เลวีนิติ 11 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พระยะโฮวาตรัสสั่งแก่โมเซและอาโรนว่าแก่เขาว่า, 2 “เจ้าจงกล่าวแก่พวกยิศราเอลว่า, ‘แต่บรรดาสัตว์ที่อยู่ทั่วโลกสัตว์ที่กินได้อย่างนั้นอย่างนี้: 3 คือสัตว์ที่มีกีบแยกออกเป็นสอง, และสัตว์ที่บดเอื้องท่านทั้งหลายจะกินได้, 4 แต่บรรดาสัตว์ที่บดเอื้องหรือมีกีบแยกออกที่กินไม่ได้นั้นอย่างนี้: คือตัวอูฐหนึ่ง, เพราะอูฐนั้นบดเอื้องได้แก่ ไม่มีกีบแยกออกเป็นสอง, เป็นสัตว์ไม่สะอาดแก่ท่านทั้งหลาย. 5 และตัวเลียงผา, เพราะเลียงผาบดเอื้องได้, แต่ไม่มีกีบแยกออกเป็นสอง, เป็นสัตว์ไม่สะอาดแก่ท่านทั้งหลาย. 6 และกะต่าย, เพราะกะต่ายบดเอื้องได้ แต่ไม่มีกีบแยกออก, ก็เป็นสัตว์ไม่สะอาดแก่ท่านทั้งหลาย, 7 และตัวหมู เพราะหมูมีกีบแยกออกเป็นสอง, แค่บดเอื้องไม่ได้, ก็เป็นสัตว์ไม่สะอาดแก่ท่านทั้งหลาย. 8 ท่านทั้งหลายอย่าได้กินหรือถูกต้องสัตว์เหล่านี้เลย, เป็นสัตว์ไม่สะอาดแก่ท่านทั้งหลาย 9 “แต่บรรดาสัตว์ที่ในน้ำเป็นสัตว์ที่กินได้: คือสัตว์ที่มีกะเชียงและมีเกล็ด, ที่อยู่ในน้ำทะเลและในแม่น้ำทั้งหลาย, สัตว์เหล่านี้ท่านทั้งหลายกินได้. 10 และบรรดาสัตว์ที่ไม่มีกะเชียงและเกล็ด, ที่อยู่ในน้ำทะเลและในแม่น้ำทั้งหลาย, บรรดาที่ไหวกายมีชีวิตอยู่, ในน้ำนั้นที่ไม่มีกะเชียงและเกล็ดจะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย. 11 สัตว์เหล่านี้เป็นของอันพึงเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย, ท่านทั้งหลายอย่าได้กินเนื้อสัตว์เหล่านี้เลย; เพราะว่าสัตว์เหล่านี้เป็นของุ่น่าเกลียด. 12 บรรดาสัตว์ที่ไม่มีกะเชียงและเกล็ดที่อยู่ในน้ำ, ก็เป็นของอันพึงเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย 13 “แต่บรรดาสัตว์ที่บินไปที่กินไม่ได้เพราะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย: คืออย่างนี้ นกอินทรีย์ และนกตะกรุม และเหยี่ยว. 14 และนกแร้งและนกกาตามเพศนกนั้น, 15 และนกแกตามเพศนกนั้น, 16 และนกกระจอกเทศและนกเค้าแมวและนกพาโร, และนกโอมอยตามเพศพันธุ์นกเหล่านั้น, 17 และนกโกชะและนกกาน้ำและนกกะเต็น, 18 และห่านและนกกระทุงและนกช้อนหอย, 19 และนกกะสาและนกขาบและนกค้างคาว 20 “บรรดาสัตว์ที่คลานไปด้วยเท้าทั้งสี่จะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย. 21 และบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่มีปีกและคลานได้ด้วยเท้า, ที่มีขากระโดดได้บนแผ่นดิน. 22 สัตว์เหล่านี้ที่จะกินได้คือจักระจั่นตามเพศพันธุ์สัตว์นั้น และตัวรองไนตามเพศพันธุ์สัตว์นั้น, และจิ้งหรีดตามเพศพันธุ์สัตว์นั้น และตั๊กแตนตามเพศพันธุ์สัตว์นั้น. 23 นอกจากสัตว์เหล่านี้แต่บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่มีปีก, และที่มีสี่เท้าจะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย. 24 เพราะสัตว์เหล่านี้จะพาให้ท่านทั้งหลายเป็นมลทิน. ผู้ใดถูกต้องซากศพสัตว์เหล่านี้จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น. 25 ผู้ใดนำซากศพสัตว์เหล่านี้ไปจะต้องซักผ้าของตน, และจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น. 26 ซากศพของสัตว์ทั้งปวงที่มี กีบแยกออกและไม่ได้บดเอื้อง, จะเป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย: ผู้ใดถูกต้องซากศพสัตว์เหล่านี้จะเป็นมลทิน. 27 และบรรดาสัตว์ที่เดินไปด้วยฝ่าเท้ามีสี่เท้าจะเป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย: ผู้ใดถูกต้องซากศพเหล่านี้จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น. 28 ผู้ใดนำเอาซากศพสัตว์เหล่านี้ไปจะต้องซักผ้าของตน, และจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น, สัตว์ทั้งปวงเหล่านี้จะเป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย 29 “แต่บรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานไปบนแผ่นดิน, สัตว์ที่เป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย, คือตัวเห็นและหนูและเหี้ยตามเพศพันธุ์สัตว์เหล่านี้. 