เลวีนิติ 13 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, 2 “ถ้าและผู้ใดจะมีบวมขึ้นในกาย, หรือเป็นสะเก็ด หรือที่ขาวอยู่ในเนื้อหนังเหมือนดังโรคเรื้อนนั้น, จงพาคนนั้นมาหาอาโรนผู้เป็นปุโรหิต, หรือหาบุตรชายของอาโรนคนหนึ่งผู้เป็นปุโรหิต. 3 และปุโรหิตนั้นจะดูโรคที่ในเนื้อหนังของเขา, ถ้าขนที่โรคนั้นขาวและโรคนั้นดูเห็นลึกอยู่ในเนื้อหนังของเขาก็เป็นโรคเรื้อน, และปุโรหิตจะดูคนนั้นแล้วและจะกล่าวประกาศว่าตัวคนนั้นเป็นมลทิน. 4 ถ้าที่โรคในเนื้อหนังนั้นเห็นขาวอยู่ และดูไม่ลึกในเนื้อหนัง. และผู้นั้นั้นมิได้กลายเป็นขาวแล้ว, ปุโรหิตจะขังคนที่เป็นโรคนั้นไว้เจ็ดวัน. 5 ครั้นถึงวันที่เจ็ดปุโรหิตก็จะดูคนนั้นอีกทีหนึ่ง, ถ้าและโรคนั้นเห็นว่ายังทรงอยู่มิได้แผ่ออกไปอีกแล้ว, ปุโรหิตก็จะขังคนนั้นไว้อีกเจ็ดวัน, 6 และครั้นถึงวันที่เจ็ด ปุโรหิตนั้นก็จะได้ดูคนนั้นอีกทีหนึ่ง, ถ้าแลเห็นว่าโรคนั้นค่อยน้อยลงมิได้แผ่ออกไปในเนื้อหนังอีกแล้ว, ปุโรหิตก็จะกล่าวประกาศว่า, คนนั้นเป็นสะอาดเพราะว่าเป็นแค่สะเก็ด, และจะให้คนนั้นซักผ้าของตนแล้วจึงเป็นสะอาด. 7 ครั้นปุโรหิตได้ดูเขาและให้ชำระตัวเสียแล้ว, และสะเก็ดนั้นยังแผ่ออกไป, แล้วคนนั้นจะต้องมาให้ปุโรหิตดูอีกทีหนึ่ง. 8 ถ้าเมื่อปุโรหิตได้ดูแล้วเห็นว่าสะเก็ดนั้นแผ่ออกไปในเนื้อหนัง, ปุโรหิตก็จึงจะกล่าวประกาศว่า คนนั้นเป็นมลทินไม่สะอาดเพราะโรคเรื้อนของเขานั้น 9 “เมื่อโรคเรื้อนมีอยู่ในกายของผู้ใด แล้วจะต้องให้ผู้นั้นมาหาปุโรหิต, 10 และให้ปุโรหิตดูเขา, ถ้าเห็นว่าโรคนั้นบวมขึ้น และเป็นสีขาวอยู่ในหนัง, และขนกลายเป็นขาวและมีเนื้อ. 11 ก็เป็นโรคเรื้อนในเนื้อหนังของคนนั้น, และปุโรหิตจะกล่าวประกาศว่า, คนนั้นเป็นมลทินจะต้องขังคนนั้นไว้เพราะเขาเป็นมลทิน. 12 ถ้าและโรคเรื้อนนั้นลามแผ่ออกไปทั่วในตัวคนนั้น, ตั้งแต่ศีรษะจนถึงเท้าที่ปุโรหิตจะดูและเห็นนั้น. 13 ปุโรหิตจึงจะพิจารณาดู, ถ้าเห็นว่าโรคเรื้อนนั้นลามแผ่ออกไปทั่วในเนื้อหนังเช่นนั้น, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นไม่เป็นโรคเรื้อน ตัวเขาขาวไม่เป็นมลทิน. 14 แต่ในขณะเมื่อโรคนั้นเป็นแผลเขาจะเป็นมลทิน. 15 และปุโรหิตจะดูที่แผลนั้นแล้วจะกล่าวว่า คนที่มีโรคนั้นเป็นมลทิน. 16 แผลนั้นก็เป็นมลทินเพราะโรคเรื้อนนั้น. และถ้าว่าโรคนั้นกลายออกเป็นสีขาวแล้วให้คนนั้นมาหาปุโรหิต. 17 และปุโรหิตจะดูเขาถ้าเห็นว่าโรคนั้นค่อยคลายออกเป็นสีขาวแล้วปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนที่มีโรคอันคลายออกนั้นเป็นสะอาดหาเป็นมลทินไม่ 18 “คนที่มีเนื้อบวมขึ้นเป็นฝีแล้วหาย, 19 ถ้าในรอยแผลที่หายนั้นมีสีขาวหรือแดงเรื่อๆ และนูนขึ้นก็ต้องให้ปุโรหิตดู. 