เพลงคร่ำครวญ 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พระยะโฮวาช่างคลุมบุตรีชาวซีโอนเสียด้วยเมฆในยามกริ้วได้อย่างไรกัน? พระองค์ได้ทรงทิ้งสง่าราศีของยิศราเอลให้ตกจากฟ้าลงถึงดิน, และในยามกริ้วไม่ได้ทรงระลึกถึงว่าเป็นแท่นรองพระบาทของพระองค์. 2 พระยะโฮวาได้เผาผลาญบรรดาบ้านเมืองแห่งยาโคบลงแล้วโดยปราศจากความสงสาร. ด้วยความกริ้วพระองค์ได้ทรงพังป้อมทั้งหลายของบุตรแห่งยะฮูดาให้ทะลายลง, พระองค์ได้โค่นป้อมทั้งหลายนั้นลงถึงดิน; พระองค์ได้ทำให้อาณาจักรและพวกเจ้านายในอาณาจักรนั้นได้รับความอัปยศ. 3 ด้วยความกริ้วพระองค์ได้ตัดบรรดาสิงห์แห่งยิศราเอลขาดเสียสิ้น; พระองค์ได้หดพระหัตถ์เบื้องขวามาเสียจากหน้าศัตรู: และได้เผาผลาญตระกูลยาโคบดุจเพลิงลุกโพลงไหม้กินไปรอบๆ. 4 พระองค์ได้โก่งธนูของพระองค์ดั่งว่าเป็นศัตรู, ยกพระหัตถ์เบื้องขวาทีท่าดุจปัจจามิตร, และได้ฆ่าบรรดาทารกที่น่ารักน่าชมในกะโจมแห่งบุตรีของซีโอนเสีย. พระองค์ได้จะบายความพิโรธของพระองค์ออกมาดุจเพลิง. 5 พระยะโฮวากลายเป็นดั่งศัตรู, พระองค์ได้เผาผลาญพวกยิศราเอลเสียหมดแล้ว, พระองค์ได้ทรงจุดบรรดาวังแห่งยิศราเอลให้ไหม้หมอนหมดไป, พระองค์ได้ทรงฟังป้อมคูประตูหอรบของยิศราเอลให้ทะลายลงเสียสิ้นแล้ว, ทรงทวีความเศร้าโศกและความพิลาปร่ำไรให้แก่บุตรีแห่งยะฮูดา. 6 พระองค์ได้พังพลับพลาของพระองค์เสียเหมือนหนึ่งเป็นแต่เพียงสวน; พระองค์ได้ทรงทำลายสถานที่ประชุมชนของพระองค์เสีย, พระยะโฮวาได้ทรงกระทำให้บรรดาพิธีการเลี้ยงทั้งการถือวันซะบาโตให้เป็นที่เฉยเมยในเมืองซีโอนเสียสิ้น, ด้วยความกริ้วพระองค์ได้เหยียดหยามองค์กษัตริย์และปุโรหิตของพระองค์. 7 พระยะโฮวาได้ทรงเขี่ยแท่นบูชาของพระองค์ทิ้งเสีย, พระองค์ได้รังเกียจโบสถ์ของพระองค์, กำแพงวังทั้งหลายนั้นพระองค์ได้มอบไว้ในเงื้อมมือศัตรู. เขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึกในโบสถ์แห่งพระยะโฮวา, เหมือนอย่างในวันพิธีการเลี้ยง. 8 พระยะโฮวาได้กะการไว้แล้วที่จะทำลายกำแพงแห่งบุตรของซีโอนเสีย: พระองค์ได้ขึงเส้นวัดไว้แล้ว, พระองค์ไม่ได้หดพระหัตถ์เลิกการเผาผลาญนั้น: เหตุฉะนี้พระองค์ได้ทรงบันดาลให้สีมาและกำแพงนั้นร้องไห้ร้องห่ม; ให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน. 9 ประตูเมืองซีโอนทั้งปวงทรุดลงในดินแล้ว, พระองค์ได้ทำลายและหักดานประตูทั้งปวงเสียหมดสิ้น: กษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายแห่งเมืองซีโอนก็ตกอยู่ท่ามกลางคนต่างประเทศ, และไม่มีรัฐบาลแล้ว; เออ, บรรดาศาสดาพยากรณ์แห่งเมืองซีโอนแสวงหานิมิตต์จากพระยะโฮวา, ก็หาไม่ได้แล้ว. 10 เหล่าผู้ปกครองของบุตรแห่งซีโอน, ก็กำลังนั่งอยู่บนพื้นแผ่นดิน, และไม่ได้พูดจาประการใด; เขาทั้งหลายเอาผงคลีดินซัดขึ้นบนศีรษะของตัว, เขาทั้งหลายนุ่งห่มด้วยผ้ากะสอบ: สาวๆ ทั้งหลายแห่งยะรูซาเลมคือตกถึงดิน. 11 นัยน์ตาของข้าพเจ้าก็ทรุดโทรมเพราะหลั่งน้ำตา, จิตต์ใจของข้าพเจ้าก็ระบมบอบช้ำแทบอาเจียนเป็นโลหิตตกลงดิน, เพราะความพินาศแห่งบุตรีของพลเมืองข้าพเจ้า, และเพราะเหล่าลูกเด็กเล็กแดงที่ยังดูดนมอยู่นั้นก็เป็นลมสลบอยู่ตามถนนหนทางในกรุง. 12 ลูกทั้งหลายนั้นถามแม่ของตัวว่า, “แม่จ๋า ข้าวและน้ำอยู่ที่ไหน? ” พากันถามขณะเมื่อเขากำลังหิวโหยอิดโรยดุจคนถูกทำร้ายที่ถนนหนหางในกรุง, ถามขณะเมื่อชีวิตของเขาต้องขาดออกจากนมแม่. 