30 และตัวตุ๊กแกและตัวกิ้งก่าและจิ้งจกและจิ้งเหลนและตัวแย้. 31 บรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานสัตว์เหล่านี้ย่อมเป็นมลทินแก่ท่านทั้งหลาย: ผู้ใดถูกต้องซากศพทั้งปวงสัตว์เหล่านี้จะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น. 32 ถ้าซากศพสัตว์เหล่านี้ตกลงทับสิ่งของใด ๆ ของสิ่งนั้นจะเป็นมลทินจะเป็นเครื่องไม้หรือเสื้อผ้า, หรือหนังหรือกระสอบหรือเครื่องภาชนะที่ใช้สอยก็ดี, ของนั้นจะต้องแช่น้ำไว้จนถึงเวลาเย็นจึงจะเป็นของสะอาด. 33 ถ้าตกลงบนเครื่องภาชนะดินของที่อยู่ในเครื่องภาชนะนั้นจะเป็นมลทิน, และภาชนะนั้นจะต้องทุบ ให้แตกเสีย. 34 ถ้าน้ำที่อยู่ในภาชนะอันไม่สะอาดนั้นจะไหลลงบนเครื่องกินเครื่องดื่ม, ของนั้นจะเป็นของมลทินจะเป็นของบริโภคไม่ได้. 35 ถ้าส่วนซากศพสัตว์เหล่านี้ตกลงในสิ่งของใดๆ, ของนั้นก็จะเป็นมลทิน, จะเป็นเตาไฟหรือหม้อข้าวก็ดี ของเหล่านี้จะต้องทำลายเสีย, เพราะว่าเป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย. 36 แต่เมื่อซากสัตว์เหล่านั้น, ตกลงในน้ำพุหรือ น้ำบ่อที่มีน้ำมากน้ำนั้นจะไม่เป็นมลทิน, แต่สิ่งของที่ถูกต้องซากสัตว์เหล่านั้นจะเป็นมลทิน. 37 ถ้าซากสัตว์เหล่านั้นตกลงบนข้าวพืชที่จะหว่าน ข้าวนั้นจะเป็นมลทิน. 38 แต่ถ้าเอานำแช่ข้าวนั้นไว้แล้ว, และซากสัตว์ตกอยู่ในน้ำนั้น, แล้วข้าวนั้นจะเป็นของมลทินแก่ท่านทั้งหลาย 39 “ถ้าสัตว์ที่ท่านทั้งหลายควรกินได้ตายเสียแล้ว, และผู้ใดถูกต้องซากสัตว์ที่ตายนั้นผู้นั้นจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น. 40 ผู้ที่กินสัตว์ที่ตายนั้นจะต้องซักผ้าของตนและจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น, และผู้ที่นำเอาเนื้อสัตว์นั้นไปจะต้องชักผ้าของคนและจะเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น 41 “สารพัตรสัตว์ที่เลื้อยคลานไปบนแผ่นดินจะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย, ท่านทั้งหลายอย่ากิน. 42 สัตว์ที่เลื้อยด้วยท้องและสัตว์ที่เดินไปด้วยเท้า, และสัตว์ที่มีเท้ามากบรรดาที่ไปบนแผ่นดิน, ท่านทั้งหลายอย่าได้กิน, เพราะเป็นของน่าเกลียดแก่ท่านทั้งหลาย. 43 ท่านทั้งหลายอย่าได้ทำตัวให้เป็นของน่าเกลียด. ด้วยสัตว์ที่เลื้อยคลานตัวใดตัวหนึ่ง, และอย่าทำให้ตัวเป็นมลทินด้วยสัตว์เหล่านี้เลย. 44 เพราะเราเป็นยะโฮวาพระเจ้าของท่านทั้งหลาย: ท่านทั้งหลายจงระวังตัวและเป็นคนบริสุทธิ์, เพราะเราเป็นบริสุทธิ์; และท่านทั้งหลายอย่าได้กระทำให้ตัวเป็นมลทิน, ด้วยสัตว์ที่เลื้อยคลานไปบนแผ่นดินอย่างใดอย่างหนึ่ง. 45 เพราะเราเป็นยะโฮวาผู้ที่ได้พาท่านทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินประเทศอายฆุบโต: เราเป็นพระเจ้าของท่านทั้งหลาย; เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ 46 “นี้เป็นบัญญัติว่าด้วยสรรพสัตว์ทั้งหลาย, คือสัตว์ที่อยู่บนแผ่นดินบนบก, และเหล่านกทั้งหลายที่บินไปได้ในอากาศ, และหมู่สัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตและว่ายอยู่ในน้ำ, และสรรพสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน. 47 เพื่อจะได้กำหนดรู้จักเหล่าสัตว์ที่สะอาดและไม่สะอาด, และจะได้กำหนดซึ่งสัตว์ที่กินได้และกินไม่ได้.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society