าพเจ้าเถิด, เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป.” 9 เพราะว่าเขากับคนทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันประหลาดใจด้วยปลาเป็นอันมากที่เขาจับได้นั้น. 10 ยาโกโบและโยฮันบุตรของเซเบดาย, ผู้ร่วมการกับซีโมน, ก็ประหลาดใจเหมือนกัน. พระเยซูตรัสแก่ซีโมนว่า, “อย่ากลัวเลย, ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน.” 11 เมื่อเขานำเรือมาถึงฝั่งแล้ว, เขาก็สละทิ้งสิ่งสารพัตรตามพระองค์ไป คนโรคเรื้อนก็หาย 12 เมื่อพระองค์ทรงอยู่ในเมืองๆ หนึ่ง, นี่แน่ะ มีคนเป็นโรคเรื้อนเต็มทั้งตัว. เมื่อเขาเห็นพระเยซูก็ซบหน้าลงถึงดินอ้อนวอนทูลพระองค์ว่า, “พระองค์เจ้าข้า, ถ้าพระองค์พอพระทัยพระองค์อาจจะทำให้ข้าพเจ้าหายโรคเป็นสะอาดได้.” 13 พระองค์จึงเหยียดพระหัตถ์ออกถูกต้องคนนั้นตรัสว่า, “เราพอใจแล้ว, จงหายโรคและสะอาดเถิด.” ในทันใดนั้นโรคเรื้อนก็หายไปจากเขา. 14 พระองค์จึงกำชับเขาว่า, “อย่าบอกผู้ใด, แต่จงไปสำแดงตัวแก่ปุโรหิต, และถวายเครื่องบูชาสำหรับคนที่หายโรคเรื้อนแล้ว ตามซึ่งโมเซได้สั่งไว้เพื่อให้เป็นพะยาน.” 15 แต่กิตติศัพท์ของพระองค์ยิงเลื่องลือไป, และประชาชนเป็นอันมากมาชุมนุมกันเพื่อจะฟังพระองค์, และให้พระองค์รักษาโรคต่างๆ ของเขาให้หาย. 16 แต่พระองค์เสด็จออกไปในที่สงัดและทรงอธิษฐาน ทรงรักษาคนง่อย 17 วันหนึ่งเมื่อพระองค์ทรงสั่งสอนอยู่, มีพวกฟาริซายและพวกบาเรียนนั่งอยู่ด้วย. เขามาจากทุกหมู่บ้านในมณฑลฆาลิลาย, มณฑลยูดาย, และจากกรุงยะรูซาเลม. ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็สถิตอยู่ในพระองค์เพื่อจะรักษาเขาให้หายโรค. 18 และนี่แน่ะ, มีผู้หามคนง่อยคนหนึ่งนอนบนที่นอน, และเขาหาช่องที่จะหามคนง่อยนั้นเข้ามาวางลงตรึงพระพักตรของพระองค์. 19 เมื่อหาช่องเอาเข้ามาไม่ได้เพราะคนมาก, เขาจึงขึ้นไปดาดฟ้าหลังคาตึก หย่อนคนง่อยลงมากับทั้งที่นอนตามช่องกะเบื้องตรงท่ามกลางหมู่คนต่อพระพักตรพระเยซู. 20 เมื่อพระองค์ทรงเห็นความเชื่อของเขาพระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “บุรุษเอ๋ย, ความผิดของเจ้าทรงโปรดยกเสียแล้ว.” 21 ฝ่ายพวกอาลักษณ์และพวกฟาริซายคิดในใจว่า, “ผู้ที่พูดหมิ่นประมาทนี้เป็นผู้ใดเล่า? ใครจะยกความผิดได้เว้นแต่พระเจ้าองค์เดียว?” 22 แต่เมื่อพระเยซูทรงทราบความคิดของเขา พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า, “ท่านทั้งหลายคิดอะไรในใจ? 23 ซึ่งจะว่า, ‘ความผิดของเจ้าโปรดยกเสียแล้ว.’ หรือจะว่า, ‘จงลุกขึ้นเดินไปเถิด.’ ข้างไหนจะง่ายกว่ากัน? 24 แต่เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่าบุตรมนุษย์มีอำนาจจะโปรดยกบาปโทษในแผ่นดินโลกได้,” พระองค์จึงตรัสแก่คนง่อยว่า, “เราสั่งเจ้าว่า, จงลุกขึ้นยกที่นอนไปยังบ้านของตนเถิด.” 25 ในทันใดนั้นเขาจึงลุกขึ้นต่อหน้าคนทั้งปวง, ยกเอาที่นอนซึ่งเขาได้นอนนั้นกลับไปยังบ้านของตนร้องสรรเสริญพระเจ้า. 26 คนทั้งปวงก็อัศจรรย์ใจมากยิ่งนัก, และได้สรรเสริญพระเจ้า, ต่างเต็มไปด้วยความกลัวและพูดว่า, “วันนี้เราได้เห็นสิ่งแปลกประหลาด.” 27 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านั้นพระองค์ได้เสด็จออกไป, และได้เห็นคนเก็บภาษีคนหนึ่งชื่อเลวีนั่งอยู่ที่ด่านภาษี. พระองค์ตรัสแก่เขาว่า. “จงตามเรามาเถิด.” 28 เขาก็สละทิ้งสิ่งสารพัตรลุกขึ้นตามพระองค์ไป ทรงร่วมโต๊ะกับคนเก็บภาษี 29 เลวีได้จัดให้มีการเลี้ยงใหญ่ในเรือนของตนเพื่อเป็นเกียรติยศแก่พระองค์. มีคนเก็บภาษีและคนอื่นมากมายมาร่วมโต๊ะด้วยกัน. 30 ฝ่ายพวกฟาริซายและพวกอาลักษณ์ของเขากะซิบบ่นติพวกศิษย์ของพระองค์ว่า, “เหตุไฉนพวกท่านมากินและดื่มกับพวกเก็บภาษีและกับพวกคนบาป?” 31 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า, “คนปกติไม่ต้องการหมอแต่คนเจ็บต้องการหมอ. 32 เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนชอบธรรม. แต่มาเรียกคนบาปให้กลับใจเสียใหม่.” 33 เขาทูลพระองค์ว่า, “พวกศิษย์ของโยฮันถือศีลอดอาหารและอธิษฐานเนืองๆ. และศิษย์ของพวกฟาริซายก็ถือเหมือนกัน. แต่ศิษย์ของท่านกินและดื่ม.” 34 ฝ่ายพระเยซูตรัสแก่เขาว่า, “ท่านจะกระทำให้สหายของเจ้าบ่าวอดอาหาร. เมื่อเจ้าบ่าวยังอยู่กับเขาได้หรือ 35 แต่จะมีวันหนึ่งเมื่อเจ้าบ่าวจะถูกพรากไปจากเขา วันนั้นเขาจะอดอาหาร.” 36 พระองค์ยังตรัสคำเปรียบข้อหนึ่งแก่เขาด้วยว่า, “ไม่มีผู้ใดฉีกท่อนถ้าจากเสื้อใหม่มาปะเสื้อเก่าถ้าทำอย่างนั้นเสื้อใหม่นั้นจะขาดเสียไป, ทั้งท่อนผ้าที่เอามาจากเสื้อใหม่นั้นก็จะไม่สมกับเสื้อเก่าด้วย. 37 ไม่มีผู้ใดเอาน้ำองุ่นใหม่ใส่ถุงหนังเก่า ถ้าทำอย่างนั้นนํ้าองุ่นใหม่จะระเบิดทำให้ถุงหนังขาดและนํ้าองุ่นจะหกเสีย, ถุงหนังก็จะเสียไปด้วย. 38 แต่น้ำองุ่นใหม่ต้องใส่ในถุงหนังใหม่. 39 ไม่มีผู้ใดเมื่อกินน้ำองุ่นเก่าแล้วจะอยากได้น้ำองุ่นใหม่, เพราะเขาย่อมว่า, “ของเก่านั้นดีแล้ว.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society