20 และถ้าเมื่อปุโรหิตดูแล้วเห็นว่าโรคที่มีอยู่ในหนังและขนนั้นกลายเป็นขาวแล้ว, ปุโรหิต จึงจะกล่าวประกาศว่าคนผู้นั้นเป็นมลทิน, เพราะเป็นโรคเรื้อนซึ่งบังเกิดในที่ฝีนั้น. 21 ครั้นปุโรหิตดูแล้ว เห็นว่าขนไม่กลายเป็นขาว และมิได้แผ่ลามออกไป, ปุโรหิตจึงจะขังคนนั้นไว้เจ็ดวัน. 22 และถ้าโรค นั้นลามแผ่ออกไปในหนัง, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่า, คนนั้นเป็นมลทินเพราะเขาเป็นโรคเรื้อนนั้น. 23 ถ้าที่แดงนั้นทรงอยู่มิได้ลามแผ่ออกไปอีกก็เป็นแต่สีแดง, แล้วปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนผู้นั้น หาเป็นมลทินไม่ 24 “หรือถ้าเนื้อหนังถูกไฟไหม้ และแผลนั้นมีที่แดง หรือแดงเรื่อๆ หรือขาว. 25 ปุโรหิตจึงจะดูที่นั้นถ้าเห็นว่าขนในแผลนั้นกลายเป็นขาว และดูลึกอยู่ในหนัง, ก็เป็นโรคเรื้อนบังเกิดขึ้นที่แผลอันไฟไหม้นั้น. เหตุฉะนี้ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่า, คนนั้นเป็นมลทินเพราะมีโรคเรื้อนนั้น. 26 และถ้าปุโรหิตได้ดูแล้ว, และเห็นว่าที่แดงนั้นไม่มีขนเป็นขาว และดูไม่ลึกในหนัง, และไม่แผ่ลามออกไปแล้ว ปุโรหิตจึงจะขังคนนั้นไว้เจ็ดวัน. 27 และในวันที่เจ็ดนั้นปุโรหิตจึงจะดูเขา, ถ้าเห็นว่าโรคนั้นแผ่ออกไปในหนังแล้ว, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นเป็นมลทินเพราะเป็นโรคเรื้อน. 28 และถ้าที่แดงนั้นทรงอยู่ไม่แผ่ลามออกไปในหนัง, และเป็นแต่สีดำอยู่หน่อยหนึ่งก็เป็นแค่แผลไฟไหม้, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นเป็นสะอาด แค่เป็นแผลไฟไหม้ 29 “ถ้าชายก็ดี หรือหญิงก็ดีมีโรคที่ศีรษะหรือที่หนวด, 30 จงให้ปุโรหิตพิจารณาดูโรคนั้น. ถ้าเห็นว่าเป็นลึกอยู่ในหนัง และมีขนบางๆ เป็นสีเหลือง, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นเป็นมลทิน, เพราะเป็นโรคเรื้อนอยู่ที่ศีรษะ หรือที่หนวดนั้น. 31 ครั้นปุโรหิตดูที่โรคนั้นเห็นว่าโรคนั้นไม่ลึกอยู่ในหนัง, และไม่มีขนดำ ๆ ที่แผลนั้น, ปุโรหิตจึงจะขังคนนั้นเจ็ดวัน. 32 ในวันที่เจ็ด ปุโรหิตจะดูคนที่มีโรคนั้นอีก. ถ้าเห็นว่าโรคนั้นไม่แผ่ลามออกไป, และขนไม่เป็นสีเหลือง และโรคนั้นไม่ลึกในหนัง, 33 จะต้องโกนศีรษะคนนั้นเว้นไว้แค่ที่แผล, แล้วปุโรหิตจึงจะขังคนนั้นไว้อีกเจ็ดวัน. 34 ในวันที่เจ็ดปุโรหิตจะดูที่แผลนั้นถ้าแผลนั้นไม่แผ่ลามออกไปในหนังหรือดูไม่ลึกในหนัง, ปุโรหิตจึงจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นเป็นสะอาด, และให้คนนั้น, ซักผ้าของตนเป็นสะอาด. 35 ครั้นชำระแล้วถ้าแผลนั้น ลามออกมากในเนื้อหนัง, 36 ปุโรหิตจึงจะดูคนนั้นอีก. และถ้าแผลลามออกในหนัง, ปุโรหิตไม่ต้องหาขนสี เหลืองแล้วคนนั้นเป็นมลทิน. 37 แต่ทว่าถ้าเห็นแผลยังทรงอยู่, และขนดำอยู่ก็สำคัญว่าแผลนั้นหาย, คนนั้นจึงเป็นสะอาด, และปุโรหิตจะกล่าวประกาศว่าคนนั้นเป็นสะอาด 38 “ถ้าชายก็ดีหรือหญิงก็ดีมีสีแดงๆ ในเนื้อหนัง, ปุโรหิตจึงจะดู. 