13 โอ้บุตรีแห่งยะรูซาเลมเอ๋ย, ข้าฯ จะเอาเจ้าไปเปรียบให้เหมือนกับอะไร? โอ้บุตรีสาวแห่งซีโอนเอ๋ย, ข้าฯ จะเอาเจ้าไปเปรียบได้แก่อะไร, เพื่อข้าฯ จะเล้าโลมเจ้าได้? เพราะความอับปางของเจ้าก็ใหญ่เทียมเท่าสมุทร: ผู้ใดจะซ่อมแซมได้เล่า. 14 ศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายได้เห็นนิมิตต์ลวงและนิมิตต์ไม่เป็นเรื่องเป็นราวมาบอกเจ้า: แทนที่เขาจะเผยบาปของเจ้าออกมาให้ประจักษ์เพื่อจะได้พ้นจากการเป็นชะเลย, เขาทั้งหลายกลับไปเห็นนิมิตต์ลวงและก่อให้เถิดเป็นเหตุถึงถูกขับไล่เสียจากเมือง. 15 บรรดาคนที่ได้ผ่านเจ้าไป, ก็ได้ตบมือเยาะเจ้า, เขาทั้งหลายได้เย้ยหยัน, และได้สั่นศีรษะเยาะบุตรีแห่งยะรูซาเลมแล้วว่า, “นี่หรือคือกรุงที่คนทั้งปวงได้ขนานนามว่างามหมดจด, ว่าเป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่วทั้งโลก? ” 16 บรรดาศัตรูของเจ้าได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาเจ้า; เขาทั้งหลายแสยะปาก, แลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอากับเจ้า; เขาพากันว่า, “พวกเราได้กลืนเมืองนี้ได้แล้ว; แท้จริงวันนี้คือวันที่พวกเราได้จ้องเสาะหา, พวกเราได้พบแล้ว, พวกเราได้เห็นแล้ว.” 17 พระยะโฮวาได้ทรงกระทำสำเร็จตามที่พระองค์ได้กะโครงการณ์ไว้แล้ว; พระองค์กระทำสำเร็จตามคำตรัสที่ตรัสไว้แล้วแต่เบื้องบรรพ์; พระองค์ได้ทรงพังทำลายลงไม่ได้เมตตา; ปล่อยให้ศัตรูชื่นชมสมน้ำหน้าเขา, พระองค์ได้ยกสิงห์ของพวกศัตรูของเจ้าขึ้น 18 จิตต์ใจของเขาทั้งหลายได้ร้องทุกข์แก่พระยะโฮวา, โอ้กำแพงแห่งบุตรีแห่งกรุงซีโอนเอ๋ย, จงหลั่งน้ำตาให้ไหลอาบทั้งกลางวันและกลางคืนดุจน้ำในลำธาร; อย่าได้หยุดหย่อนเลย; อย่าให้น้ำตาแห้งลูกตาเลย. 19 จงลุกขึ้นร้องไห้ในกลางคืนตั้งแต่ยามต้น, ล้วงความในใจของเจ้าออกมาตีแผ่ตรงพระพักตรพระยะโฮวา, จงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์เพื่อขอชีวิตของบรรดาลูกเด็กเล็กแดงของเจ้า, ที่หิวจนนอนสลบไสลตามหัวถนนหนหางทุกแห่ง 20 โอ้พระยะโฮวา, ขอทรงพิจารณาดูเถิด, ว่าพระองค์ได้กระทำการเช่นนี้แก่ผู้ใด! พวกผู้หญิงจะกินลูกของตัวหรือ, จะกินทารกที่ยังอุ้มอยู่หรือ? พวกปุโรหิตและพวกศาสดาพยากรณ์จะต้องประหารในโบสถ์แห่งพระยะโฮวาได้หรือ? 21 คนหนุ่มและคนแก่กำลังนอนเหยียดอยู่ตามพื้นดินในถนนหนทาง; หญิงสาวและชายหนุ่มของข้าพเจ้าถูกคมกะบี่หวดล้มลงแล้ว, พระองค์ได้ประหารเขาในวันเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว; พระองค์ได้ฆ่าเขาเสียและมิได้ทรงเมตตาเลย. 22 พระองค์ได้ทรงเชิญเขาทั้งหลายให้มาทำทีท่าดังว่าจะมีการเลี้ยง, พอถึงวันที่พระองค์ทรงพระพิโรธก็ไม่มีสักคนหนึ่งหนีเอาตัวรอดได้หรือคงเหลือตกค้างรอดตายอยู่: ผู้ที่ข้าพเจ้าได้อุ้มชูและเลี้ยงดูมานั้น, ศัตรูของข้าพเจ้าได้เผาผลาญเสียหมดแล้ว |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society