39 และถ้าสีแดงในเนื้อหนังของเขานั้น, เป็นแค่สีดำแดงคนนั้นก็มิได้เป็นมลทิน 40 “และคนที่ผมร่วงก็เป็นหัวล้านคนนั้นก็มิได้เป็นมลทิน. 41 และคนที่ผมร่วงข้างหน้าก็เป็นล้านหนังคนนั้นก็ไม่เป็นมลทิน. 42 ถ้ามีแผลแดงเรื่อๆ ที่หัวล้าน หรือที่ล้านหนังนั้น, ก็เป็นโรคเรื้อนเกิดขึ้นที่ศีรษะของคนที่ผมร่วงนั้น. 43 ปุโรหิตจึงจะดูแผลนั้น, และถ้าแผลนั้นเป็นสีแดงเรื่อๆ ที่ศีรษะคนผมล้านนั้น, ก็เป็นโรคเรื้อนปรากฏในเนื้อหนังนั้น. 44 คนนั้นเป็นคนมีโรคเรื้อนเขาเป็นมลทิน, ปุโรหิตจะกล่าวประกาศว่า, คนนั้นเป็นมลทินทีเดียวเขามีโรคเรื้อนที่ศีรษะ 45 “และคนโรคเรื้อนนั้นจะต้องฉีกเสื้อผ้าของตนเสีย, และอยู่ศีรษะเปล่าและเอาผ้าปิดปากไว้ร้องว่ามลทินๆ. 46 วันทั้งหลายที่เขามีโรคเรื้อนติดอยู่นั้น, เขาก็ยังเป็นมลทินอยู่, เขาต้องอยู่ต่างหากนอกที่หยุดพัก 47 “ผ้าที่มีโรคติดอยู่จะเป็นผ้านุ่งหรือผ้าห่ม, 48 หรือผ้าชั้นในหรือชั้นนอก, หรือผ้าป่านหรือผ้าสักหลาด หรือของที่ทำด้วยหนัง: 49 และถ้าโรคนั้นเป็นสีเขียว หรือสีแดงที่ขานั้น, หรือที่หนังหรือที่ผ้าชั้นใน, หรือชั้นนอกก็เป็นโรคเรื้อน จะต้องเอาไปให้ปุโรหิตดู. 50 และปุโรหิตจะดูของที่มีโรคติดนั้นเก็บไว้เจ็ดวัน. 51 และวันที่เจ็ดนั้นปุโรหิตจะดูของนั้นอีกที, ถ้าโรคลามออกในผ้านั้น, หรือผ้าชั้นในหรือ. ชั้นนอก, หรือในของที่ทำด้วยหนัง, ก็เป็นโรคเรื้อนของเหล่านั้นเป็นมลทินอยู่. 52 ปุโรหิตจึงต้องเอาไฟเผาผ้าชั้นในหรือชั้นนอก, หรือสักหลาด หรือผ้าป่าน, หรือของที่ทำด้วยหนัง; เพราะเป็นโรคเรื้อนจึงต้องเผาไฟเสีย 53 “แต่ถ้าปุโรหิตจะดูเห็นว่าโรคนั้นไม่แผ่ลามออกที่ผ้า, หรือเสื้อชั้นในหรือชั้นนอก, หรือของที่ทำด้วยหนังนั้น. 54 ปุโรหิตจึงจะสั่งให้เขาเอาของที่มีโรคติดอยู่นั้นไปซักน้ำเสีย, แล้วปุโรหิตจะเก็บไว้อีกเจ็ดวัน. 55 ครั้นซักแล้วปุโรหิตจะดูของที่มีโรคติดอยู่นั้นอีก, ถ้าเห็นว่าโรคนั้นไม่คลายและไม่ลามไปอีกก็ยังเป็นมลทินอยู่ต้องเผาไฟเสีย 56 “ครั้นซักน้ำปุโรหิตจะดู, ถ้าเห็นว่าโรคนั้นกลายเป็นสีดำปุโรหิตจึงจะฉีกส่วนที่โรคติดออกจากผ้าชั้นในหรือชั้นนอกเสีย. 57 ถ้าโรคนั้นยังติดอยู่ที่เสื้อชั้นในหรือชั้นนอกหรือของที่ทำด้วยหนังนั้น, ก็เป็นโรคเรื้อน, ก็ต้องเผาผ้าส่วนที่มีโรคติดนั้นเสียด้วยไฟ. 58 และเสื้อชั้นในหรือชั้นนอกหรือของที่ทำด้วยหนัง, ที่ซักน้ำแล้ว, ถ้าโรคหายแล้วก็ต้องซักน้ำอีกครั้งหนึ่ง, และของเหล่านี้จึงเป็นสะอาด 59 “นี้เป็นบัญญัติด้วยโรคเรื้อน, ในผ้าชั้นในหรือชั้นนอก, หรือของที่ทำลายหนังจะให้กำหนดของสะอาดหรือ ๆ ของมลทิน” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society